หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 038

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 038
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 038
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนืให้ต่อเนื่องกัน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่ปลายจมูกของเรา ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ

เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสังเกต ขาดการวิเคราะห์กันมากเลยทีเดียว หายใจเป็นอย่างไรถึงจะหายใจคล่องแคล่ว หายใจอย่างไรถึงจะมีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจน หายใจอย่างไรถึงเป็นธรรมชาติที่สุด หายใจอย่างไรถึงจะไม่อึดอัด เพียงแค่ความรู้สึกตัวตรงนี้พวกเราก็ขาดการสร้างขึ้น

ถ้าเรามีความรู้สึกรับรู้ให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่ามีสติรู้ตัว รู้กาย รู้ลมหายใจเข้าออก อันนี้เขาเรียกว่า ‘รู้กาย’ ถ้ารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ พยายามฝึกให้เกิดความเคยชินตั้งแต่ยังไม่ตื่น ตั้งแต่ลุกจากที่ปุ๊บความรู้สึกรับรู้ รู้กายปุ๊บ ลึกลงไปรู้ความปกติของใจ จะลุกจะก้าวจะเดินใจปกติ จะทำโน่นทำนี่ให้ใจปกติ จะเข้าห้องส้วมห้องน้ำ ทำกับข้าวกับปลา จะลุกจะก้าวจะเดิน ความรู้สึกรับรู้ วิธีการหายใจเข้าออก เวลาเราเปลี่ยนอิริยาบถก็ให้มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่การเดิน เขาเรียกว่ามีสติรู้กาย รู้ให้ต่อเนื่อง ถ้าความรู้ตรงนี้ไม่มีเราก็พยายามสร้างขึ้นมาแล้วก็สร้างให้ต่อเนื่อง พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน แล้วก็ให้รู้เท่าทันการเกิดของจิต การเกิดของอาการของจิต แล้วรู้จักละกิเลส

รู้จักวิเคราะห์พิจารณา หมั่นพร่ำสอนจิตของตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้ใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเราปกติใจของเราสงบ ใจของเรามีความกังวลมีความฟุ้งซ่านหรือว่ามีความลังเล หรือว่าใจของเราเกิดกิเลสเราก็รู้จักดับ ขณะนี้เรามีความเพียรเพียงพอหรือไม่ แต่ละวันตื่นขึ้นมา ย้อนลงไปตั้งแต่โน่นตั้งแต่เป็นเด็กโน่น เราผิดพลาดอะไรเราก็จะได้รีบแก้ไข ใจของเรามีกิเลส เราก็จะได้ละกิเลส การฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเราเองก็เพื่อที่จะละกิเลสออกจากใจของเรา ละได้มากละได้น้อยก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา แม้แต่การปฏิบัติ ปฏิบัติเพื่ออะไร อะไรคือธรรม อะไรคือสมมติอะไรคือวิมุตติ เราต้องศึกษาค้นคว้าให้ละเอียด

แต่ละวันตื่นขึ้นมาเรามีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ รู้จักขวนขวาย รู้จักสร้างขึ้นมาให้มีให้เกิดหรือไม่ หรือว่ามีตั้งแต่ความเกียจคร้าน หรือว่ามีตั้งแต่ความเห็นแก่ตัว อย่าไปงอมืองอเท้า พยายามขยันหมั่นเพียรให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย อะไรพอทำได้เราทำ อะไรพอขวนขวายพอสร้างพอทำขึ้นมาให้มีให้เกิดขึ้นได้เราก็ทำ ไม่ว่าทั้งสมมติภายนอกทั้งความเป็นอยู่ของเรา ที่พักที่นั่ง ที่อยู่ที่อาศัย ที่หลับที่นอน มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยหรือไม่ อะไรคือกาย อะไรคือส่วนของกาย อะไรคือส่วนของจิต

เราต้องพยายามนะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ยิ่งพระบวชใหม่พยายามอย่าพากันเกียจคร้าน ช่วงใหม่ ๆ ถ้าเกียจคร้านก็เกียจคร้านกันไปตลอด ถ้าขยันหมั่นเพียรก็ขยันหมั่นเพียรกันตลอดให้ต่อเนื่อง ถ้าเรารู้แล้วเห็นแล้ว การเจริญลักษณะของการสร้างสติเป็นลักษณะอย่างนี้ การดับการควบคุมเป็นลักษณะอย่างนี้ จนกว่าตัวจิตของเราคลายออกจากความคิดออกจากอารมณ์นั่นแหละ ติดขัดอะไรก็ท่านอาจารย์ต่างก็คอยชี้แนะให้อยู่ ให้ถามให้เชื่อฟังท่านแล้วก็พากันไปฝึกหัดปฏิบัติ กลางค่ำกลางคืนกายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร เดินเข้าไปในป่าใจของเราเกิดความกลัวเรารู้จักละรู้จักดับหรือไม่

แม้ตั้งแต่เวลาจะขบจะฉัน กายของเราหิวหรือว่าใจของเราเกิดความอยาก เรารู้จักละความอยาก รู้จักพิจารณา ค่อยพิจารณาค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่ทิฏฐิมานะของตัวเราเอง เรามาลดมานะ มาละทิฏฐิ มาขัดเกลาตัวเราเอง จนกว่าเราจะเข้าถึงตัวใจของเราได้ มองเห็นหนทางเดิน ทีนี้การละกิเลสเราจะหมดจดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราต้องสร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความอดทน เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบในตัวเราเอง บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น แล้วก็มีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักขยันหมั่นเพียรกัน ไม่ว่างานภายนอกงานภายใน

การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราอยู่ด้วยกันอย่างพ่ออย่างแม่ อย่างพี่อย่างน้อง ให้เคารพกันในธรรม บอกให้เชื่อฟัง มีอะไรก็บอกให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น อย่าเป็นบุคคลที่บอกยากสอนยาก ถ้าคนบอกยากสอนยากแล้วก็สอนตัวเองไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้ใครจะสอนให้ เราต้องเป็นบุคคลที่หมั่นพร่ำสอนตัวเราเองแก้ไขตัวเราเอง ครูบาอาจารย์ สถานที่ ก็เป็นแค่เพียงแผนที่ที่เราจะมาบำเพ็ญตัวเรา

มีอะไรเราก็ช่วยกัน ไม่ว่างานภายนอกงานภายในเราก็ช่วยกัน พวกเรามาอาศัยสถานที่นี้อยู่ก็สร้างประโยชน์ให้มาก ถึงใจของเรายังไม่หลุดพ้นยังเดินปัญญาขั้นสูงไม่ได้ เราก็พยายามสร้างตบะ สร้างบารมี สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ค่อยวิเคราะห์ค่อยสังเกตไปเรื่อยๆเอาการกระทำเป็นการฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเราไป สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน มีอะไรก็ให้ช่วยกัน อย่าพากันเกียจคร้านอย่าพากันงอมืองอเท้า ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน เราจะได้อานิสงส์อย่างมากมายทีเดียว

เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง