หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 26 วันที่ 30 ตุลาคม 2559

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 26 วันที่ 30 ตุลาคม 2559
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 26 วันที่ 30 ตุลาคม 2559
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 26
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 30 ตุลาคม 2559

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน นั่งตามสบาย ให้วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วย น้อมสําเหนียกไปด้วย หลวงพ่อก็ได้เพียงแค่พูดชี้แนะแนวทางว่าการเจริญสติเป็นอย่างนี้ การสร้างความรู้สึกรับรู้เป็นอย่างนี้ ให้พวกเราพยายามทํา พยายามทําแล้วก็หัดสังเกต หัดวิเคราะห์กายของเรา วิเคราะห์ใจของเรา

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ เสียก่อน สัก 2-3 เที่ยว อย่าไปบังคับลมหายใจ เสียงก็สักแต่ว่าเสียง การสูดลมหายใจ เราก็สูดลมหายใจตั้งแต่เกิด แต่ขาดการสังเกตเฉยๆ ก็เลยไม่รู้ว่าลมวิ่งเข้าเป็นอย่างไร ลมวิ่งออกเป็นอย่างไร การสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ผ่อนลมหายใจมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายก็จะสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้ตัวก็จะชัดเจน

ความรู้สึกพลั้งเผลอเราก็เริ่มขึ้นมาใหม่ ความรู้สึกพลั้งเผลอเราก็เริ่มขึ้นมาใหม่จนกว่าจะต่อเนื่อง จนกว่าจะเอาไปใช้การใช้งานได้ จนกว่าจะรู้เท่าทันใจของเรา จนกว่าจะรู้เท่าทันความคิดกับใจ เขาเกิดเขารวบรวมกันไปได้อย่างไร เรารู้ไม่ทัน เราก็ตั้งสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกใหม่ ใจก็จะกลับมาอยู่กับลมหายใจ ถ้ากําลังสติของเรามีความต่อเนื่องแรงกล้าขึ้น เขาก็จะเห็นการเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของความคิดในกายของเรา เห็นการเข้าไปรวมของใจ เห็นการแยก เห็นใจคลายออกจากความคิดซึ่งเรียกว่า แยกรูปแยกนาม คลายความหลง หรือ เรียกว่าสัมมาทิฏฐิ ความรู้แจ้งเห็นจริง

ใจพลิกจากของที่คว่ำมันมีกันทุกคน มีกันทุกคน แต่เราจะจัดระบบระเบียบให้ถูกต้องหรือไม่ อันนี้คือลักษณะของสติ อันนี้คือลักษณะของใจ ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่คลายจากความคิดเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่บริสุทธิ์เป็นอย่างไร คําว่าลักษณะของสมาธิ ใจที่ปกติ ใจที่สงบเป็นอย่างไร มีความหมายของคําว่าความปกติ หรือว่าศีลเป็นลักษณะอย่างไร

เราต้องรู้จักลักษณะหน้าตาอาการของใจของเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น หนุนกําลังสติปัญญาไปทําหน้าที่ อะไรเป็นกุศลหรือว่าอกุศล เราอย่าปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกมีค่ามากมายมหาศาล ทุกคนเกิดมา ถ้ามีความเกิดก็มีความเสื่อม มีความตาย ความตายไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลา ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ ไม่ว่ายาจก ไม่ว่าพระราชา ประเทศของเราก็สูญเสียองค์พระราชา พระเจ้าอยู่หัวของพวกเราไป ก็ดังที่เราได้ยินข่าวทราบข่าวกันนี่แหละ สูญเสียบุคคลที่มีอานิสงส์มากมายต่อประเทศชาติบ้านเมืองของเรา พวกเราก็พยายามหมั่นสร้างคุณงามความดีตอบแทนบุญคุณ ตอบแทนแผ่นดิน ตอบแทนที่ได้มาอาศัยอานิสงส์แผ่นดินของท่านอยู่

ตามความเป็นจริงทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนเป็นธรรมชาติหมด ใจของเราก็เป็นธรรมชาติ แต่เขาหลงเกิด เขาหลงมาเป็นทาสของกิเลส มาสร้างขันธ์ห้า มายึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวเป็นตน กายเนื้อแตกดับทางด้านสมมติ ก็เหลือแต่ทางด้านจิตใจที่จะไปต่อ ไปสร้างภพสร้างชาติต่อ บุคคลใดมาละกิเลส แยกรูปแยกนามเป็นปัญญา ละภพ ละชาติ ดับความเกิดได้ ก็มองเห็นหนทางเดิน ว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิดกัน

ตราบใดที่ใจยังเกิดก็ให้ยึดบุญเอาไว้ หมั่นสร้างบุญสร้างอานิสงส์ฝากเอาไว้ ใจก็จะได้มีที่พึ่งมีเข้าพกเข้าห่อ ดีกว่าจะทําใจของเราให้ไปสู่ที่ที่ทุกข์ที่ยากลําบาก สูงขึ้นไปก็สร้างบุญสร้างกุศล แต่ไม่หลงไม่ยึด โอกาสเปิดให้กับพวกเราทุกคน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนให้รีบทํา อยู่ที่บ้าน ที่ไร่ที่นา ที่ทําการทํางาน ทําบุญให้กับตัวเรา ทําบุญให้กับคนอื่น ความสมัครสมานสามัคคี ความเสียสละ ความอดทน

ตื่นขึ้นมาแต่ละเช้า ตื่นขึ้นมาเราสํารวจกายสํารวจใจของเรา เรามีความเสียสละเพียงพอหรือไม่ หรือว่าจิตใจของเรามีความกังวล มีความฟุ้งซ่าน หรือว่าจิตใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตนหรือเปล่า มีพรหมวิหาร มีความเมตตา มองโลกในทางที่ดี คิดดี จิตใจของเราฝักใฝ่ในบุญในกุศลหรือไม่ เราก็พยายามแก้ไขเสียขณะที่ยังมีกําลังกายที่แข็งแรงอยู่ มันไม่เหลือวิสัยหรอก ล้มก็ลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่มีที่ไป ไม่มีที่มา เข้ามาวัด มาสร้างบุญสร้างอานิสงส์ร่วมกัน

หลวงพ่อก็พาทําทุกอย่าง อะไรที่จะเกิดเป็นบุญให้กับมหาชน ให้กับทุกคน มีโอกาสก็ขอเชิญมาร่วมได้ตลอดเวลา หลายสิ่งหลายอย่าง หรืออยากจะมาร่วมสร้างมหาเจดีย์นี่ด้วยก็เชิญ หรือว่าอยากจะมาตั้งโรงทานก็มา โอกาสเปิดให้กับทุกคน ส่วนการเจริญภาวนา ส่วนการขัดเกลากิเลส เราต้องพยายามทําตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ตื่นขึ้น รู้กาย รู้ใจ แก้ไข อะไรผิดพลาดรีบแก้ไข อะไรไม่ดีก็รีบแก้ไข สักวันหนึ่งเราคงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน

เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทําความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง