หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 066

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 066
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 066
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ทุกคนทุกท่าน จงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน​แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง สร้างต่อเนื่องแล้วหรือยัง เรารู้ความรู้สึกตัวตรงนี้แหละ​ เรารู้เท่าทันจิต รู้ลักษณะจิต รู้ลักษณะของความคิดแล้วหรือยัง

พยายามหัดสร้างความรู้ตัวให้เกิดความเคยชิน ถ้าเราสร้างขึ้นมาได้ชำนาญแล้ว เราก็จะรู้จิต รู้การเกิดการดับของจิต ของความคิด​ ตัวจิตคลายออกจากอาการของความคิด ของความคิดนั่นแหละ ความรู้ตัวถึงจะพุ่งแรง ตามดู ตามรู้ ตามเห็น จนกลายเป็นมหาสติ​ กลายเป็นมหาปัญญา

แต่เราสังเกตตรงนี้ไม่ทัน เพียง​แค่การสร้างความรู้ตัวก็พลั้งๆ เผลอๆ ก็เลยรู้ไม่เท่าทัน เลยไม่เข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าท่านสอนเรื่องทุกข์ เรื่องดับทุกข์ การเกิดการดับ ความไม่เที่ยงของความคิด ของอารมณ์ ไม่เข้าใจถึงลักษณะของความว่าง ไม่เข้าใจลักษณะของการเกิดของขันธ์ห้า เพราะความรู้ตัว หรือว่าสติของเรามีกำลังไม่เพียงพอ ความคิดเก่า ปัญญาเก่าเขาเกิด เขาวิ่งไปก่อนหมด ก็เลยได้แค่อยู่ในกองบุญกองกุศล​ ฝักใฝ่ในบุญ ในการสร้างอานิสงส์​ สร้างตบะ​ สร้างบารมี

แต่เราก็อย่าไปทิ้ง พยายามขยันหมั่นเพียร ทำความเข้าใจ อันนี้ส่วนรูปธรรม อันนี้ส่วนนามธรรม ตัววิญญาณของเรา ไปอย่างไรมาอย่างไร เราต้องขัดเกลาเอา แก้ไขปรับปรุงตัวเราเอา เมื่อวานนี้ก็เป็นวันอุโบสถแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เดี๋ยวนี้ก็วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 พระสงฆ์เราก็มาเยอะร่วม 200 รูป พากันมาเยอะอยู่​ เห็นแล้วก็มีความสุข​ ใกล้จะออกพรรษา ออกพรรษาก็วันงานกฐิน วันที่ 23 ก็ขอเชิญชวนทุกคนมาสร้างอานิสงส์กัน มาตั้งโรงทาน กฐินสามัคคี เป็นกฐินสามัคคีร่วมกันวันที่ 23 วันปิยะมหาราชพอดี

ขณะที่ยังไม่ถึงวาระถึงเวลานั้น เราก็พากันสร้างอานิสงส์ สร้างประโยชน์ ดูแลช่วยกันรักษาทำความสะอาดให้เป็นปกติ ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั่นแหละ​ ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่ความสวยความงามที่เราช่วยกันทำ ที่ไหนมันไม่ดี เราก็ช่วยกันทำเสีย เก็บขยะเสีย สิ่งของต่างๆ กิ่งไม้ต่างๆ ดูแลต้นไม้ ทำให้ดี เขาก็ให้ความร่มรื่นกับเรา​ ทุกคนมาก็มีความสุข เดี๋ยวนี้ ทุกวันนี้ก็เข้ามาวัดแล้วก็มีความสุขกัน มีดอกไม้เต็ม มีให้ชม มีสวนเหมือนกับได้มาสวน เหมือนกับได้มาบ้านของเรา มีของเป็นสิริมงคลได้กราบไหว้สักการะ​บูชา

อยากจะดับทุกข์​ อยากจะหลุดพ้น ก็เจริญสติเดินปัญญา คลายความหลง ละกิเลสออกจากใจของเรา ค่อยทำค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินให้ถูกทาง อะไรที่ไม่ถูกทางก็พยายามละเสีย​ อย่าสร้างให้มีให้เกิดขึ้น จากความวุ่นวายจากน้อยๆ นั่นแหละ มันก็จะมากขึ้นๆ เราก็พยายามแก้ไขปัญหา ดับปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุเสีย มันก็ไม่เกิด อะไรที่จะเป็นประโยชน์ เราก็ทำ เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับทรัพย์ภายในของเราให้มันได้เสียก่อน ทำใจของเราให้เป็นเอก ให้เป็นหนึ่ง ทำใจของเราให้สงบ ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ให้ถึงจุดหมายปลายทาง ภายนอกเราก็ทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนตัว ต่อส่วนร่วม

อะไรที่จะนำความทุกข์ นำเหตุมาให้ เราก็ต้องพยายามตัดต้นเหตุ ละต้นเหตุ สมัยก่อนที่หลวงพ่อเข้ามาอยู่ใหม่ๆ ก็ได้สร้างได้ทำ พยายามแก้ไขอะไรที่จะนำความวุ่นวายมาให้ ก็ตัดออก น้ำมูกน้ำมนต์ เครื่องลางของขลัง สารพัดอย่าง ดูเลขดูหวยดูดวงอย่าให้มี มันไม่ใช่หนทาง จากน้อยๆ นั่นแหละ ก็เริ่มจากน้อยๆ นั่นแหละขึ้นมาๆ แล้วก็เกาะกลุ่มกัน ยิ่งใครเข้ามาปวารณาแล้วเรายิ่งห่างไกล​ อย่าเข้าใกล้ ไม่ใช่ว่าจะไปวิ่งหา แสวงหา​ ให้มาด้วยแรงบุญแรงอานิสงส์

แม้แต่การพูดการจา เราก็จะไปน้อมอะไรที่จะกายวิเวก ใจวิเวก อะไรที่จะมีความสงบ ความสะอาด ความเรียบ​ ความง่าย นั่นแหละคือหนทาง สร้างความขยันหมั่นเพียรให้กับตัวเรา มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ถ้าอานิสงส์ผลบุญบารมีของเรามีเพียงพอ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้ลำบากหรอก ไม่ต้องกลัวอดกลัวอยาก กลัวลำบาก ถึงวาระ ถึงเวลาแล้วก็หลั่งไหลมาเองนั่นแหละ ไม่ต้องไปดิ้นรน ไปแสวงหา ไม่ต้องไปคลุกคลี พยายาม​น้อมกาย น้อมใจของเราให้อยู่ในความสะอาด ให้อยู่ในความสงบ ให้อยู่ในความบริสุทธิ์ ถ้าถึงวาระเวลาแล้ว ก็​มีโอกาสเราก็ได้ทำงานร่วมกัน

มีอะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข ไม่ใช่ว่าจะไปก็ไปเกาะกลุ่มพูดคุยกัน ตั้งก๊กตั้งเหล่า อันนั้นมันไม่ใช่หนทางที่จะหาทางดับทุกข์ หาทางหลุดพ้นได้เลย เราพยายาม ไม่ว่าพระว่าชีให้เป็นแนวทางอันเดียวกัน อย่าไปแบ่งก๊กแบ่งเหล่า​ ว่าก๊กนั้น จุดนั้นจุดนี้ คนโน้นคนนั้นคนนี้ เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เรามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มีอะไรเราก็มีความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน มีความเสียสละ ไม่ใช่ว่าก็เห็นผ่านๆ มาก็เยอะ ตั้ง 10 20 ปี 30 ปี บางทีมีพระเยอะๆ ก็ไปบิณฑบาตด้วยกัน

บางทีก็องค์ข้างหน้าก็บิณได้ ก็ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ว่าตัวเองบิณได้อย่างนั้นอย่างนี้​ แล้วก็หอบหนี คนอยู่ข้างหลังก็ไม่ได้อยู่ได้ฉันก็มี แค่ความเสียสละ ​ความแบ่งปันไม่มี มันจะไปปล่อยไปวางได้อย่างไร การไปบิณฑบาตรก็ต้องไปเป็นหมู่เป็นคณะ คนข้างหน้าก็คอยดู​คนข้างหลัง คนข้างหลังก็คอยดูคนข้างหน้า​ ว่าเราเดินช้าหรือเดินเร็ว​ เราต้องคอยพยายาม เอาตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเจริญสติไปด้วย หัดสังเคราะห์ หัดวิเคราะห์ใจของเราไปด้วย ไปรับบิณฑบาตรเจริญสติไปด้วย

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ให้ได้ทุกเรื่องทุกอย่าง เข้ามาแล้วความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสถานที่ที่พักอาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ห้องส้วมห้องน้ำ ถ้าไม่มีสิ่งพวกนี้ทางสมมติ เราก็ลำบาก ยังอัตคัด หลวงพ่ออุตส่าห์พยายามสร้างทุ่มเทให้ทั้งกำลังกาย กำลังใจ ก็มาช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษาต่อ​ ความเป็นระเบียบ​ ความสะอาดนั่นแหละคือข้อวัตร สะอาดจากข้างในและข้างนอก ทีนี้การละกิเลส การดับความเกิด ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเราแต่ละบุคคล ไม่ใช่ว่าจะไปขึ้นอยู่กับคนโน้น ขึ้นอยู่คนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราทั้งนั้นแหละ

แม้แต่เวลารับประทานข้าวปลาอาหาร การขบการฉัน ก็อย่าให้ใจของเราเกิดความอยาก อยากในอาหาร อยากในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง เราก็ต้องละ​ เราต้องดับ​ มันเป็นเรื่องของเราทั้งชีวิตเลยทีเดียว แล้วก็เป็นเรื่องของเราที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสังคม เพราะว่าเราก็ยังอยู่กับหมู่อยู่กับคณะ ยังอยู่กับโลกธรรมอยู่ กายของเราก็ยังเป็นก้อนโลกอยู่ เราก็ต้องแก้ไข

ใจของเราร่วมกับสังคม ก็ให้ใจของเราสงบนิ่งได้ทุกอิริยาบถ กายของเราเข้าร่วมหมู่คณะ ก็ให้ใจของเราอยู่ในความสงบ อยู่ในสมาธิ แม้แต่กลางโรงหนังกลางตลาด แม้แต่กายจะแตกจะดับ ตอนนี้เราทิ้งสมมติไม่ได้ เพราะว่ากายของเรานี่แหละคือก้อนสมมติ หมดลมหายใจเมื่อไหร่นั่นแหละ เราถึงจะได้วางสมมติก้อนนี้

ขณะที่เรายังมีลมหายใจ เราก็ช่วยกันดูแล สมัยก่อนหลวงพ่อก็อยู่เพียงแค่องค์เดียว ก็อยากจะทำให้หมู่ให้คณะ ให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข ใครเข้ามาก็อยากให้ได้รับอานิสงส์แห่งบุญ ทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังใจ พวกเราก็มาช่วยกัน เป็นหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง อย่าพากันเกียจคร้าน ให้พากันขยันหมั่นเพียร

พวกเราจากไปแล้ว คนรุ่นหลังก็ได้มาสร้างมาสานต่อ ไม่ต้องได้ลำบาก ถ้าพากันมาทำลายแล้วอย่าทำ อย่าคิด เพียงแค่คิดว่าจะทำ แล้วก็อย่าทำ​ อะไรที่จะนำพาความเสื่อมมาให้ เราก็พยายามละเสีย ให้​นำความเจริญ ไม่ต้องไปกลัวอด ไม่ต้องไปกลัวลำบากหรอก ถ้าอานิสงส์ผลบุญ​ผลทานของเรามีเพียงพอ มีแต่ความล้นเหลือ ล้นหลามเข้ามา

เพียงแค่การฝึกฝนใจของเราให้ดี ไม่ต้องไปวิ่งตามกิเลสคนโน้น วิ่งตามกิเลสคนนี้ ไปติดต่อคนโน้น ไปติดต่อคนนี้​ เรื่องมันวุ่นวาย

พระเราก็พยายาม​ แต่ละองค์ แต่ละท่านก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ หาทางหลุดพ้น พระเรานี่แหละพยายามนะ ฆราวาส​ก็เหมือนกัน​ ญาติโยมบางคนก็มาฟ้องหลวงพ่ออยู่บ่อย อยู่เหมือนกันว่าพระเรานี้ชอบเที่ยวโทรศัพท์ไปหาคนโน้นหาคนนี้ ไปขอโน่นไปขอนี่​ มันไม่ใช่วิสัยของพระ ให้เลิกเสียไปติดต่อคนโน้นติดต่อคนนี้​ ต้องการอันนั้น ต้องการอันนี้ อย่าทำตัวเป็นขอทาน​ มันไม่ใช่ ให้พยายามฝึกฝนตนเอง บวชเข้ามาแล้วแทนที่จะมาขัดมาเกลามาละ กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร

อย่าให้หลวงพ่อได้ยินสิ่งพวกนี้ เรื่องดูหมอดูดวงก็เหมือนกัน​ ญาติโยมเขาก็เข้ามา มาถามวัดนี้ดูหมอเหรอ วัดนี้ดูดวงเหรอ​ พระองค์นั้น พระองค์นี้สั่งให้มาให้มาดูหมอดูดวง​ เลิกนะ ได้ยินหลายเที่ยวด้วย​ ก็มาถามหา นี่แหละถ้าใครประพฤติปฏิบัติขัดเกลาตัวเอง แล้วก็พยายามแก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง

นั่นไม่ใช่หนทาง มีตั้งแต่จากความเสื่อม นั่นแหละความเสื่อมมันเริ่มเกิดขึ้น จากน้อยๆ นั่นแหละ​ มากขึ้นๆๆ แล้วก็สร้างสะสม แทนที่จะห่างไกล​ แทนที่จะหาทางดับทุกข์ ทำใจของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ มีแต่จะคลุกคลี จากน้อยๆ ไปหามากขึ้นๆ ก๊กกูก๊กมึง อาจารย์กูอาจารย์มึง อาจารย์ดีอย่างนั้นอย่างนี้ มีแต่พวกเลข พวกหวย พวกดวง พวกอะไรสารพัดอย่าง มีแต่ความโง่ ความหลงเข้าครอบงำ จากน้อยๆ ไปหามากๆ ขึ้น​ แทนที่จะเดินทางได้เร็ว กลับมีแต่จะฉุดจะรั้ง​ เสียดายสถานที่ น่าละอาย พยายามละ พยายามห่างไกล อย่าให้มี อย่าให้เกิดขึ้น ต้องไปในทางเส้นเดียวกัน อย่าให้มันมี ให้มีได้แต่ความสุข​สงบ สะอาด สว่าง กายวิเวก ใจวิเวก แล้วก็พยายามเอา

การคลุกคลีกับฆราวาสญาติโยมก็อย่าไป ไม่จำเป็นอย่าไปคลุกคลี ให้ค่อยพูดค่อยจาเรื่องธุระปะปังแล้วก็เสร็จ ไม่ใช่วิสัยของพระที่จะไปคลุกคลี ไปติดต่อไ ปดิ้นรน ไปแสวงหา​ เห็นใครแล้วก็วิ่งเข้าหา ไม่ใช่ทำตัวเป็นขอทาน

เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไว้พระพร้อมๆ กันพากันไปสร้างต่อสานทำความเข้าใจนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง