หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 62 วันที่ 25 สิงหาคม 2561

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 62 วันที่ 25 สิงหาคม 2561
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 62 วันที่ 25 สิงหาคม 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 62
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 25 สิงหาคม 2561

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ เราพยายามสร้างความรู้ตัว รู้กาย รู้สัมผัส ระลึกรู้ รู้สัมผัสของลมหายใจ ลมหายใจวิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรามีความรู้สึกรับรู้อยู่ ลมหายใจออกมีความรู้สึกรับรู้อยู่ ให้ต่อเนื่องให้เกิดความเคยชิน พยายามฝักใฝ่สนใจ สังเกตวิเคราะห์แล้วก็อบรมใจของเราอยู่ตลอดเวลา

การเกิดการดับของใจเป็นอย่างไร การเกิดการดับของรูปกาย ส่วนรูปธรรมเขาก็เกิดมาแล้วคือร่างกายของเรา ตั้งแต่เด็ก ผ่านการพัฒนาได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบ ได้ทำการทำงาน มีภาระหน้าที่การงานจนโตเป็นหนุ่มเป็นสาวมีครอบครัว แล้วก็ตกถึงวัยชราคร่ำคร่า เขาเกิดขึ้นมาตั้งแต่เป็นเด็ก พัฒนามาเรื่อยๆ ส่วนร่างกายของเรา ถึงวาระเวลา ขาขึ้นขาลง เขาเรียกว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ถ้าหมดลมหายใจก็แตกสลายกลับคืนสู่หลักของอนัตตา กลับคืนสู่ดินน้ำลมไฟ อันนี้ส่วนรูป ร่างกายของเรา

ในหลักธรรมเราต้องให้รู้ลึกลงไปอีกอะไรคือส่วนนามธรรม ตัววิญญาณในกายของเราหรือว่าใจของเราเป็นอย่างไร หรือว่าจิตของเรา เห็นความเกิดความดับของใจ เห็นความเกิดความดับของอาการของใจ ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมเขาเกิดขึ้นอย่างไร อาการเป็นอย่างไร หน้าตาเป็นอย่างไร ใจเกิดกิเลสเกิดความโลภ ความโกรธ ใจเกิดความทะเยอทะยานอยาก ทั้งอยากทั้งไม่อยาก เราพยายามหัดเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์อบรมใจ การเจริญสติที่ต่อเนื่องพวกเราทำกันได้แล้วหรือยัง

ส่วนศรัทธาทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการสร้างบารมีตรงนี้มีอยู่ มีอยู่ การทำบุญการให้ทาน การอโหสิกรรม การให้อภัย การฝักใฝ่ การสนใจ แต่ไม่ทำความเข้าใจว่าสติที่ต่อเนื่องกันเป็นลักษณะอย่างนี้ การเกิดอาการเริ่มเกิดของใจ อาการเริ่มเกิดของขันธ์ห้า ใจกับขันธ์ห้าเขารวมกันไปได้อย่างไร ซึ่งเรียกว่า ความหลง ถ้าเราคลายความหลง ใจคลายออกจากขันธ์ห้าได้ เพียงแค่เริ่มต้นของปัญญาหรือว่าสัมมาทิฏฐิ หรือว่าวิปัสสนา ความรู้แจ้งเห็นจริง เพียงแค่เริ่มต้น การตามดู การรู้การเห็น การเกิดการดับ ว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน

ในกายของเรานี้มีอะไรบ้าง อะไรคือกองของวิญญาณ อะไรคือกองรูป อะไรคือกองนาม ที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเกิดขึ้นจากใจของเรา เกิดขึ้นที่กาย ใจส่งเสริมหรือไม่ หรือว่าเกิดที่ใจโดยตรง หรือว่าทั้งสติปัญญาทั้งใจรวมกันไปทั้งก้อน เราต้องหัดจำแนกแจกแจง อันนี้คือลักษณะของการเจริญสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นอย่างนี้ สติที่ต่อเนื่องกันเป็นอย่างนี้ การควบคุมใจการอบรมใจ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นเรื่องของเรานะไม่ใช่เรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องของเรา

ส่วนแนวทางนั้นพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบมานานแล้ว เอามาเปิดเผยมาจำแนกแจกแจง ธรรมะก็มีอยู่ประจำโลก ถึงพระพุทธเจ้าไม่เกิดธรรมะก็มีอยู่ประจำโลก แต่องค์พระพุทธเจ้าเป็นองค์ค้นพบเอามาเปิดเผย ท่านถึงได้เป็นศาสดาเอกของโลก เราเป็นผู้เดินตาม ไม่ต้องไปได้ลำบากค้นคว้าหาแนวทางยาก ท่านได้เปิดวิธีการแนวทางแล้ว การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การสร้างบารมีเป็นอย่างนี้ แต่ละวันใจของเรามีความโลภ มีความโกรธ ใจของเรามีกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียด เรารู้จักละ รู้จักแก้ไข รู้จักอบรมหรือไม่ เรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือเปล่า มีความรับผิดชอบ มีความละอาย มีความกล้าหาญในสิ่งที่ควรกล้าหาญ ก็ต้องพยายามกันนะ เป็นเรื่องของเราทุกคน

อยู่ด้วยกันถึงเวลาก็ได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ เกิดมาเท่าไรตายหมด ไม่ตายช้าก็ตายเร็ว ถ้าพูดเรื่องความตายเราก็ไม่ค่อยชอบกันเท่าไร ถ้าพูดเรื่องของความร่ำรวยของทุกสิ่งทุกอย่างพากันชอบอยู่ เราต้องพยายามพากันพิจารณาให้รู้ให้เห็น ก่อนที่ยังมีกำลังอยู่ ถ้าหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป ให้เราพยายามทำ

ในหลักธรรมสร้างบุญไม่ยึดติดในบุญ อยู่เหนือบุญเหนือบาป ยังประโยชน์ ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในปัจจุบัน มีอะไรก็ช่วยกันทำ ทั้งในวัดทั้งนอกวัดมีอะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ช่วยกัน ความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน จะเอาตั้งแต่ธรรมไม่ละความเกียจคร้าน ไม่สร้างความขยันมันก็อยากที่จะเข้าถึง ธรรมเราต้องทำ ให้มีให้ปรากฏขึ้นที่กายของเรา ที่ใจของเรา รู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย ทำความเข้าใจได้ด้วย แล้วก็ละออกให้มันหมดจากใจของเรา จนเหลือตั้งแต่ความบริสุทธิ์ มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่ได้กลับมาเกิดกัน ก็ต้องพยายาม

สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ อยู่หลายคนก็เหมือนกะอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง