หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 32

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 32
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 32
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ฟังไปด้วย น้อมสําเหนียกไปด้วย เรารู้จักวิธีการรู้จักแนวทางแล้ว เราพยายามหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ใจของเรา สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ เป็นภาระกิจของเราที่จะต้องทําความเข้าใจกับชีวิตของตัวเราเอง

ศรัทธาความเชื่อในพระรัตนตรัย ตรงนี้มีกันมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ฝักใฝ่ในการทําบุญในการให้ทาน บารมีตรงนี้มีกันเต็มเปี่ยม แต่การเจริญสติ ลักษณะของความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่อง ทําบ้างไม่ทําบ้างก็เลยรู้ไม่เท่าทันใจของตัวเรา เราต้องพยายามหัดสังเกต หัดอบรมใจของเราบ่อยๆ อะไรคือใจ อะไรคือปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ทําไมใจถึงเกิด ทําไมใจถึงหลง กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด มีกันหมดทุกคน

แนวทางนั้นพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบแล้วก็เอามาเปิดเผย ให้เดินตามอริยมรรคในองค์แปด ข้อแรกก็ ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความเห็นถูก ความเห็นถูกในหลักธรรม คือ การเจริญสติเข้าไปคลาย เข้าไปแยกรูปแยกนาม ตามดูเห็นความเกิดความดับของขันธ์ห้า เข้าใจในเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เข้าใจในคําว่าอัตตา รู้อัตตา รู้อนัตตา รู้จักสมมติ วิมุตติ

รู้จักว่ากายของเรานี่มีกี่กองกี่ขันธ์ กองวิญญาณหรือว่าตัวใจของเรา กองสังขาร กองวิญญาณ กองรูป กองนาม ที่ท่านว่าเป็นกอง เป็นขันธ์ ที่เราสวดเราท่องกันทุกวัน เราต้องเห็นต้องแยกแยะด้วยปัญญา รู้แจ้งเห็นจริงด้วยปัญญาถึงเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ฝักใฝ่ในบุญในกุศล ละอายเกรงกลัวต่อบาป ละบาป ละอกุศล เจริญกุศล ให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา

ตั้งแต่แต่ละวันตื่นขึ้นมา ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเสียสละ การฝักใฝ่ การสนใจ การวิเคราะห์ กายทําหน้าที่อย่างนี้ ทวารทั้งหก หู ตา จมูก ลิ้น กาย เขาทําหน้าที่อย่างนี้ ส่วนใจหรือว่าวิญญาณทําหน้าที่อย่างนี้ แต่เวลานี้ตัววิญญาณนี่เขาเกิดอยู่ตลอด เขาหลงมานาน เขาหลงมาตั้งแต่ยังไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเขาหลงมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติกี่กัปกี่กัลป์แล้ว ทีนี้เรามาอาศัยกายเนื้อ เจริญสติลงไปที่กายเนื้อ เราก็ลึกลงไปอบรมใจของเรา ขณะที่มีกายอยู่ อยู่ในภพมนุษย์นี่แหละที่อบรมตนตัวเราได้ แก้ไขตัวเราได้

พระพุทธองค์ท่านถึงได้อุบัติมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ แล้วก็มาตรัสรู้อยู่ในกายก้อนนี้ แล้วก็มาเปิดเผย วิธีการแนวทางที่จะเข้าถึงความบริสุทธิ์ของใจ เราก็ต้องพยายามปฏิบัติตามคําสอนของท่าน เมื่อรู้เมื่อเห็น เกิดขึ้นปรากฏขึ้นที่ใจของตัวเรา ท่านถึงบอกให้เชื่อ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างนี้ ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างนี้ ใจที่คลายจากขันธ์ห้า ใจที่ไม่มีนิวรณ์เป็นอย่างนี้ เราเข้าถึงเมื่อไร ตามดูรู้เห็นความเป็นจริงได้ทุกเรื่องเมื่อไร เราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์

คําว่าอัตตา อนัตตา วิญญาณในกาย เป็นกองเป็นขันธ์ แยกแยะจําแนกแจกแจง บอกตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น หมั่นฝักใฝ่ หมั่นสนใจ มีไม่มาก ถ้าเรารู้จักพิจารณาตัวเองอยู่ในกายของเรา กายของเรานี่เปรียบเสมือนกับสนามรบเลยทีเดียว ตื่นขึ้นมาตัวไหนเป็นตัวสั่งการ เป็นตัวบงการ ตัวใจหรือว่าตัวอาการของใจ หรือว่าสติหรือว่าปัญญา หรือว่ารวมกันไปหมด ถ้าเราแยกแยะได้เมื่อไร เราจะมีความสุขสนุกในการดู รู้ เห็น ว่ากิเลสตัวไหนจะมาหลอก มาเล่นงานเรา เราแพ้หรือเราชนะ เหตุเกิดจากภายนอกหรือเกิดขึ้นจากข้างใน อันนี้คือโลก อันนี้คือธรรม เราจะขยันหมั่นเพียรด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา มีหมดทุกอย่าง อยู่ในกายของเรา ก็ต้องพยายามกัน

อานิสงส์ผลบุญผลทานเราก็พยายามช่วยกันทํา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ทำใจให้เป็นวัด ทํากายให้เป็นวัด ทําใจให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมใจของเราบ่อยๆ เราก็จะอยู่กับบุญ บุญสมมติเราก็ทําให้เต็มเปี่ยม เราต้องทําความเข้าใจกับภาษาธรรมภาษาโลกด้วย ไม่ใช่ว่าจะปฏิบัติตั้งแต่ธรรม เอาตั้งแต่บุญ เราต้องรอบรู้ในทุกอย่าง รอบรู้ในกองสังขารของเรานั่นแหละเป็นหลัก รอบรู้ในดวงวิญญาณของเราให้เป็นหลัก งานสมมติงานวิมุตติ งานใกล้งานไกล อะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์สูงสุดในชีวิตของเราคือความบริสุทธิ์หลุดพ้น ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน

ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา อย่าให้คนอื่นเขาได้มาบังคับ เราต้องบังคับตัวเราแก้ไขตัวเรา ผิดพลาดแก้ไขใหม่ เริ่มต้นขึ้นมาใหม่ ยิ่งอยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่านก็ยิ่งเพิ่มความสมัครสมานสามัคคีเป็นทวีคูณ ระวังกาย ระวังวาจาของเรา แม้กระทั่งความคิด คิดอกุศลเราก็พยายามละ ให้มองโลกในทางที่ดี ให้ทําดี

อันนี้ก็คงจะใกล้ถึงงานกฐินของพวกเรา ให้พยายามช่วยกันดูแลรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องส้วมห้องน้ำ ก็ดูแลช่วยกันจัดการทั้งพระทั้งโยมทั้งชี พระเราก็เยอะ ชีเราก็เยอะ ยิ่งจะมาบวชอีก เพิ่มเติมเข้าไปอีก เราก็พยายามเพิ่มความสมัครสมานสามัคคี แล้วก็รู้จักแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา ความเป็นอยู่ของเราล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะ สู่เพื่อนสู่ฝูง ดูแลช่วยกันรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่พัก ที่นอนที่หลับ ที่อยู่ที่อาศัย ที่อยู่ที่กิน เราก็ต้องพยายามทําให้เป็นระเบียบ

ไปไหนมาไหนก็จะเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบกับตัวเราเอง จัดระบบระเบียบทั้งภายนอกภายใน จนกระทั่งถึงใจของเรา งานสมมติเราก็ทําให้ดี การขัดเกลากิเลสเราก็ขัดเกลาอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับอานิสงส์ความเพียรของแต่ละบุคคล

ทุกคนก็มีบุญกันหมดนั่นแหละ สร้างบุญกันมาดี จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วได้ไวก็ขึ้นอยู่กับความเพียรที่ถูกต้องของแต่ละบุคคล พยายามนะ อย่าพากันทิ้ง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง