หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 059

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 059
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 059
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกันสักพักหนึ่ง วาง​หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว หยุดภาระหน้าที่การงานทางสมมติทางบ้านทางช่องเราก็หยุดมาแล้ว ทีนี้เราก็มาหยุดเรื่องความคิดเรื่องอารมณ์ด้วยการเจริญสติ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก นั่งตามสบายนะ​ นั่งตามสบายไม่ต้องพนมมือวางกายให้สบาย อย่าไปเกร็งร่างกายวางกายให้สบาย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว ความคิดต่างๆ ก็จะหยุดไปทันที

ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน เราพยายามสร้างความรู้สึก​ตรงนี้แหละให้ต่อเนื่องตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ ถ้าเราสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อมแล้วก็รู้ให้ต่อเนื่อง ถ้าความรู้สึกพลั้งเผลอเราก็เริ่มขึ้นมาใหม่ พลั้งเผลอเราก็เริ่มขึ้นมาใหม่ เริ่มอยู่บ่อยๆ ส่วนใจของเรานั้นบางทีก็คิดไปที่โน่นบ้างคิดไปที่นี่บ้าง เพราะว่าความเคยชินเก่าๆ ความคิดที่เกิดจากใจ เกิดจากขันธ์ห้า ปัญญาเก่าปัญญาโลกีย์ บางทีก็มีศรัทธาน้อมเข้ามา แต่การเกิดของใจมีอยู่ การรวมของใจหรือว่าใจของเรายังหลงความคิดหลงอารมณ์อยู่ ตราบใดที่เราไม่ได้เจริญสติให้ต่อเนื่อง เข้าไปสังเกต เข้าไปเห็นจนเขาแยกเขาคลายจริงๆ แล้วก็จะไม่ว่าเราหลงนะ

ถ้าเราเจริญสติให้ต่อเนื่องเราก็จะรู้ตัวว่า แต่ก่อนสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันของเรามีน้อย ก็เลยเอาไปใช้การใช้งานไม่ได้ ใจก็เลยเกิดอยู่อย่างนั้นแหละ ปรุงแต่งหาเหตุหาผลแบบโลกๆ จะถูกต้องอยู่ในสมมติ แต่ในหลักของวิมุตติแล้วเราต้องมาเจริญสติเข้าไปแยกเข้าไปคลาย เข้าไปละกิเลสเข้าไปดับความหลง กิเลสหยาบกิเลสละเอียดต่างๆ แม้แต่กายเนื้อ รูปร่างกายของเรานี่ก็ปิดกั้นดวงวิญญาณของเราไว้ตัวใจของเราเอาไว้ ความคิดอารมณ์ต่างๆ เขาก็ปิดกั้นตัวของเขาไว้ แม้แต่ตัววิญญาณการเกิดเขาก็ปิดกั้นตัวของเขาเอาไว้ เขาเกิดไปมากเท่าไรเขาก็ปิดกั้นตัวเอาไว้มากเท่านั้น

เรามาคลายความหลงหรือว่าแยกรูปแยกนามแล้วดับความเกิดให้สั้นลงๆๆ จนกว่าเขาจะก่อตัว แล้วก็ดับตรงที่เขาก่อตัวนั้นแหละ ถึงจะเข้าถึงตัววิญญาณจริงๆ เราดับบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าดับครั้งเดียวแล้วก็จะหมดจดเลยทีเดียว การเจริญสติความหมายของการเจริญสติ เราก็รู้จักเอาสติไปใช้จนใจของเรารู้เห็นตามความเป็นจริง ยอมรับความเป็นจริงจนปล่อยจนวางได้ จนเอาสติไปใช้จนกลายเป็นมหาสติจนกลายเป็นมหาปัญญา ใจของเราเกิดกิเลสเมื่อไรเราก็ละเราก็ดับ ใจของเราปรุงแต่งเมื่อไรเราก็ดับ ถ้ารู้เห็นต้นเหตุ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล

เราต้องพยายามนะ อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้งปล่อยโอกาสทิ้ง ทุกคนก็มีบุญทุกคนก็มีวาสนาที่ได้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็สนุกสร้างอานิสงส์สร้างบุญให้มีให้เกิดขึ้นขณะที่เรายังมีกำลังกายมีลมหายใจอยู่ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลาเพราะว่าคนเรานี้อายุสั้น อายุสั้นไม่มากหรอก อย่างน้อยๆ ถ้ามากสุดก็ไม่เกินร้อยปีหรอก ความเกิดความแก่ความตายมันมีอยู่ตลอดเวลา ความไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงนั่นแหละ พระพุทธองค์ท่านถึงบอกว่าอนิจจังทุกขังอนัตตา

เมื่อวานนี้ก็ไปแล้วอีกหนึ่งศพ ลูกหลานชาวบ้านของเราในบ้านสำราญของเรา ที่เคยมาบวชเป็นสามเณรอยู่กับหลวงพ่อนี่แหละสมัยก่อนที่เคยมาอยู่วัด เป็นหนุ่มน้อยกำลังจะน่ารัก ใช้การใช้งาน พูดไปนานเท่าไรก็ไปแล้ว รถชนโดนรถชนกัน นี่แหละอนิจจังความไม่เที่ยง ไม่ว่าเป็นเด็กหรือว่าผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มเป็นสาว ถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ได้พลัดพรากจากกันตอนตาย มันเป็นกฎของไตรลักษณ์

เราต้องวิเคราะห์พิจารณาหาเหตุหาผล เหตุผลทั้งภายนอกเหตุผลทั้งภายใน เหตุผลของสมมติเหตุผลของวิมุตติ แล้วมองเห็นตามความเป็นจริง จิตใจของเราก็จะไม่ได้ทุกข์ได้เครียด จิตใจของเราก็จะได้ถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วเร็วไว กายเนื้อแตกดับดวงวิญญาณหรือว่าใจของเราจะไปอย่างไรมาอย่างไร เราก็ต้องพยายามจัดการกับเขาให้เรียบร้อยเสีย ไม่ให้เขาหลงเป็นทาสของกิเลส หลงยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ แม้แต่ตัวของเขาเองก็ดับความเกิดของเขาเสีย เราก็จะได้มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิดกัน

มีโอกาสเห็นว่าจะทำพิธีขอไผ่ในการเผาศพอยู่ จะเผาวันนี้หรือเปล่าหรือว่าเผาพรุ่งนี้ หรือจะรอญาติให้รวมกันเสียก่อน จะได้ทำพิธีเผาวันนี้หรือเปล่า เอินได้เผาวันนี้ไหม เผาพรุ่งนี้ เผาพรุ่งนี้รอพี่รอน้องเสียก่อน ความเกิดความแก่ความตาย ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ อันนี้เกิดแก่เจ็บตายทางด้านรูปธรรม แต่ดวงวิญญาณนั้นเกิดๆ ดับๆ เกิดๆ ดับๆ อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทำไมถึงเราต้องเจริญสติเข้าไปดูเข้าไปรู้เข้าไปเห็นอาการที่เขาก่อตัว เขาเกิดๆ ดับๆ เขาเกิดอย่างไร เขาเริ่มก่อตัวอย่างไร ทำไมเขาถึงเป็นทาสของความทะเยอทะยานทะยานอยาก ทำไมเขาถึงเป็นทาสของกิเลส กายของเรานี่มีอะไรบ้างในขันธ์ห้าของเรา เราต้องจำแนกแจกแจงให้ชัดเจนเราถึงจะรู้เห็นชัดเจนชัดแจ้ง

นอกนั้นก็บริหารกายบริหารใจ บริหารสมมติด้วยสติด้วยปัญญา สร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้นมากๆ ก็ต้องพยายาม บางคนบางท่านก็ขยันหมั่นเพียร มีศรัทธา พร้อมเหตุพร้อมผล พร้อมสติพร้อมปัญญา บางคนบางท่านก็ไม่สนใจเลยก็มี บางคนบางท่านก็เกียจคร้าน บางคนบางท่านก็ไม่รู้จักรับผิดชอบ อยากจะเอาตั้งแต่ธรรมอยากจะได้ตั้งแต่ธรรม ความเสียสละก็ไม่มี ความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ไม่มี มันจะเอาได้ยังไง เพียงแค่ความเป็นระเบียบความเสียสละมันก็ยาก ใจที่ยังปกปิดตัวเองอยู่ มันก็ยากที่จะคลายได้

มีความรับผิดชอบแม้แต่ที่พักที่อาศัยที่หลับที่นอน มีให้อยู่มีให้อาศัยกัน ก็ยังไม่รู้จักรักษาทำความสะอาด มาอยู่ก็ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด จัดก่อนที่จะอยู่ก่อนที่จะไป ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านที่ไร่ที่นาที่ทำการทำงาน เราต้องเป็นบุคคลที่มีความรับผิดชอบ รับผิดชอบต่อตัวเรารับผิดชอบต่อส่วนรวม รับผิดชอบต่อสังคม เรารับผิดชอบต่อตัวเราให้ได้เสียก่อนก็จะล้นออกไปสู่ภายนอก ทั้งภายนอกภายใน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้อยู่ไกล หัดเป็นคนมีความรับผิดชอบมีความเสียสละ มองโลกในทางที่ดี แล้วคิดดีการกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อม

ความเสียสละของเราเต็มเปี่ยม ไม่เอารัดเอาเปรียบตัวเราเองไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น มีความเสียสละมองโลกในทางที่ดี มีความกล้าหาญ อาจหาญในการสร้างคุณงามความดี ให้ละอายในสิ่งที่ควรละอาย ให้ละอายในสิ่งที่ควรละอาย ไม่ละอายในสิ่งที่คนไม่ละอาย แล้วก็พยายามทำลงไปอะไรที่จะเป็นประโยชน์ อะไรที่จะเกิดประโยชน์ ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล มองเห็นหนทางเดินทันที ก็ต้องพยายามนะ

เอาล่ะวันนี้เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อม ๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง