หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 036

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 036
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 036
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน ทำใจของเราให้สงบ ทำกายของเราให้สงบตั้งมั่น ระงับด้วยการสร้างความระลึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้ละไม่ได้เราก็ขอให้หยุดขณะที่เรากำลังนั่งอยู่นี่แหละ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว

เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกสัมผัสของลมหายใจ ศิลปะของการหายใจ หายใจอย่างไรถึงจะเป็นธรรมชาติ หายใจอย่างไรถึงไม่อึดอัด หายใจอย่างไรความรู้สึกของเราถึงจะชัดเจน เราพยายามสร้างความรู้สึกรับรู้ให้ต่อเนื่องเวลาลมหายใจเข้าหายใจออก อันนี้เขาเรียกว่า ‘สร้างสติ’ แล้วเขาพยายามรู้ให้ต่อเนื่องก็เรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’

เรามีความรู้สึกตัวทั่วพร้อมให้ต่อเนื่องตั้งแต่ตื่นขึ้นมา พอเรามีสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน ส่วนการเกิดการดับของจิต เขาจะเกิดอยู่ดับอยู่ การปรุงแต่งเขามีอยู่แล้วเราก็จะรู้เท่าทัน รู้ลักษณะของจิต จิตที่ปกติเป็นอย่างไร จิตที่จะปรุงแต่งเป็นอย่างไร จิตที่เกิดกิเลสเป็นอย่างไร ทีนี้เราควบคุมได้เราละได้หรือไม่ เราก็จะรู้เท่าทันจากน้อย ๆ ไปหามาก ๆ

รู้ รอบรู้ภายในรอบรู้ในความคิดรอบรู้ในอารมณ์ รอบรู้ในความเป็นอยู่ของเรา เราก็จะมองเห็นว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรควรละอะไรควรเจริญ เราจะดำเนินอย่างไร แก้ไขชีวิตของเราอย่างไร เราก็จะได้มองเห็นหนทางเดินจากภายในล้นออกไปสู่ภายนอก ค่อยแก้ไขกันไป เราก็พยายาม อย่าไปมองข้ามอย่าไปปิดกั้นตัวเราเองพยายามทำเถอะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี

ทุกชีวิตทุกดวงจิตต้องการปรารถนาหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ต้องการที่จะสร้างความสุขให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจที่กายของเรา ผิดพลาดแล้วก็แก้ไขใหม่ ผิดพลาดเราก็แก้ไขใหม่ ทำอยู่บ่อยๆ วิเคราะห์อยู่บ่อยๆ แล้วการกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อม ถึงจะเกิดประโยชน์ การสำรวจตรวจตรารู้กายรู้ใจของเราแต่ละวันตื่นขึ้นมา ใจของเรามีความปกติหรือว่ากังวลหรือว่ามีความฟุ้งซ่าน เราผิดพลาดตรงไหนก็รีบแก้ไข เรามาฝึกฝนมาแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอัตตาเรื่องอนัตตา คำว่า ‘อัตตา’ เป็นอย่างไร หรือ ‘อนัตตา’ เป็นอย่างไร เราต้องรู้ ต้องเข้าถึง

การเจริญสติ ลักษณะของสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร เราก็รู้ให้ต่อเนื่อง ความเป็นอยู่ของเราอะไรยังขาดตกบกพร่อง เราก็พยายามทำตั้งแต่ตื่นขึ้นมา แม้แต่การหายใจเข้าออก การเคลื่อนการไหว การรับประทานข้าวปลาอาหาร ทุกเรื่องเลยในชีวิต ทุกเรื่องในชีวิตจนกระทั่งจะหมดลมหายใจนั่นแหละ เราต้องรู้กายรู้ใจ แก้ไขปรับปรุงตัวเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอยู่ในอิริยาบถใด ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย เรารู้จักวิธีรู้จักแนวทางแล้วทำเถอะ อย่าว่าไม่ทำ

ส่วนการทำบุญให้ทานทุกคนมีโอกาสได้สร้างบุญร่วมกัน ได้ช่วยเหลือกันซึ่งกันและกัน ยังสมมติให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะอยู่บ้านอยู่วัด อยู่ไร่อยู่นาเราก็เอาบุญได้ตลอดเวลา เพียงแค่คิด คิดดีก็เป็บุญทำดีก็เป็นบุญ การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อม อยู่ในวัดเราก็เหมือนกัน ยิ่งมาอยู่ร่วมกันหลายๆ คน หลายๆ ท่าน มีโอกาสได้มาร่วมกันมีบุญนะ มีบุญเคยสร้างบุญมาร่วมกัน ถึงได้มาอยู่ร่วมกัน แล้วก็มาแก้ไขปรับปรุง อะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข มีอะไรควรทำก็ทำ อะไรควรเจริญก็ควรเจริญ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์ฝากเอาไว้กับแผ่นดิน ฝากเอาไว้กับสมมติ ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เรามาช่วยกันทำ

ต่อไปปีข้างหน้า ออกพรรษาปีนี้แหละจะเห็นสวนดอกไม้เต็มไปหมด เมษานี้ก็ออกดอกเต็มอยู่ส่วนหนึ่ง ใครมาก็บอกว่าสวยงามมาก บางคนก็บอกว่าหลงหลงดอกไม้มันสวยงาม ก็จากการกระทำของพวกเรานี้แหละช่วยกันทำ มีต้นไม้ก็เอามาปลูก ช่วยกันปลูกช่วยกันทำช่วยกันรักษาให้ได้รับความร่มรื่นร่มเย็น ส่วนอุโบสถนั้นก็จะได้ปลูกเป็นโครง เป็นเรือนต้นไม้ปลูกให้ได้ร่มเงาได้เย็นกัน ใครไปใครมาก็ได้รับความร่มรื่นร่มเย็น ฝากเข้าไว้

ถ้าพวกเราไม่ทำวันนี้ วันพรุ่งนี้หรือเดือนหน้าปีหน้าก็จะได้ไม่ได้มีร่มเงาได้อาศัยกัน ให้พากันทำ ฝากเอาไว้ พวกเราก็ได้อาศัยอานิสงส์ในสิ่งที่พวกเราทำ ใครไปใครมาก็มีความสุข บุญก็เกิดจากการกระทำของพวกเราทุกคนนี่แหละ ใครเขาก้าวเข้ามาแล้วก็มีความสุขกายสุขใจ เพียงแค่เห็นรูป ตาเห็นรูปใจก็มีความสุข ได้มากราบมาไหว้

ยิ่งประพฤติปฏิบัติขัดเกลาตัวเอง ในการขัดเกลาละกิเลสตัวเราปรับปรุงตัวเราใจก็ยิ่งจะสะอาดบริสุทธิ์ มีความสุขขึ้นไปเรื่อยๆ ตามกำลังสติกำลังปัญญาของแต่ละบุคคลที่จะทำความเข้าใจให้ถึงจุดหมายปลายทางนั้นๆ ให้ได้ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งพวกนี้จะไปบังคับกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิบากของการกระทำ วิบากของกรรมแต่ละบุคคลสร้างมาไม่เหมือนกัน บางคนก็สร้างมามากบางคนก็สร้างมาน้อย ผิดพลาดก็ช่วยเหลือกันแก้ไขกัน ปรับปรุงเริ่มต้นใหม่ เริ่มต้นอยู่บ่อยๆ สักวันหนึ่งก็จะถึงความสุข ถึงจุดหมายปลายทางกันไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ก็ต้องพยายามกันนะ

เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง