หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 113

เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ พยายามหัดสร้างความรู้ตัวแล้วก็รู้จักสังเกต ดูจากวิเคราะห์ว่ากายของเราเป็นอย่างไร ใจของเราเป็นอย่างไร ลักษณะของใจที่ไม่เกิดลักษณะของใจที่ปกติ ลักษณะอาการของความคิดที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ ใจเคลื่อนเข้าไปรวมกับความคิดได้อย่างไร ใจปรุงแต่ง​ใจเกิดกิเลสได้อย่างไร เราต้องหัดสร้างความรู้ตัวรู้กาย รู้กายแล้วก็รู้ใจ รู้จักวิเคราะห์เห็นการเกิดการดับ ตามทำความเข้าใจ ทำความเข้าใจกับภาษาธรรมภาษาโลก

ภาษาธรรมหมายถึงตัววิญญาณหรือว่าตัวใจคลายออกจากความคิด แล้วก็ว่างรับรู้ใจของเราก็เป็นธรรม ใจทุกคนเป็นธรรมแต่การเกิดของใจมีอยู่ การเกิดความยินดียินร้ายการปรุงการแต่ง เราต้องมาหยุดไม่ให้ใจของเราปรุงแต่ง ถ้าใจไม่เกิดใจไม่ปรุง​ไม่แต่งเขาก็สงบ ใจไม่มีกิเลสไม่มีความยึดมั่นถือมั่นเขาก็ว่าง แต่การเกิดเขามีอยู่เราต้องมาดับความเกิดอีก หนุนกำลังสติหนุนกำลังความรู้ตัวที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละให้เร็วให้ไว เอาไปใช้เอาไปทำหน้าที่แทนใจให้ใจรับรู้ แล้วก็ทำความเข้าใจกับขันธ์ห้าของเราให้ละเอียด ทำความเข้าใจกับโลกธรรมแปดในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว

ทำความเข้าใจกับทวารทั้งหกของเรา ตาทำหน้าที่ดู​เราก็ห้ามไม่ได้ หูทำหน้าที่ฟังเราก็ห้ามไม่ได้ รูปกลิ่นเสียงสัมผัสต่างๆ ก็จะเข้ามาทางทวารทั้งหกของเรา ส่งเข้าไปถึงตัววิญญาณหรือว่าตัวใจ ถ้าเรามีความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเราก็จะเห็นจะรู้เท่าทัน ใจรับรู้ ส่วนมากก็มีตั้งแต่ใจปรุงแต่งส่งออกไป ใจกับปัญญาหรือว่าใจกับสติรวมกันไปส่งออกไป เราต้องจำแนกแจกแจงออกให้เห็นเป็นคนละส่วนกัน คนละส่วนแต่เขาก็อยู่ในกายเนื้อของเรา

เราถึงจะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์​มีไม่มากหรอก หมั่นพร่ำสอนตัวเราหมั่นแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ทำหน้าที่ของเราให้ดี ใจของเราดีถึงภายนอกไม่ดีใจของเราก็ดี ไม่ใช่เที่ยวไปตำหนิที่โน่นตำหนิที่นี่ อคติที่โน้นอคติที่นี่ นั่นแหละกิเลสมลทิน เกิดขึ้นกับใจของเรา ถ้าใจของเราดีภายนอกไม่ดีใจของเราก็ดีเหมือนเดิม อะไรที่จะนำความเสื่อมมาให้เราก็พยายามละพยายามดับ อะไรที่จะนำความสงบความสุข ความสะอาดความสว่าง เงียบเรียบง่ายนั่นแหละคือหนทาง ทำให้ใจของเราโล่งโปร่งว่าง ปราศจากกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเราก็ขัดเกลาตัวเรา บุคคลที่มีบุญ มีสติมีปัญญาจะหมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราตลอดเวลา อะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข พูดน้อยนอนน้อย ปฏิบัติฝึกขัดเกลาให้มากๆ

คุยกับใจของเรา สติปัญญาคุยกับใจของเรา อะไรควรละอะไรควรเจริญ ดูไม่ทันต้นเหตุเราก็รู้จักควบคุมเอาไว้ ไม่ใช่จะจับกลุ่มคุยกันอย่างเดียว เราก็ต้องพยายามพยายามประคับประคองความเพียรของเราให้ต่อเนื่อง สำรวมกายสำรวมวาจาแล้วก็สำรวมใจก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิด ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ความคิดมันเกิดจากจุดไหนอีก อาการของความคิดเป็นกุศลหรือว่าอกุศล เป็นเรื่องอดีตเรื่องอนาคต ใจเป็นตัวคิดตัวปรุงตัวแต่งเรื่องสติปัญญา

แม้แต่สติปัญญาแค่เป็นอกุศลเราก็ให้ละให้ดับไม่ให้ใจของเราก็ไปยุ่งเกี่ยว บุคคลที่มีบุญก็จะไปได้เร็วได้ไว ขัดเกลากิเลสได้เร็วได้ไวเพราะว่าใจปล่อยใจว่างใจเอาออก ใจให้มีตั้งแต่เอาออกมีตั้งแต่ให้มีตั้งแต่คลาย เรามาดับความเกิด คลายจากวัตถุต่างๆ แล้วก็มาคลายจากความคิดซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกัน แล้วก็มาดับที่นั่นหยุดที่นั่นหยุดที่นี่กิเลสต่างๆ​ ก็เหือดแห้งไป

เพียงแค่เราเห็นตั้งแต่การก่อตัวของใจ เขาก่อตัวอย่างไร เราหยุดตั้งแต่การก่อตัว กำลังส่งออกไปภายนอกก็จะไม่มี เกิดอีกเราก็ดับอีกเกิดอีกเราก็ดับอีก จนความคิดที่ผุดขึ้นมาที่เราไม่ได้ตั้งใจคิด​นั้นก็พยายามดูว่าเขาก่อตัวอย่างไร ขณะเขาเกิดตัวใจจะเคลื่อนเข้าไปรวมอีก ถ้าเรารู้เท่าทันตรงนั้นใจก็จะดีดออกจากความคิดตรงนั้น เขาเรียกว่าพลิกจากสมมติไปหาวิมุตติ เขาเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ เพียงแค่แยกได้ครั้งเดียวยังไม่พอ ต้องตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง ดับความเกิดให้ได้ทุกเรื่องจนใจไม่เกิดจนใจอยู่ในความว่าง สติปัญญาสมาธิก็จะรักษาเรา

ช่วงใหม่ๆ ความรู้ตัวไม่มีเราก็ต้องสร้างสานขึ้นมาให้ต่อเนื่อง แล้วก็รู้จักรักษารู้จักเอาไปใช้ อันนี้เป็นส่วนรูปนะอันนี้เป็นส่วนนามนะ อันนี้เป็นส่วนสมมติอันนี้เป็นส่วนของวิมุตติ เขาอยู่กันคนละส่วนกันอยู่ พยายามกันนะ นี่ก็ใกล้จะวันออกพรรษาก็เหลืออีกไม่นาน วันแรม 10 ค่ำ 15​ ค่ำ วันแรม 15​ค่ำ นี่ก็จะได้มีลงอุโบสถสังฆกรรมกัน อีกครั้งคงจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะมาร่วมกันที่วัดของเรา มีโอกาสก็ขอเชิญชวนญาติโยมพี่น้องเราทุกคนมาร่วมในการทำบุญ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ยากที่เราจะได้ทำบุญกัน

วันนี้ก็หลังจากออกพรรษาไปก็งานกฐิน งานกฐินที่วัดของเราวันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นกฐินจากทาง 3K แบตเตอรี่ ซึ่งเป็นกองบุญใหญ่กองทุนใหญ่ ท่านมีอานิสงส์ มีบุญท่านก็ได้มาทำทอดถวายกฐินที่วัดเราแทบทุกปี เป็นอานิสงส์ใหญ่ของทุกคน ก็ขอเชิญชวนพี่น้องอยากจะมาร่วมกฐินก็เป็นกฐินสามัคคีกัน

เผลอแพล๊บ​เดียวปีหนึ่ง วันเดือนปีผ่านพ้นไปเร็วไว เราก็ต้องพยายามอะไรที่ไม่ดีเราก็พยายามละอะไรที่ดีเราก็พยายามเจริญให้มีให้เกิดขึ้น ฝากอานิสงส์แห่งบุญเอาไว้กับสมมติ สมมติภายนอก เราก็พอได้รับอานิสงส์แห่งบุญนั้น ส่วนชำระสะสางกิเลสให้สะอาดให้บริสุทธิ์ก็ขึ้นอยู่กับตัวของเราเองนะ ก็ต้องพยายามกัน

เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ