ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 67 วันที่ 5 สิงหาคม 2557

ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 67 วันที่ 5 สิงหาคม 2557
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 67 วันที่ 5 สิงหาคม 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 4 (ลำดับที่ 61-80)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 67
วันที่ 5 สิงหาคม 2557


ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สำรวจกายของเราแล้วหรือยัง สำรวจใจของเราแล้วหรือยัง เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องศึกษาจิตวิญญาณของเรา จะต้องทำความเข้าใจ แล้วก็รู้จักละกิเลสออกจากจิตจากใจของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืนเดินนั่งนอนกินอยู่ขับถ่าย


การเจริญสติที่ต่อเนื่องกันเป็นอย่างไร คำว่า ‘ปัจจุบันธรรม’ เป็นอย่างไร ภาษาธรรมภาษาโลกเป็นอย่างไร เราเข้าใจวิธี เราเข้าใจแนวทางแล้ว เราก็พยายามทำ ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่นอน พอตื่นขึ้นมาปุ๊บ ความรู้ตัว รู้กาย รู้การหายใจเข้าออก จะลุกจะก้าวจะเดิน จะเข้าห้องส้วมห้องน้ำ ทำโน่นทำนี่ ใจของเราปกติหรือไม่


อะไรคือตัวใจ อะไรคืออาการของใจ อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะเอาไปใช้กับชีวิตของเรา เราละกิเลสได้ระดับไหน เราดับความเกิดของใจของเราอยู่ในระยะไหน ต้นเหตุ กลางเหตุ ปลายเหตุ เราสังเกตความคิดที่ผุดขึ้นมา ใจของเราเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร ส่วนมากเขาเคลื่อนเข้าไปรวมแล้วแหละ เราก็รู้ว่าเราคิด คิดก็รู้ว่าคิด ก็หลงอยู่ในความคิดตรงนั้นอยู่ ความหลงอันนี้แหละ เขาเรียกว่า ‘มิจฉาทิฏฐิ-ความเห็นผิดในหลักธรรม’


ถ้าแยกได้ แยกได้ นี้ถึงจะเป็นสัมมาทิฏฐิ เพียงแค่เห็นถูก การทำความเข้าใจให้ถูก การละกิเลสให้หมดอีก ความเพียรก็ต้องยิ่งยวดอีก หลายสิ่งหลายอย่างก็ต้องพยายามเอา


หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เรายังมีกำลัง มีลมหายใจอยู่ อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลา ท่านถึงบอกว่าให้รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในวิญญาณในกายของเรา รอบรู้ในโลกธรรมที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว อะไรคือโลก อะไรคือธรรม


พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอัตตา อนัตตา สอนเรื่องชีวิตของเรา ไม่ได้สอนเรื่องอะไรอื่น สอนเรื่องการดำเนินชีวิต การคลาย การละกิเลสหยาบกิเลสละเอียด ให้ปรากฏให้เห็นให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา ท่านถึงบอกให้เชื่อ


ฝึกอย่างนี้ ดำเนินอย่างนี้ การสร้างบารมีอย่างนี้ อะไรคือกุศล อะไรคืออกุศล อะไรควรเจริญ อะไรควรละ จงอยู่ด้วยปัญญา บริหารด้วยปัญญา ปัญญาเราต้องสร้างขึ้นมา ความขยันหมั่นเพียรเราก็ต้องสร้างขึ้นมา ความรับผิดชอบเราก็ต้องสร้างขึ้นมา


อยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่าน ก็พยายามให้มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ อยู่ด้วยพรหมวิหาร ไม่ใช่คอยไปจับผิดคนโน้น คอยจับผิดคนนี้ อคติคนโน้นอคติคนนี้ กิเลสของเราทั้งนั้น เราก็ต้องคอยแก้ไข ยิ่งบวชเข้ามา อยู่กันคนละทิศละที่ มาอยู่ร่วมกัน เคยทำบุญร่วมกันนั่นแหละ ถึงได้มาอยู่ร่วมกัน


ขณะเรามาอยู่ร่วมกัน ก็เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปใส่ใจเขา มีอะไรเราก็ช่วยกันทำ ผิดพลาดแก้ไขใหม่ ตักเตือนกันได้ บอกกล่าวกันได้ ไม่ใช่จะเอาตั้งแต่ทิฏฐิ มานะ อัตตาเข้าห้ำหั่นกัน อย่างนั้นมีตั้งแต่คนกิเลสหนา เราจงเป็นบุคคลที่กิเลสเบาบาง ขัดเกลาตัวเรา จะไปถึงฝั่งได้เร็วได้ไว ก็ต้องพยายามเอา


วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง