หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 048

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 048
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 048
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ เราได้สร้างความรู้ตัวหรือว่าได้เจริญสติแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ ทำให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่งก็ยังดีดีกว่าไม่ได้ทำ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก หลวงพ่อเพียงแค่พูดแค่ชี้แนะอุบายวิธีเท่านั้นเอง

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว เสียงก็สักแต่ว่าเสียง ความรูสึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่กระทบปลายจมูกของเรา เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสนใจกันมากเลยทีเดียวปล่อยปละละเลย ทั้งที่ใจอยากจะได้บุญอยากทำบุญ อยากได้บุญอยากรู้ธรรม ตัวใจก็เลยปิดกั้นตัวของเขาเอาไว้หมดเลย เพียงแค่การเกิดเขาก็ปิดกั้นเอาไว้

ในภาษาธรรมะเขาเรียกว่ามาร มารปิดกั้นเอาไว้ ตัวใจก็ไปเข้าข้างมาร ขันธมารคือร่างกายของเรานี้เป็นมารในหลักธรรม แต่พวกเราก็มาชื่นชอบชื่นชมแล้วก็ไปยึดไปติด เพียงแค่การเกิด ความคิดอารมณ์ต่างๆ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเขาเรียกว่า ‘ขันธมาร’ เขาเรียกว่ามาร การเกิดการดับ เรามาเจริญสติ มาสร้างความรู้ตัวเข้าไปวิเคราะห์ใจของเรา เราไม่รู้เท่าทันต้นเหตุเราก็รู้จักควบคุม รู้จักระงับยับยั้ง ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘สมถะ’ การดับการหยุดไม่ให้ใจของเราเกิดปรุงแต่ง จนกว่าจะสังเกตเห็นใจของเราคลายออกจากอาการของใจ อาการของขันธ์ห้า

เพียงแค่คลายออกแยกรูปแยกนามได้ อันนั้นเพียงแค่เริ่มต้นของปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริง แต่ก็ยาก ถ้าบุคคลไม่มีความเพียรที่ต่อเนื่องกันจริงๆ ยากที่จะเห็นตรงนี้ ถ้าเห็นแล้วรู้แล้วแยกได้แล้ว ถ้าขาดการตามดูรู้เห็นตามความเป็นจริงทุกเรื่องอีกเขาก็จะกลับคืนสู่สภาวะเดิมอีก นี่แหละเขาเรียกว่ามาร เขาเรียกว่าขันธมาร

ขันธ์ห้าของเรานี้มาศึกษามาค้นคว้าให้ละเอียดตอนที่ยังมีกำลังอยู่ก่อนที่จะหมดลมหายใจ ตราบใดที่เรายังศึกษาไม่ละเอียด ตราบใดที่เรายังไม่รู้แจ้งเห็นจริงในหลักของอริยสัจในชีวิตของตัวเรา ก็น้อมใจน้อมกายของเราให้อยู่ในกองกุศลเอาไว้อยู่ในกองบุญเอาไว้ หมั่นทำบุญหมั่นให้ทาน มีความรับผิดชอบ มีความอ่อนโยน มีความจริงใจต่อตัวเราเอง มีความเสียสละอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะเป็นเข้าพกเข้าห่อสืบต่อไปในวันข้างหน้า

วันนี้มีพรุ่งนี้มี เดือนหน้ามีปีหน้ามีภพหน้ามี แต่ขอให้เรารู้อยู่ขณะปัจจุบันนี้ให้ได้เสียก่อน รู้อยู่ขณะที่เรากำลังอยู่ในภพของมนุษย์นี้ก่อน อะไรคือภพอะไรคือชาติ ร่างกายของเรานี้แหละเขาเรียกว่า ภพ ก้อนภพภพหนึ่งนั่นแหละที่วิญญาณมาสร้างขึ้นมา เขาหมดลมหายใจนั่นแหละถึงจะหมดภพ พอเกิดขึ้นมาอยู่ในภพของมนุษย์ก็มีการเปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ได้การพัฒนา ได้การศึกษา ได้การค้นคว้า ยกระดับจิตของตัวเรายกระดับสติปัญญาของเราให้รู้แจ้งเห็นจริง
พยายามขัดเกลาแล้วก็พยายามปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น กำจัดกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมดจดขณะที่เรายังอยู่ในภพของมนุษย์นี่แหละ ถ้ายังทำไม่ถึงจุดหมายปลายทางก็พยายามสร้างตบะบารมีให้เต็มเปี่ยม สักวันหนึ่งกิเลสมารขันธมารเขาคลายออก สมมติคลายออก เราก็จะถึงวิมุตติ เข้าใจในเรื่องวิมุตติ

แนวทางมีอยู่ คำสอนของพระพุทธองค์มีอยู่ เราพยายามรีบตักตวงด้วยการเจริญสติเข้าไปหาเหตุหาผล วิเคราะห์จนใจของเราหรือว่าวิญญาณของเรารู้เห็นตามความเป็นจริง การเกิดเป็นทุกข์ การเป็นทาสของกิเลสเป็นทุกข์ ความทะเยอทะยานอยาก คนทั่วไปนี่อัดเข้าไปด้วยความอยาก ความทะเยอทะยานทะยานอยาก อยากมีอยากเป็น ไม่อยากมีไม่อยากเป็น อยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่ นี่แหละมันปิดกั้นเอาไว้หมดทุกอย่างเลย

ในธรรมะท่านให้ละความอยากละความหวัง แต่บริหารด้วยสติด้วยปัญญา รับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญา ยังประโยชน์สมมติให้ได้เกิดอานิสงส์อันมากมายมหาศาล เราก็พยายามอย่าพากันทิ้ง อย่าพากันปล่อยเวลาทิ้งเสียดายเวลา ได้มีโอกาสได้เป็นมนุษย์แล้วเราก็พยายาม ถ้าเรามองเห็นหนทางเดินเราจะไม่ละทิ้งแต่ขาด เราจะพยายามเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ถึงจุดหมายปลายทางแล้วค่อยนั่งพักนั่งสบายกัน

ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็ต้องพยายามกัน ทั้งภายนอกภายใน งานภายนอกเราพยายามรับผิดชอบให้ดีที่สุดทำให้ดีที่สุด งานภายในทำใจของเราให้สะอาด เราก็พยายามเดิน ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย เราพยายามสร้างเอาทำเอา ถ้าเราสอนตัวเราไม่ได้แก้ไขตัวเราไม่เป็นก็ไม่รู้ว่าใครจะสอนให้ เราต้องสอนตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา มีความขยันหมั่นเพียร อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข

หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟั แล้วก็พาดำเนินทั้งสมมติทั้งวิมุตติ สมมติอานิสงส์ผลบุญต่างๆ ก็พาทำ ให้ทำเถอะ เห็นแล้วก็ภูมิใจฆราวาสญาติโยมก็เข้ามากันเยอะ เข้ามาวัดเข้ามาทำบุญเข้ามาให้ทาน เข้ามากราบไหว้สักการะบูชาในสิ่งที่เป็นสิริมงคล อยากจะดับทุกข์ได้ เราก็ต้องเจริญสติเข้าไปคลายความหลง ละกิเลสออกอีกให้มันหมดจดอีก ตามคำสอนของพระพุทธองค์ บุญระดับสมมติเราก็พากันทำช่วยกันทำ บุญระดับวิมุตติเราก็ศึกษาค้นคว้าทำให้มีให้เกิดขึ้นในใจของเรา

ความรู้ตัวไม่ต่อเนื่องเราก็สร้างให้ต่อเนื่อง การสังเกตการวิเคราะห์เราไม่มี เราก็หัดเป็นคนสังเกตหัดเป็นคนวิเคราะห์ รู้ไม่ทันต้นเหตุเราก็รู้จักระงับยับยั้ง เจริญพรหมวิหารเข้าไปทดแทนต่อต้านกับกิเลส ใจเกิดความโลภเราก็ละความโลภด้วยการเอาออกด้วยการให้ให้อภัยทาน ให้ทั้งทางภายนอกให้ทั้งภายใน ใจเกิดความโกรธก็พยายามละความโกรธ ให้อภัยอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน มีความอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ตลอดเวลา มองโลกในทางที่ดี คิดดี

สักวันหนึ่งเราก็จะเดินถึงจุดหมายปลายทางถึงหลักชัยกันไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ไม่ถึงวันนี้เดือนนี้ เดือนหน้าปีหน้า ถ้าไม่ถึงจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าดวงวิญญาณแต่ละดวงนี่ต้องเดินทางตามวิบากของกรรม ตราบใดที่ยังไม่อยู่เหนือกรรม ตราบใดที่ยังดับความเกิดไม่ได้ก็ต้องไปตามแรงเหวี่ยงของกรรม แต่ขอให้เป็นกุศลกรรมไปในทางที่ดี ถ้าเป็นอกุศลกรรมเราก็พยายามห่างไกล

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง