หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 77 วันที่ 16 กันยายน 2560

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 77 วันที่ 16 กันยายน 2560
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 77 วันที่ 16 กันยายน 2560
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 77
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 16 กันยายน 2560

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้เราละไม่ได้ ก็ขอให้หยุดขณะที่เรากําลังเจริญสติอยู่นี้แหละ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อย่าไปบังคับลมหายใจ เราพยายามหัดสังเกต หัดสร้างความรู้ตัวตรงนี้แหละ ตั้งแต่ตื่นขึ้น รู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ความรู้สึกพลั้งเผลอเราก็เริ่มใหม่ ความรู้สึกพลั้งเผลอเราก็เริ่มใหม่จนปะติดปะต่อ จนเป็นความรู้สึกที่ต่อเนื่อง

ส่วนการเกิดการดับของใจ การเกิดการดับของขันธ์ห้า อันนั้นมีกันทุกคน ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเราก็จะเห็น เห็นการเกิดการดับของใจหรือว่าวิญญาณในกายของเราว่าเขาเกิดเขาก่อตัวอย่างไร เขาเคลื่อนเข้าไปรวมกับอาการของความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจคิด หรือว่าอาการของขันธ์ห้าเข้าไปรวมแล้วเป็นสิ่งเดียวแล้วไปด้วยกันได้อย่างไร ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเข้มแข็งสักวันหนึ่งเราก็คงจะเห็น

เรามาอบรมใจของเรา ชี้เหตุชี้ผล ให้ใจของเราอยู่ในความอ่อนโยน อยู่ในความอ่อนน้อม ใจของเราไม่ให้แข็งกระด้าง เป็นคนที่มีความเป็นระเบียบ มีความเป็นระเบียบวินัยในตัวของเรา เป็นคนที่มีความเสียสละออกจากใจ เสียสละกิเลสออกจากใจของเรา มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ศึกษาให้ละเอียด อันนี้กายเป็นลักษณะอย่างนี้ซึ่งเรียกว่า ก้อนรูป ส่วนวิญญาณซึ่งเป็นส่วนนามธรรมหรือว่าใจที่ปราศจากกิเลสเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ไม่เกิดเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่คลายจากขันธ์ห้าเป็นลักษณะอย่างนี้

ส่วนมากทุกคนก็ปรารถนาที่อยากจะดับทุกข์ อยากจะได้บุญ อยากทำบุญ ความอยากที่เกิดจากตัวใจนั้นก็เป็นฝ่ายกุศลอยู่ แต่ในหลักธรรมนั้นเราต้องดับความเกิด ความอยากนั่นแหละความเกิด ความอยาก อยากได้บุญหรือไม่อยากผลักไสหรือว่ายินดียินร้าย หรือว่าใจของเราเป็นกลางๆ พยายามศึกษาให้ละเอียด

อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง อย่าพากันปิดกั้นตัวเองว่าไม่มีโอกาส ทุกคนก็มีโอกาสหมดทุกคนตราบใดที่ยังมีลมหายใจ จะมีความเพียรมากความเพียรน้อย การขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเราได้หมดจดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคล การทำบุญให้ทานทุกคนก็ทำกันอยู่เป็นประจำ บารมีในระดับของสมมติตรงนี้ก็มีกันเป็นประจำ ส่วนวิมุตติการขัดเกลากิเลส การเดินปัญญา วิเคราะห์สังเกต ถึงเวลาใจของเราถึงจะคลายออก คลายความยึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี พยายามฝักใฝ่พิจารณากายพิจารณาใจของเราให้ได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมากายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหก หู ตา จมูก ลิ้น กาย ทำหน้าที่อย่างไร ภาษาธรรม ภาษาโลกเป็นอย่างไร

พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร เราต้องศึกษาคําว่าอัตตากับอนัตตาเป็นลักษณะอย่างไร สมมติวิมุตติเป็นลักษณะอย่างไร เราต้องเข้าถึงลักษณะหน้าตาอาการนั้นๆ ว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง แต่ละวันๆ บุญสมมติเราก็พากันทำ บุญสมมติภายนอกทำได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ที่ไหนโอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิด เรามีความพร้อมน้อมกายของเราเข้ามาช่วย น้อมใจของเราเข้ามาอนุโมทนาสาธุร่วม เราก็มีส่วนแห่งบุญ ก็ต้องการพยายามกันทั้งพระทั้งโยมทั้งชีให้ขยันหมั่นเพียรกัน อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง

ใกล้วันจะออกพรรษา เผลอแผล็บเดียว ด้านนี้พายุเข้าสองวันสามวันแล้วก็เคลื่อนคล้ายหายไป วันออกพรรษาก็ไม่ถึงเท่าไรประมาณสิบกว่าวันก็ออกพรรษากันแล้ว นี่แหละวันเดือนปีผ่านไปเร็วไวจัง วันพรุ่งนี้ก็จะมาเป็นวันนี้ เดือนหน้าก็จะมาเป็นวันนี้ ปีหน้าก็จะมาเป็นวันนี้ ภพนี้มีภพหน้ามี ภพมนุษย์หรือว่าอัตภาพร่างกายของเรานี้ภาษาธรรมท่านเรียกว่า ภพของมนุษย์ มีวิญญาณเข้ามาครอบครองหรือว่าตัวใจเข้ามาครอบครอง เขาหลงมาเกิดตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด ตั้งแต่ยังไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เขาก็หลง หลงเกิดในภพน้อยภพใหญ่ อันนั้นเราอย่าเพิ่งไปยุ่งเขา เรามาดูอยู่ใจในกายของเราที่เขาสร้างภพมนุษย์ขึ้นมาแล้วนี่มีอะไรบ้าง เขามาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเองแล้วก็เกิดต่อ ส่งไปภายนอกต่อนั่นแหละความเกิด เราก็ไปยินดียินร้ายเป็นทาสของกิเลส ทาสของอารมณ์

ท่านถึงมาให้มาสร้างผู้รู้หรือมาเจริญสติเข้าไปอบรมใจบ่อยๆ หมั่นขัดเกลากิเลสออกบ่อยๆ จิตใจของเราก็จะเบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งใจคลายใจหงาย เราก็ละกิเลส ดับความเกิดออกจากจิตจากใจของเราได้ ต้องเป็นบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง เราก็จะเข้าถึงทรัพย์นั้นๆ ทรัพย์ภายในซึ่งเรียกว่า อริยทรัพย์ ทรัพย์ภายใน ทรัพย์ภายนอกเราก็พยายามสร้าง อย่าไปมองข้ามในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนเราก็ช่วยกันทำ

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง