หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 147

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 147
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 147
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติตามความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบายไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ตามความระลึกรับรู้สัมผัสทางลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจไว้ยาวๆ

เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสร้างความรู้ตรงนี้ให้เกิดความเคยชิน ถึงเราไม่รู้เขาก็หายใจอยู่แล้วแหละ แต่เรามาสร้างความรู้สึกตัวใหม่ซึ่งเป็นสติปัญญาที่จะเข้าไปสำรวจเข้าไปรู้กายรู้ใจของเรา รู้แล้วก็รู้ลักษณะหน้าตาอาการแล้วก็สร้างให้ต่อเนื่อง เพียงแค่การทำให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ ก็ยังไม่ชำนาญ เพราะว่าความคิดเก่าปัญญาเก่าที่เกิดจากตัววิญญาณหรือเกิดจากอาการของขันธ์ห้าตรงนั้นเขามาปิดกันเอาไว้หมด ก็เขาหลงมานานเขาหลงมานาน เราจะไปแยกไปคลายได้เราก็ต้องมาสร้างปัญญาเสียก่อน มาเจริญสติให้ต่อเนื่องให้ได้เสียก่อน ทั้งที่ใจเป็นบุญใจอยากจะได้บุญ

ไม่มีใครปรารถนาที่จะให้ใจของเรามีความทุกข์หรอก ทุกคนก็ปรารถนาหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น แต่ไม่เข้าใจวิธี ไม่เข้าใจแนวทาง ถึงสร้างเรื่องใดความทุกข์มาทับถมตัวเองด้วยการเกิด ใจที่เกิดอยู่ตลอดเวลา ใจที่เป็นทาสของอารมณ์ทาสของกิเลส แล้วก็ใจหลงความคิดหลงอารมณ์ หลงมานานจนแกะได้ยากคลายได้ยาก บางคนก็คลายง่ายเพราะว่าสร้างตบะสร้างบารมีมาดีด้วยการขัดเกลากิเลส ด้วยความเสียสละ ละกิเลสออกจากใจของตัวเราเอง มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ อยู่ตลอดเวลาก็เลยคลายง่าย บางคนก็คลายยากบางคนก็คลายง่ายแต่ก็ไม่เหลือวิสัย

ถ้าเรามาเจริญสติก็ไปวิเคราะห์ดู มีเรื่องเดียวเท่านั้นแหละคือแยกรูปแยกนามให้เห็นชัดเจน แล้วก็ละกิเลสออกจากใจของเรา พูดง่ายแต่การทำให้มันยากเพราะว่าสร้างสะสมมานาน กว่าจะขัดเกลาออก กิเลสหยาบๆ ออกแล้วก็ยังไม่พอยังขาดยังเหลือกิเลสละเอียดอีก กิเลสละเอียดเรายังไม่พอยังดับตัววิญญาณอีกไม่ให้เกิดอีก หนุนกำนันสติปัญญาเข้าไปเกิดแทน ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็พยายามทำ อย่าไปทิ้งบุญอย่าไปทิ้งวัด มีสติปัญญาทางโลกิยะนั้นมีกันเต็มเปี่ยมมาตั้งหลายภพหลายชาติแล้วแหละ มันหลงวนเวียนว่ายตายเกิดมานาน

เรามาเจริญสติปัญญาในทางธรรม เอาดำเนินตามคำสอนของพระพุทธองค์ สัจธรรมความจริง ท่านสอนเรื่องสัจธรรมความจริง ‘สัจจะ’ ความจริงอันประเสริฐอยู่ในกายของเราคือหนทางดับทุกข์ละทุกข์ได้ เราก็เข้าใจในหลักของอริยสัจ เข้าใจในสมมติวิมุตติ ก็ต้องพยายามกันนะ พระเราชีเรา เราอย่าทำของยาก เราอย่าทำของง่ายให้เป็นของยาก เราจงพยายามทำของยากให้เป็นของง่าย ดูรู้ไปเรื่อยๆ รู้ไม่ทันเราก็ดับเราก็ละเอาไว้ เราก็หยุดเอาไว้จนกว่าจะวิญญาณคลาย

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ลักษณะของคำว่าสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร รู้ที่ต่อเนื่องกันเป็นลักษณะอย่างไร กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร จะไปแสวงหาธรรมแสวงหานอกกายหาไม่เจอเด็ดขาด ต้องรู้ฐานของกายแล้วก็รู้ฐานของใจ เน้นสติลงที่กายของเราให้ได้เสียก่อน มีความสุขในการวิเคราะห์ในการพิจารณา มีความสุขในการ ฝึกหัดปฏิบัติ เอาการงานเป็นการปฏิบัติ ปฏิบัติขณะที่เรายังลืมตายังอยู่กับปัจจุบันนี่แหละ

ตากระทบรูปใจเป็นอย่างไร หูทบเสียงใจเป็นอย่างไร ลักษณะของนามธรรมเขาก่อตัวอย่างไร ความคิดที่เกิดๆ ดับๆ มันเกิดอย่างไร ถ้าเรารู้แล้วสติรู้แล้วใจรับรู้แล้ว ตามดูรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างจนใจมองเห็นความเป็นจริงเขาไม่เอาหรอก การเกิดเป็นทุกข์ก็ไม่เอา เป็นทาสของกิเลสก็ไม่เอา ใจปรุงแต่งส่งออกไปภายนอกก็ไม่เอาหรอกเพราะมันเป็นทุกข์ เราต้องรู้ต้นเหตุให้ได้เสียก่อน ส่วนมากจะไม่รู้ต้นเหตุ มีแต่จะวิ่งตามกลางเหตุปลายเหตุในขณะที่เขารวมกันไปหมดแล้ว ก็ต้องพยายามกัน

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ ทำใจให้สงบทำใจให้ปกติ ถ้าใจจะโล่งว่างจริงๆ มันต้องแยกต้องคลายได้เสียก่อน มันถึงจะพูดได้เต็มปากว่าใจว่าง ว่างจากการเกิด ว่างจากกิเลส ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น ว่างจากสมมติต่างๆ ซึ่งจะพูดได้เต็มปากว่า ว่างๆ ๆ ด้วยความเป็นจริง แต่ในใจของเรายังไม่คลายมันก็เพียงแค่ความสงบ

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันนะ ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ หลวงพ่อเพียงแค่เล่าให้ฟังเท่านั้นเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง