หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 010
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 010
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
วันนี้อากาศก็รู้สึกว่ามีเมฆมีหมอกเยอะตั้งแต่เช้านะ มีหมอกเยอะหมอกลงมา อีกสักหน่อยหิมะก็คงจะลง ใกล้แล้วแหละใกล้หิมะจะลง หมอกเหมือนกับเมืองในฝัน บรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาน้ำก็ท่วมหลายแทบค่อนประเทศ เดี๋ยวนี้ก็คงจะลดลงเกือบหมดแล้วมั้ง ผ่านวิกฤติเหตุการณ์ไปต่างๆ แล้ว ก็จะเข้าหนาวแต่ก็ไม่หนาวเท่าไรยังไม่หนาวเท่าปีกลาย ช่วงเดือนเมษาหนาวอยู่หลายวันหนาวจนจับขั้วหัวใจ อากาศเปลี่ยนแปลงปีนี้จะได้หนาวเท่าปีกลายนี้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ จะหนาวจะร้อนจะฝนคนไทยก็ใจบุญ พากันทำบุญพากันฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการปฏิบัติ
พระเราก็นิมนต์เข้ามา อยู่ด้วยกันหลายองค์หลายรูปทั้งพระใหม่พระเก่าก็ช่วยกัน ช่วยกันเรามีโอกาสได้มาฝึกมาศึกษามาค้นคว้าอย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมารู้จักการเจริญสติ รู้จักการวิเคราะห์ อย่าไปโทษสิ่งโน้นสิ่งนี้ โทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ไม่ใช่ว่าไปอยู่ที่โน่นจะเข้าใจไปอยู่ที่นี่จะเข้าใจ ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจก็ยากที่จะเข้าใจ
ก็คงจะมาเรื่อยๆ ยังจะมาอีกยังจะบวชเพิ่มอีก ที่อื่นนี้รู้สึกว่าออกพรรษาเหลือรูปสองรูป ที่นี่แทบไม่มีที่อยู่ที่พักที่อาศัยเพราะอานิสงส์ผลบุญของทุกคน ก็อยากจะมา มาอยู่ร่วมกันมาช่วยกันสร้าง มาช่วยกันทำ ทั้งสมมติภายนอก ทั้งการชำระสะสางกิเลส วันนี้ก็เป็นวันพระเดือนสอง วันแรม แรม 8 ค่ำเดือนสอง เดือนสอง เดือนอ้ายเดือนยี่เดือนสาม ก็คงจะใกล้ๆ เดือนสาม เมฆหมอก หมอกกำลังลงฝนก็โปรยลงมารดช่อมะม่วง วันนี้ก็เป็นวันพระ แรม 8 ค่ำ พ่อตาพาหมู่คณะไหว้พระเสียก่อนนะ
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกัน ถึงไม่ต่อเนื่องกันได้ยาวนานก็ขอให้ต่อเนื่องกันขณะที่กำลังนั่งฟังอยู่นี่แหละ จะได้เป็นอานิสงส์ใหญ่ในวันข้างหน้า
รู้จักทำความเข้าใจ ถ้าบุคคลใดมีความขยันหมั่นเพียร ก็ต้องพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่รู้จากที่ พอรู้ตัวปุ๊บความรู้สึกรับรู้อยู่ปัจจุบัน รู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออก ลึกลงไปก็รู้ความปกติของใจ การเกิดของใจเขาก่อตัวอย่างไร การเกิดของขันธ์ห้าของความคิดที่ไม่ตั้งใจ เขาก่อตัวอย่างไร ตัวใจของเราเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร
ถ้าเรามีความรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน เราก็จะเห็นอาการตรงนั้น ถ้าเรารู้เท่าทันเขาก็จะคลายออกซึ่งเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความรู้แจ้งเห็นจริงซึ่งเรียกว่า แยกรูปแยกนามหรือว่าวิปัสสนา อยู่ตรงนี้เพียงแค่เริ่มต้น แต่อานิสงส์บุญอานิสงส์ศรัทธาบารมี การสร้างสะสมบุญบารมีนั้นทุกคนสร้างกันมาดี แต่การเดินปัญญาแยกรูปแยกนาม ตามดูรู้เห็นตามความเข้าใจ รู้เห็นการเกิดการดับของขันธ์ห้า ตรงนี้ไม่ค่อยจะมีกัน แล้วก็ไม่ค่อยจะรู้เห็นได้ต่อเนื่อง เพราะความเพียรขาดความเพียร ขาดการเจริญสติที่ต่อเนื่อง เพียงแค่การสร้างกับการทำให้ต่อเนื่อง พวกเราก็ทำกันไม่ค่อยจะได้ ทั้งที่ใจก็เป็นบุญอยู่ ใจก็อยากจะได้บุญใจก็อยากจะได้ธรรม
การเกิดของใจมันก็ปิดบังตัวของมันเอาไว้เสียแล้ว ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไประงับ เข้าไปดับเข้าไปควบคุม จนกว่าจะคลายจนกว่าจะแยกรูปแยกนาม ใจถึงจะพลิกจากสมมติไปหาวิมุตติ เราถึงจะเข้าใจในความหมายของภาษาธรรมภาษาโลก เข้าใจภาษาธรรม สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟัง เข้าใจสมมติวิมุตติ เห็น เห็นสมมติ รู้เห็นสมมติวิมุตติ เห็นอนัตตาเห็นอัตตา รู้หลักของอริยสัจ การเกิดการดับ เข้าถึงคำสอนของพระพุทธองค์
ขณะนี้เวลานี้ความรู้ตัวของเรานี่แทบจะไม่มี มีอยู่เป็นบางช่วงเป็นบางครั้งบางคราว เราก็ต้องสร้างขึ้นมา ใจเขาก็ชอบคิดชอบเที่ยว ชอบคิดชอบเที่ยวก็ยังไม่พอ มีความทะเยอทะยานอยากเป็นทาสของอารมณ์อีก บุคคลที่มีสติมีปัญญา มีบุญมีอานิสงส์เพียงพอ รู้แนวทางแล้วจะไปทำความเข้าใจ สำรวจใจของตัวเราเองตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ลักษณะของการเจริญสติที่ต่อเนื่องกันเป็นลักษณะอย่างนี้ กายวิเวกเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นลักษณะอย่างนี้ อาการของความคิดเขาก่อตัว เขาเกิดๆ ดับๆ เป็นลักษณะอย่างนี้ ตามดูรู้เห็นทุกอย่าง แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง
ใจของเราเกิดกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียด กิเลสเกิดขึ้นที่กายเกิดขึ้นที่ใจ กิเลสละเอียดต่างๆ พวกนิวรณธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องกางกั้นจิตของเราเป็นอย่างไร ใจของเรามีความกังวล มีความฟุ้งซ่าน มีความลังเล มีความอาฆาตพยาบาท เราก็พยายามละพยายามดับ เจริญในสิ่งตรงกันข้ามกับเขา พยายามสร้างอภัยทานอโหสิกรรม มองโลกในทางที่ดี
แล้วก็พยายามละ ละกิเลสละความโลภละความโกรธออกจากใจของเรา จะเอาจะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญา ขยันหมั่นเพียรด้วยสติด้วยปัญญาด้วยเหตุได้ผล เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบในตัว เป็นคนที่มีความละเอียด มีความเป็นระเบียบ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความจริงใจต่อตัวเรามีความจริงใจต่อคนอื่น เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมานะ อย่าพากันปล่อยโอกาสทิ้ง
ทุกคนก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ หาทางหลุดพ้นเหมือนกันหมด อาจจะเดินผิดทางบ้างเราก็รีบแก้ไข อาจจะถูกบ้างผิดบ้างอาจจะยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ก็ต้องพยายามกัน อย่าไปอคติกันอย่าไปเพ่งโทษกัน พยายามมองโลกในทางที่ดี
คนเราจะเข้าถึงธรรมได้ต้องแก้ไขตัวเราเองปรับปรุงตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา อย่าไปโทษคนโน้นคนนี้ อย่าไปโทษสถานที่โน้นโทษสถานที่นี้ เราจงโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา คำสอนแนวทางนั้นพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบเอามาเปิดเผย พวกเราจะทำความเข้าใจแล้วก็จะละกิเลสออกจากใจของเราหรือไม่
การฝึกหัดปฏิบัติธรรม อะไรคือธรรม เพราะธรรมชาติทั้งภายนอกและภายใน ภายในคือธรรมชาติของใจที่สะอาดบริสุทธิ์ถ้าเขาไม่มีกิเลสถ้าเขาไม่เกิด แต่เวลานี้เขาทั้งเกิดด้วยทั้งหลงด้วย เขาปิดบังอำพรางตัวเองมามากมาย เราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ หาเหตุหาผลจนใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละ การพูดง่าย การทำการลงมือนี่มันยาก ถ้าไม่ทำให้ต่อเนื่องถ้าไม่มีความเพียรจริงๆ เราก็ต้องพยายาม สร้างตบะอย่างแรงกล้า ความอดทนอดกลั้น ทุกอย่างเลยในชีวิตตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งหมดลมหายใจ
ไปอยู่ที่ไหนถ้าเราเข้าใจในเรื่องใจ เราก็จะสอนใจของเราได้ ถ้าเราไม่รู้ไม่เห็นใจของเรา เราจะไปสอนอะไรล่ะ มีแต่ใจวิ่งออกไปสอนออกไปข้างนอก ปิดบังอำพรางตัวมันอยู่ตลอดเวลา วิธีอุบายที่จะเข้าถึงตรงนี้แหละ ต้องพยายามด้วยการเจริญสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่อง รู้ไม่ทันต้นเหตุก็รู้จักระงับดับเอาไว้ดับเอาไว้ จัดระบบระเบียบทั้งทางกายทั้งทางวาจาทั้งทางใจ
ความปกตินั่นแหละคือศีล ความปกติของกายของวาจาของใจ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้านั่นแหละ เรียกว่า ‘วิปัสสนา’ สัมมาทิฏฐิ ละกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดอีก มันจะเข้าไปถึงการปล่อยวาง ทำจิตให้ว่างให้บริสุทธิ์ ดับความเกิด มองเห็นหนทางเดินไม่ต้องกลับมาเกิดนั่นแหละ ก็ต้องพยายาม เดินได้ช้าได้เร็วก็ต้องพยายามเดินอย่าพากันเกียจคร้าน เอาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ยืนเดินนั่งนอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ ก็ต้องพยายามนะ สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
พระเราก็นิมนต์เข้ามา อยู่ด้วยกันหลายองค์หลายรูปทั้งพระใหม่พระเก่าก็ช่วยกัน ช่วยกันเรามีโอกาสได้มาฝึกมาศึกษามาค้นคว้าอย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมารู้จักการเจริญสติ รู้จักการวิเคราะห์ อย่าไปโทษสิ่งโน้นสิ่งนี้ โทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ไม่ใช่ว่าไปอยู่ที่โน่นจะเข้าใจไปอยู่ที่นี่จะเข้าใจ ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจก็ยากที่จะเข้าใจ
ก็คงจะมาเรื่อยๆ ยังจะมาอีกยังจะบวชเพิ่มอีก ที่อื่นนี้รู้สึกว่าออกพรรษาเหลือรูปสองรูป ที่นี่แทบไม่มีที่อยู่ที่พักที่อาศัยเพราะอานิสงส์ผลบุญของทุกคน ก็อยากจะมา มาอยู่ร่วมกันมาช่วยกันสร้าง มาช่วยกันทำ ทั้งสมมติภายนอก ทั้งการชำระสะสางกิเลส วันนี้ก็เป็นวันพระเดือนสอง วันแรม แรม 8 ค่ำเดือนสอง เดือนสอง เดือนอ้ายเดือนยี่เดือนสาม ก็คงจะใกล้ๆ เดือนสาม เมฆหมอก หมอกกำลังลงฝนก็โปรยลงมารดช่อมะม่วง วันนี้ก็เป็นวันพระ แรม 8 ค่ำ พ่อตาพาหมู่คณะไหว้พระเสียก่อนนะ
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกัน ถึงไม่ต่อเนื่องกันได้ยาวนานก็ขอให้ต่อเนื่องกันขณะที่กำลังนั่งฟังอยู่นี่แหละ จะได้เป็นอานิสงส์ใหญ่ในวันข้างหน้า
รู้จักทำความเข้าใจ ถ้าบุคคลใดมีความขยันหมั่นเพียร ก็ต้องพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่รู้จากที่ พอรู้ตัวปุ๊บความรู้สึกรับรู้อยู่ปัจจุบัน รู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออก ลึกลงไปก็รู้ความปกติของใจ การเกิดของใจเขาก่อตัวอย่างไร การเกิดของขันธ์ห้าของความคิดที่ไม่ตั้งใจ เขาก่อตัวอย่างไร ตัวใจของเราเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร
ถ้าเรามีความรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน เราก็จะเห็นอาการตรงนั้น ถ้าเรารู้เท่าทันเขาก็จะคลายออกซึ่งเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความรู้แจ้งเห็นจริงซึ่งเรียกว่า แยกรูปแยกนามหรือว่าวิปัสสนา อยู่ตรงนี้เพียงแค่เริ่มต้น แต่อานิสงส์บุญอานิสงส์ศรัทธาบารมี การสร้างสะสมบุญบารมีนั้นทุกคนสร้างกันมาดี แต่การเดินปัญญาแยกรูปแยกนาม ตามดูรู้เห็นตามความเข้าใจ รู้เห็นการเกิดการดับของขันธ์ห้า ตรงนี้ไม่ค่อยจะมีกัน แล้วก็ไม่ค่อยจะรู้เห็นได้ต่อเนื่อง เพราะความเพียรขาดความเพียร ขาดการเจริญสติที่ต่อเนื่อง เพียงแค่การสร้างกับการทำให้ต่อเนื่อง พวกเราก็ทำกันไม่ค่อยจะได้ ทั้งที่ใจก็เป็นบุญอยู่ ใจก็อยากจะได้บุญใจก็อยากจะได้ธรรม
การเกิดของใจมันก็ปิดบังตัวของมันเอาไว้เสียแล้ว ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไประงับ เข้าไปดับเข้าไปควบคุม จนกว่าจะคลายจนกว่าจะแยกรูปแยกนาม ใจถึงจะพลิกจากสมมติไปหาวิมุตติ เราถึงจะเข้าใจในความหมายของภาษาธรรมภาษาโลก เข้าใจภาษาธรรม สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟัง เข้าใจสมมติวิมุตติ เห็น เห็นสมมติ รู้เห็นสมมติวิมุตติ เห็นอนัตตาเห็นอัตตา รู้หลักของอริยสัจ การเกิดการดับ เข้าถึงคำสอนของพระพุทธองค์
ขณะนี้เวลานี้ความรู้ตัวของเรานี่แทบจะไม่มี มีอยู่เป็นบางช่วงเป็นบางครั้งบางคราว เราก็ต้องสร้างขึ้นมา ใจเขาก็ชอบคิดชอบเที่ยว ชอบคิดชอบเที่ยวก็ยังไม่พอ มีความทะเยอทะยานอยากเป็นทาสของอารมณ์อีก บุคคลที่มีสติมีปัญญา มีบุญมีอานิสงส์เพียงพอ รู้แนวทางแล้วจะไปทำความเข้าใจ สำรวจใจของตัวเราเองตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ลักษณะของการเจริญสติที่ต่อเนื่องกันเป็นลักษณะอย่างนี้ กายวิเวกเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นลักษณะอย่างนี้ อาการของความคิดเขาก่อตัว เขาเกิดๆ ดับๆ เป็นลักษณะอย่างนี้ ตามดูรู้เห็นทุกอย่าง แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง
ใจของเราเกิดกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียด กิเลสเกิดขึ้นที่กายเกิดขึ้นที่ใจ กิเลสละเอียดต่างๆ พวกนิวรณธรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องกางกั้นจิตของเราเป็นอย่างไร ใจของเรามีความกังวล มีความฟุ้งซ่าน มีความลังเล มีความอาฆาตพยาบาท เราก็พยายามละพยายามดับ เจริญในสิ่งตรงกันข้ามกับเขา พยายามสร้างอภัยทานอโหสิกรรม มองโลกในทางที่ดี
แล้วก็พยายามละ ละกิเลสละความโลภละความโกรธออกจากใจของเรา จะเอาจะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญา ขยันหมั่นเพียรด้วยสติด้วยปัญญาด้วยเหตุได้ผล เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบในตัว เป็นคนที่มีความละเอียด มีความเป็นระเบียบ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความจริงใจต่อตัวเรามีความจริงใจต่อคนอื่น เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมานะ อย่าพากันปล่อยโอกาสทิ้ง
ทุกคนก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ หาทางหลุดพ้นเหมือนกันหมด อาจจะเดินผิดทางบ้างเราก็รีบแก้ไข อาจจะถูกบ้างผิดบ้างอาจจะยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ก็ต้องพยายามกัน อย่าไปอคติกันอย่าไปเพ่งโทษกัน พยายามมองโลกในทางที่ดี
คนเราจะเข้าถึงธรรมได้ต้องแก้ไขตัวเราเองปรับปรุงตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา อย่าไปโทษคนโน้นคนนี้ อย่าไปโทษสถานที่โน้นโทษสถานที่นี้ เราจงโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา คำสอนแนวทางนั้นพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบเอามาเปิดเผย พวกเราจะทำความเข้าใจแล้วก็จะละกิเลสออกจากใจของเราหรือไม่
การฝึกหัดปฏิบัติธรรม อะไรคือธรรม เพราะธรรมชาติทั้งภายนอกและภายใน ภายในคือธรรมชาติของใจที่สะอาดบริสุทธิ์ถ้าเขาไม่มีกิเลสถ้าเขาไม่เกิด แต่เวลานี้เขาทั้งเกิดด้วยทั้งหลงด้วย เขาปิดบังอำพรางตัวเองมามากมาย เราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ หาเหตุหาผลจนใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละ การพูดง่าย การทำการลงมือนี่มันยาก ถ้าไม่ทำให้ต่อเนื่องถ้าไม่มีความเพียรจริงๆ เราก็ต้องพยายาม สร้างตบะอย่างแรงกล้า ความอดทนอดกลั้น ทุกอย่างเลยในชีวิตตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งหมดลมหายใจ
ไปอยู่ที่ไหนถ้าเราเข้าใจในเรื่องใจ เราก็จะสอนใจของเราได้ ถ้าเราไม่รู้ไม่เห็นใจของเรา เราจะไปสอนอะไรล่ะ มีแต่ใจวิ่งออกไปสอนออกไปข้างนอก ปิดบังอำพรางตัวมันอยู่ตลอดเวลา วิธีอุบายที่จะเข้าถึงตรงนี้แหละ ต้องพยายามด้วยการเจริญสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่อง รู้ไม่ทันต้นเหตุก็รู้จักระงับดับเอาไว้ดับเอาไว้ จัดระบบระเบียบทั้งทางกายทั้งทางวาจาทั้งทางใจ
ความปกตินั่นแหละคือศีล ความปกติของกายของวาจาของใจ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้านั่นแหละ เรียกว่า ‘วิปัสสนา’ สัมมาทิฏฐิ ละกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดอีก มันจะเข้าไปถึงการปล่อยวาง ทำจิตให้ว่างให้บริสุทธิ์ ดับความเกิด มองเห็นหนทางเดินไม่ต้องกลับมาเกิดนั่นแหละ ก็ต้องพยายาม เดินได้ช้าได้เร็วก็ต้องพยายามเดินอย่าพากันเกียจคร้าน เอาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ยืนเดินนั่งนอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ ก็ต้องพยายามนะ สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา