หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 088
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 088
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
มีความสุขกันทุกคน อากาศเริ่มเย็นสงสัยหนาวคงจะเริ่มเข้ามา อากาศหนาวๆ ทั้งพระทั้งชี ไปช่วยกันปะปูนพญานาคกัน วันนี้เห็นว่าทางระยองพากันมากันสักกี่คน ทางอาจารย์ธานินทร์ให้บริวารมาช่วยการช่วยงาน มาทำบุญให้กับบริวาร เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนสถานที่ ได้มีบุญก็ได้มาร่วม ใครไม่มีบุญก็อนุโมทนาสาธุ ทางด้านจิตใจ น้อมกายน้อมใจเข้ามา เราก็จะมีส่วนแห่งบุญ
พวกช่างเราก็ช่วยกัน ก็ขอบคุณทุกคน เรื่องกับข้าวกับปลาก็ให้ทางแม่ครัวดูแล พวกช่างก็มาช่วยกันดูแลด้วย เพราะว่าต้องช่วยเหลือตัวเอง ช่วยทำช่วยจัดช่วยยก ช่วยอะไรต่างๆ ไปที่ไหนก็อย่าไปเก้อไปเขิน ให้ละอายในสิ่งที่ควรละอาย ให้กล้าหาญในสิ่งที่ควรกล้าหาญ เรื่องปากเรื่องท้องนี่แหละสำคัญ ถ้ากายมันหิวแล้วทำอะไรมันก็ยุ่งยากลําบาก ถ้าไม่มีอยู่มีกินแล้วก็ยุ่งยากลําบาก จะทำอะไรก็ลําบาก ท่านถึงบอกว่าให้ยังสมมติของเราให้บริบูรณ์ก็จะส่งผลทั้งวิมุตติ ถ้าปากท้องยังอยากยังหิวยังไม่มี จะอยู่จะกินอยู่จะไปทำงานอะไรมันก็ทำลําบาก ท่านถึงว่าทำสมมติให้สมบูรณ์ ทีนี้บุญอันอื่นก็จะตามมา
ความอยากของใจมันก็หดหายไป ให้เหลือตั้งแต่สติปัญญาไปบริหารไปทำหน้าที่แทนถ้าถึงเวลา ถ้าไม่ถึงเวลาจะทำยังไงก็ไม่เข้าใจหลักธรรมนะ ถ้าอานิสงส์บุญบารมีไม่ฝักใฝ่ไม่สนใจ เหมือนกับการปลูกผลหมากรากไม้ เราจะไปเร่งให้ออกดอกออกผลวันเดียวก็ไม่ได้ เราหมั่นดูแลรักษา ถึงเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้เราก็ได้
การฝึกฝนใจของเราก็เหมือนกัน เรามีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ อะไรผิดอะไรถูก แต่ละวันๆ อะไรที่จะนําความฉิบหายมาให้ เราก็รู้จักละ อะไรที่จะนําความเจริญมาให้ เราก็รู้จักเจริญ รู้จักแบ่งรู้จักปัน รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ รู้จักให้รู้จักเอาออก รู้จักรับผิดชอบ ทุกเรื่องในชีวิต เราไม่อยากจะได้ธรรมเราก็ได้ เราละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมด คลายความหลงให้ได้ ดับความเกิดของใจของเราให้ได้ เราไม่อยากจะได้ความบริสุทธิ์ของใจเราก็ได้
ใหม่ๆ สติไม่มีเราก็สร้างขึ้นมา ใจของเรายังหลงยังเกิดอยู่เราก็พยายามอบรมพยายามละ ไม่มีใครอยากจะหลงหรอก ไม่มีใครอยากจะตกไปสู่กองทุกข์กองลําบากหรอก เพราะว่าความหลงความไม่รู้ ถึงได้พาไปที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ไปตามอำนาจของกิเลส ถ้าเราเข้าใจแล้ว รู้ความจริงแล้ว แม้แต่การเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด ใจจะเกิดกิเลสก็ไม่เอา
มีให้เป็น ทำให้เป็น รู้จักหน้าที่ของเราให้ดี ยังประโยชน์ให้เต็มเปี่ยม จากน้อยๆ ไปหามากๆ เพราะว่าใจแต่ละดวงไม่หลงไม่เกิด เขาหลงมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์แต่เราก็ว่าเราไม่หลง นอกจากปัญญาของพระพุทธองค์ที่เอามาชี้แนะเปิดเผย การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การสร้างอานิสงส์สร้างบารมีเป็นอย่างนี้ การเอาออก การให้ การละกิเลส มีความสุขสนุกกับการปฏิบัติ สนุกกับการกับงาน เอาการงานเป็นการปฏิบัติ
กายของเรามีอะไรบ้างที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์ ทำไมใจถึงเกิดอยู่ตลอดเวลา ความเกิด กิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาก็หาเหตุหาผลมาโต้แย้ง หลักธรรมก็หาเหตุหาผลเหมือนกัน เจริญสติให้แหลมคมเร็วไว เห็นเหตุเห็นผล แยกแยะได้ ตามดูได้ ใจยอมรับความเป็นจริงได้ จนเกิดความเบื่อหน่ายได้นะ เบื่อหน่ายทั้งภายนอกภายใน แต่ก่อนไม่มี เขาก็มาหลงสร้างให้มีจนเต็มเปี่ยม เราก็คลายออกจนกลับคืนสู่สภาพเดิมคือความบริสุทธิ์ จะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องปัญญาทำหน้าที่รับผิดชอบ ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่กับสมมติ เราก็มีความสุข
ตื่นขึ้นมาก็รีบพิจารณาใจของตัวเรา ตั้งแต่ก่อนก็ยังลําบากอยู่ ทุกวันนี้ก็ความลําบากทางสมมติก็คลี่คลายหายไป เพราะอานิสงส์ความขยันหมั่นเพียรของแต่ละชุดแต่ละช่วงมาร่วมมารวมกัน อะไรไม่ดีเราก็ทำให้ดี พวกเราโอกาสมาทีหลังก็มาสร้างสานต่อ มันก็ยิ่งเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เดี๋ยวนี้ก็เป็นแหล่งบุญใหญ่ของสถานที่ ของหมู่บ้าน ของตำบล ของจังหวัด ของประเทศ ไม่เป็นสมบัติของคนใดคนหนึ่ง เรามีโอกาสมากเท่านั้นเอง ก็พากันมา มาทำอย่าว่าไม่ทำ จะได้มีเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไป ถ้าคนไม่เคยทำล่ะจะนึกถึงอานิสงส์บุญได้อย่างไร
จะเล่าถึงหลวงตาองค์หนึ่ง สมัย 10 ปีก่อน 10 กว่าปีก่อน มาอยู่ด้วย 2 หลวงตา หลวงตาผอมกับหลวงตาอ้วน บวชก็บวชด้วยมีแต่ความโลภ มีอะไรเก็บหมดอย่างเดียว กินหมดอย่างเดียว ทีนี้จะไปเยี่ยมบ้านหลวงตาองค์หนึ่งก็สานกระติบข้าวอันใหญ่ๆ สบู่ยาสีฟันนี่ก็ใส่เต็มกระติบเลยจะเอาไปบ้าน เก็บเอาไว้ช่วยกันหาม ช่วยกันหามออกจากวัด พอจะขึ้นรถสายเชือกมันขาดกระจายอยู่เต็ม กิเลสๆ ของคน อีกหลวงตาองค์หนึ่งหลวงตาอ้วน ใครจะมาถวายสังฆทาน แกจะมาด้อมๆ มองๆ คอยหาจังหวะที่จะเอาไปเก็บ มาที่ไหนก็บล็อคหน้าบล็อคหลัง เพื่อที่จะโน้มน้าวสารพัดอย่าง เห็นแล้วก็น่าอาย
มีวันหนึ่งพระไปบิณฑบาต พระไปบิณฑบาตช่วงนั้นก็มีหมาน้อยหลายตัวอยู่ พวกเจ้าเก๋เจ้าโก้ที่เลี้ยงเอาไว้เขาก็ดูแลวัดนี่แหละ ความโลภของพระ เวลาพระบิณฑบาตมามีขาไก่สักขาหนึ่งก็เก็บเอาไว้ไปขยํากับข้าวให้หมา พระอ้วนก็เลยโกรธ มันเห็นหมาดีกว่าพระ บ่นอยู่อย่างนั้นนะ พอไปบิณฑบาตวันต่อมาท่านได้ออกข้างหน้าไปบิณฑบาต เขาใส่ขาไก่ ท่านก็เอามาเหน็บชายสายสบงของท่าน เดินไปๆ มันก็ร่วงไป ขาไหนเหน็บมันก็ร่วง พอมาถึงวัดไม่เจอขาไก่ วิบากกรรม ความโลภ
ความโลภ ความหลง ความอยาก ความอิจฉา ถ้าเราละออกให้มันหมด มันก็ไม่มี มันก็ไม่เหลือ มองเห็นโลกในทางที่ดีมีพรหมวิหาร เยอะ เจอเยอะ พลวงพ่อมาอยู่ที่นี่ตั้ง 30 ปี จากไม่มีก็ทำให้มี คนบางคนนี่ก็มาแย่งชิงกัน แล้วก็ทะเลาะเบาะแว้งกันไป แล้วก็ตีกัน เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ อยู่ที่นี่คงไม่มีมั้ง หรือมีอยู่ มีเราก็พยายามแก้ไขนะถ้าใครมี ทุกสิ่งทุกอย่าง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทุกข์ นินทา ต้องรีบแก้ไข
แม้ตั้งแต่การน้อมน้าวเอกลาภ ทำน้ำมูกน้ำมนต์ ดูเลขดูหวย อย่าให้มีเด็ดขาด มันผิดทาง มันไม่ใช่ทาง นอกจากการเจริญสติขัดเกลา คลายความหลง เดินปัญญาหรือแยกรูปแยกนาม ละกิเลส มองเห็นหนทางเดิน อะไรที่จะห่างไกลจากกิเลสเราพยายามอย่าเอาเข้ามาวุ่นวาย ทีนี้ก็ไปโทษคนโน้นคนนี้ว่ามาสร้างความวุ่นวายให้ตัวเอง มันไม่ใช่ มันก็เหตุเกิดจากเรานั่นแหละ
สมัยก่อนก็เยอะ พูดอะไรไปผู้เฒ่าก็มาจับไปตีเป็นเลขเป็นหวยหมด ไปถูก ถูกแล้วก็แห่กันมา เราก็ยิ่งดุยิ่งด่า ขนาดด่าปับๆ อยู่ ยังไปซื้อไปแทงหวย ว่าเป็น 09 กลับมาตอนเย็น เกือบถูกหลวงพ่อ ถูกอะไร กูด่ามึงไปเมื่อกี้ มันออก 01 ไปทำน้ำมนต์ ก็ออกอยู่ในขันน้ำมนต์ ให้เอาน้ำมนต์มาให้ทำน้ำมนต์ มันบ้ากันนะ มันหลงกัน
แทนที่จะคลายความหลง ละกิเลสภายใน ทำการทำงาน เอาการงานเป็นการปฏิบัติ ขยันหมั่นเพียร แล้วก็ไปโทษคนโน้นคนนี้ว่ามารบกวนตัวเอง เพียงแค่การน้อมเอกลาภก็อย่าให้มี ตั้งแต่บวชมาไม่เคยแจกโชคเลยนะ ไม่เคยแจกซอง 30 กว่าปี ไม่เคยดิ้นรนแสวงหาแจกซอง แม้ตั้งแต่หลวงปู่เจ้าคณะจังหวัดเอาซองมาให้ตั้งเบ้อเริ่ม หลวงพ่อก็ให้ส่งกลับ เอาไปให้ท่านบอกหลวงพ่อไม่เคยแจก อาย หลายคนหลายท่านบอกกล่าวด้วย อย่าเอามาให้หลวงพ่อ หลวงพ่อไม่แจก ยากนะ เพราะว่าให้เกิดขึ้นด้วยแรงบุญ ถ้าพวกญาติโยมจะทำกฐินหรือทำอะไร หลวงพ่อบอกอย่าไปทำเยอะ ทำนิดหน่อยพอให้พี่ให้น้องได้รู้ได้ทราบ ใครเกิดขึ้นมาก็ให้ ใครอยากจะทำก็ให้มาร่วม มาร่วมมารวม ไม่ใช่ว่าแจกกันว่อนไปทั่ว ใครมีบุญก็ได้มาทำร่วมเท่านั้นแหละ ให้เกิดขึ้นด้วยอานิสงส์แห่งบุญด้วยแรงบุญ อย่าไปทำเด็ดขาด
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก มองกลับไปข้างหลัง ในการเจริญสติการเจริญภาวนา วิธีการสร้างความรู้ตัว หลวงพ่อเพียงแค่บอกแค่กล่าวแค่ชี้แนะอุบายแนวทางให้พวกท่าน ถ้ารู้จักวิธีแนวทางแล้วไปทำ ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อย่าไปบังคับลมหายใจนะ
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสนใจ บางทีเวลาจะดูจะรู้ที ใจมันวอกแวกไปโน่นไปนี่ สติมันพลั้งเผลอมันอึดอัด หายใจก็อึดอัด กายก็อึดอัด เราก็พยายามทำบ่อยๆๆ ถึงเราจะเดินปัญญาละกิเลสไม่ได้ อันนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะ ขอให้มีสติให้ต่อเนื่อง แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ สติความรู้ตัวไม่มี เราก็สร้างขึ้นมา สร้างขึ้นมาไม่ต่อเนื่องเราพยายามทำให้ต่อเนื่อง
ส่วนการเกิดของใจนั้นเขาเกิดอยู่ การเกิดของความคิดนั้นเขามีอยู่ เขามีอยู่แต่สติปัญญาของเรายังไม่รู้เท่าทันตรงนั้น เพราะว่ากําลังสติไม่เข้มแข็งไม่ต่อเนื่อง ส่วนการทำบุญให้ทาน ศรัทธาเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อบุญเชื่อบาปเชื่อกรรมตรงนี้มีมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย การทำบุญให้ทาน เราก็ทำอยู่ตามสถานะตามอัตภาพของเราก็มีอยู่
แต่การเจริญสติ การเจริญปัญญา สติไม่มีเราก็สร้างขึ้นมา จากไม่ต่อเนื่องเราก็ทำให้ต่อเนื่อง จากรู้ไม่ทันใจ เราก็จะเห็นเสียก่อน เห็นความคิด ใจปรุงแต่งส่งไปภายนอก เห็นความคิด เห็นเมื่อเขาเกิดแล้ว ทำอย่างไรเราถึงจะเห็นตั้งแต่เริ่มเกิด เริ่มก่อตัว กําลังสติของเราต้องเพิ่มความเพียรเข้าไปอีก ใจเกิดกิเลสเราก็รู้จักดับ รู้จักละ เจริญพรหมวิหาร เจริญความเมตตา มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ถ้ารู้ด้วย เห็นด้วย ถึงเวลาประจวบเหมาะใจจะคลายออกจากความคิด คลายออกจากขันธ์ห้า เราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ว่า คําว่าอัตตาเป็นลักษณะอย่างไร อนัตตาความว่างเปล่า อัตตาตัวตนเป็นลักษณะอย่างไร ก็จะเห็นอยู่ในกายในใจของเรา
ตามคําสอนของพระพุทธองค์ว่า ขันธ์ทั้งห้าเป็นก้อนทุกข์ มีวิญญาณเข้ามายึดมาติด มันหลงเกิดมานานจนกระทั่งมาสร้างกายเนื้อมาปิดกั้น ในส่วนลึกๆ เขายังหลงเกิด หลงเกิดวนเวียนว่ายตายเกิด จนกระทั่งเข้ามาหลงมาสร้างกายเนื้อปิดกั้นตัวเองอีก แล้วก็เป็นทาสของกิเลสอีก เราต้องพยายามไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือ ถ้าไม่มีความเพียรจริงๆ ก็ยากที่จะเข้าใจ
อย่างน้อยๆ ก็ให้รู้จักสร้างอานิสงส์สร้างบุญบารมีเอาไว้ อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ตั้งแต่คิดดี ทำดี แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่การเจริญสติก็ต้องทำ ต้องสร้างได้นิดได้หน่อยก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันสักนิดนึงก็ยังดีนะ
พากันไว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ
พวกช่างเราก็ช่วยกัน ก็ขอบคุณทุกคน เรื่องกับข้าวกับปลาก็ให้ทางแม่ครัวดูแล พวกช่างก็มาช่วยกันดูแลด้วย เพราะว่าต้องช่วยเหลือตัวเอง ช่วยทำช่วยจัดช่วยยก ช่วยอะไรต่างๆ ไปที่ไหนก็อย่าไปเก้อไปเขิน ให้ละอายในสิ่งที่ควรละอาย ให้กล้าหาญในสิ่งที่ควรกล้าหาญ เรื่องปากเรื่องท้องนี่แหละสำคัญ ถ้ากายมันหิวแล้วทำอะไรมันก็ยุ่งยากลําบาก ถ้าไม่มีอยู่มีกินแล้วก็ยุ่งยากลําบาก จะทำอะไรก็ลําบาก ท่านถึงบอกว่าให้ยังสมมติของเราให้บริบูรณ์ก็จะส่งผลทั้งวิมุตติ ถ้าปากท้องยังอยากยังหิวยังไม่มี จะอยู่จะกินอยู่จะไปทำงานอะไรมันก็ทำลําบาก ท่านถึงว่าทำสมมติให้สมบูรณ์ ทีนี้บุญอันอื่นก็จะตามมา
ความอยากของใจมันก็หดหายไป ให้เหลือตั้งแต่สติปัญญาไปบริหารไปทำหน้าที่แทนถ้าถึงเวลา ถ้าไม่ถึงเวลาจะทำยังไงก็ไม่เข้าใจหลักธรรมนะ ถ้าอานิสงส์บุญบารมีไม่ฝักใฝ่ไม่สนใจ เหมือนกับการปลูกผลหมากรากไม้ เราจะไปเร่งให้ออกดอกออกผลวันเดียวก็ไม่ได้ เราหมั่นดูแลรักษา ถึงเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้เราก็ได้
การฝึกฝนใจของเราก็เหมือนกัน เรามีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ อะไรผิดอะไรถูก แต่ละวันๆ อะไรที่จะนําความฉิบหายมาให้ เราก็รู้จักละ อะไรที่จะนําความเจริญมาให้ เราก็รู้จักเจริญ รู้จักแบ่งรู้จักปัน รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ รู้จักให้รู้จักเอาออก รู้จักรับผิดชอบ ทุกเรื่องในชีวิต เราไม่อยากจะได้ธรรมเราก็ได้ เราละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมด คลายความหลงให้ได้ ดับความเกิดของใจของเราให้ได้ เราไม่อยากจะได้ความบริสุทธิ์ของใจเราก็ได้
ใหม่ๆ สติไม่มีเราก็สร้างขึ้นมา ใจของเรายังหลงยังเกิดอยู่เราก็พยายามอบรมพยายามละ ไม่มีใครอยากจะหลงหรอก ไม่มีใครอยากจะตกไปสู่กองทุกข์กองลําบากหรอก เพราะว่าความหลงความไม่รู้ ถึงได้พาไปที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ไปตามอำนาจของกิเลส ถ้าเราเข้าใจแล้ว รู้ความจริงแล้ว แม้แต่การเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด ใจจะเกิดกิเลสก็ไม่เอา
มีให้เป็น ทำให้เป็น รู้จักหน้าที่ของเราให้ดี ยังประโยชน์ให้เต็มเปี่ยม จากน้อยๆ ไปหามากๆ เพราะว่าใจแต่ละดวงไม่หลงไม่เกิด เขาหลงมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์แต่เราก็ว่าเราไม่หลง นอกจากปัญญาของพระพุทธองค์ที่เอามาชี้แนะเปิดเผย การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การสร้างอานิสงส์สร้างบารมีเป็นอย่างนี้ การเอาออก การให้ การละกิเลส มีความสุขสนุกกับการปฏิบัติ สนุกกับการกับงาน เอาการงานเป็นการปฏิบัติ
กายของเรามีอะไรบ้างที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์ ทำไมใจถึงเกิดอยู่ตลอดเวลา ความเกิด กิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาก็หาเหตุหาผลมาโต้แย้ง หลักธรรมก็หาเหตุหาผลเหมือนกัน เจริญสติให้แหลมคมเร็วไว เห็นเหตุเห็นผล แยกแยะได้ ตามดูได้ ใจยอมรับความเป็นจริงได้ จนเกิดความเบื่อหน่ายได้นะ เบื่อหน่ายทั้งภายนอกภายใน แต่ก่อนไม่มี เขาก็มาหลงสร้างให้มีจนเต็มเปี่ยม เราก็คลายออกจนกลับคืนสู่สภาพเดิมคือความบริสุทธิ์ จะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องปัญญาทำหน้าที่รับผิดชอบ ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่กับสมมติ เราก็มีความสุข
ตื่นขึ้นมาก็รีบพิจารณาใจของตัวเรา ตั้งแต่ก่อนก็ยังลําบากอยู่ ทุกวันนี้ก็ความลําบากทางสมมติก็คลี่คลายหายไป เพราะอานิสงส์ความขยันหมั่นเพียรของแต่ละชุดแต่ละช่วงมาร่วมมารวมกัน อะไรไม่ดีเราก็ทำให้ดี พวกเราโอกาสมาทีหลังก็มาสร้างสานต่อ มันก็ยิ่งเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป เดี๋ยวนี้ก็เป็นแหล่งบุญใหญ่ของสถานที่ ของหมู่บ้าน ของตำบล ของจังหวัด ของประเทศ ไม่เป็นสมบัติของคนใดคนหนึ่ง เรามีโอกาสมากเท่านั้นเอง ก็พากันมา มาทำอย่าว่าไม่ทำ จะได้มีเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไป ถ้าคนไม่เคยทำล่ะจะนึกถึงอานิสงส์บุญได้อย่างไร
จะเล่าถึงหลวงตาองค์หนึ่ง สมัย 10 ปีก่อน 10 กว่าปีก่อน มาอยู่ด้วย 2 หลวงตา หลวงตาผอมกับหลวงตาอ้วน บวชก็บวชด้วยมีแต่ความโลภ มีอะไรเก็บหมดอย่างเดียว กินหมดอย่างเดียว ทีนี้จะไปเยี่ยมบ้านหลวงตาองค์หนึ่งก็สานกระติบข้าวอันใหญ่ๆ สบู่ยาสีฟันนี่ก็ใส่เต็มกระติบเลยจะเอาไปบ้าน เก็บเอาไว้ช่วยกันหาม ช่วยกันหามออกจากวัด พอจะขึ้นรถสายเชือกมันขาดกระจายอยู่เต็ม กิเลสๆ ของคน อีกหลวงตาองค์หนึ่งหลวงตาอ้วน ใครจะมาถวายสังฆทาน แกจะมาด้อมๆ มองๆ คอยหาจังหวะที่จะเอาไปเก็บ มาที่ไหนก็บล็อคหน้าบล็อคหลัง เพื่อที่จะโน้มน้าวสารพัดอย่าง เห็นแล้วก็น่าอาย
มีวันหนึ่งพระไปบิณฑบาต พระไปบิณฑบาตช่วงนั้นก็มีหมาน้อยหลายตัวอยู่ พวกเจ้าเก๋เจ้าโก้ที่เลี้ยงเอาไว้เขาก็ดูแลวัดนี่แหละ ความโลภของพระ เวลาพระบิณฑบาตมามีขาไก่สักขาหนึ่งก็เก็บเอาไว้ไปขยํากับข้าวให้หมา พระอ้วนก็เลยโกรธ มันเห็นหมาดีกว่าพระ บ่นอยู่อย่างนั้นนะ พอไปบิณฑบาตวันต่อมาท่านได้ออกข้างหน้าไปบิณฑบาต เขาใส่ขาไก่ ท่านก็เอามาเหน็บชายสายสบงของท่าน เดินไปๆ มันก็ร่วงไป ขาไหนเหน็บมันก็ร่วง พอมาถึงวัดไม่เจอขาไก่ วิบากกรรม ความโลภ
ความโลภ ความหลง ความอยาก ความอิจฉา ถ้าเราละออกให้มันหมด มันก็ไม่มี มันก็ไม่เหลือ มองเห็นโลกในทางที่ดีมีพรหมวิหาร เยอะ เจอเยอะ พลวงพ่อมาอยู่ที่นี่ตั้ง 30 ปี จากไม่มีก็ทำให้มี คนบางคนนี่ก็มาแย่งชิงกัน แล้วก็ทะเลาะเบาะแว้งกันไป แล้วก็ตีกัน เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ อยู่ที่นี่คงไม่มีมั้ง หรือมีอยู่ มีเราก็พยายามแก้ไขนะถ้าใครมี ทุกสิ่งทุกอย่าง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทุกข์ นินทา ต้องรีบแก้ไข
แม้ตั้งแต่การน้อมน้าวเอกลาภ ทำน้ำมูกน้ำมนต์ ดูเลขดูหวย อย่าให้มีเด็ดขาด มันผิดทาง มันไม่ใช่ทาง นอกจากการเจริญสติขัดเกลา คลายความหลง เดินปัญญาหรือแยกรูปแยกนาม ละกิเลส มองเห็นหนทางเดิน อะไรที่จะห่างไกลจากกิเลสเราพยายามอย่าเอาเข้ามาวุ่นวาย ทีนี้ก็ไปโทษคนโน้นคนนี้ว่ามาสร้างความวุ่นวายให้ตัวเอง มันไม่ใช่ มันก็เหตุเกิดจากเรานั่นแหละ
สมัยก่อนก็เยอะ พูดอะไรไปผู้เฒ่าก็มาจับไปตีเป็นเลขเป็นหวยหมด ไปถูก ถูกแล้วก็แห่กันมา เราก็ยิ่งดุยิ่งด่า ขนาดด่าปับๆ อยู่ ยังไปซื้อไปแทงหวย ว่าเป็น 09 กลับมาตอนเย็น เกือบถูกหลวงพ่อ ถูกอะไร กูด่ามึงไปเมื่อกี้ มันออก 01 ไปทำน้ำมนต์ ก็ออกอยู่ในขันน้ำมนต์ ให้เอาน้ำมนต์มาให้ทำน้ำมนต์ มันบ้ากันนะ มันหลงกัน
แทนที่จะคลายความหลง ละกิเลสภายใน ทำการทำงาน เอาการงานเป็นการปฏิบัติ ขยันหมั่นเพียร แล้วก็ไปโทษคนโน้นคนนี้ว่ามารบกวนตัวเอง เพียงแค่การน้อมเอกลาภก็อย่าให้มี ตั้งแต่บวชมาไม่เคยแจกโชคเลยนะ ไม่เคยแจกซอง 30 กว่าปี ไม่เคยดิ้นรนแสวงหาแจกซอง แม้ตั้งแต่หลวงปู่เจ้าคณะจังหวัดเอาซองมาให้ตั้งเบ้อเริ่ม หลวงพ่อก็ให้ส่งกลับ เอาไปให้ท่านบอกหลวงพ่อไม่เคยแจก อาย หลายคนหลายท่านบอกกล่าวด้วย อย่าเอามาให้หลวงพ่อ หลวงพ่อไม่แจก ยากนะ เพราะว่าให้เกิดขึ้นด้วยแรงบุญ ถ้าพวกญาติโยมจะทำกฐินหรือทำอะไร หลวงพ่อบอกอย่าไปทำเยอะ ทำนิดหน่อยพอให้พี่ให้น้องได้รู้ได้ทราบ ใครเกิดขึ้นมาก็ให้ ใครอยากจะทำก็ให้มาร่วม มาร่วมมารวม ไม่ใช่ว่าแจกกันว่อนไปทั่ว ใครมีบุญก็ได้มาทำร่วมเท่านั้นแหละ ให้เกิดขึ้นด้วยอานิสงส์แห่งบุญด้วยแรงบุญ อย่าไปทำเด็ดขาด
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก มองกลับไปข้างหลัง ในการเจริญสติการเจริญภาวนา วิธีการสร้างความรู้ตัว หลวงพ่อเพียงแค่บอกแค่กล่าวแค่ชี้แนะอุบายแนวทางให้พวกท่าน ถ้ารู้จักวิธีแนวทางแล้วไปทำ ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อย่าไปบังคับลมหายใจนะ
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสนใจ บางทีเวลาจะดูจะรู้ที ใจมันวอกแวกไปโน่นไปนี่ สติมันพลั้งเผลอมันอึดอัด หายใจก็อึดอัด กายก็อึดอัด เราก็พยายามทำบ่อยๆๆ ถึงเราจะเดินปัญญาละกิเลสไม่ได้ อันนั้นเอาไว้ทีหลังเถอะ ขอให้มีสติให้ต่อเนื่อง แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ สติความรู้ตัวไม่มี เราก็สร้างขึ้นมา สร้างขึ้นมาไม่ต่อเนื่องเราพยายามทำให้ต่อเนื่อง
ส่วนการเกิดของใจนั้นเขาเกิดอยู่ การเกิดของความคิดนั้นเขามีอยู่ เขามีอยู่แต่สติปัญญาของเรายังไม่รู้เท่าทันตรงนั้น เพราะว่ากําลังสติไม่เข้มแข็งไม่ต่อเนื่อง ส่วนการทำบุญให้ทาน ศรัทธาเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อบุญเชื่อบาปเชื่อกรรมตรงนี้มีมาตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย การทำบุญให้ทาน เราก็ทำอยู่ตามสถานะตามอัตภาพของเราก็มีอยู่
แต่การเจริญสติ การเจริญปัญญา สติไม่มีเราก็สร้างขึ้นมา จากไม่ต่อเนื่องเราก็ทำให้ต่อเนื่อง จากรู้ไม่ทันใจ เราก็จะเห็นเสียก่อน เห็นความคิด ใจปรุงแต่งส่งไปภายนอก เห็นความคิด เห็นเมื่อเขาเกิดแล้ว ทำอย่างไรเราถึงจะเห็นตั้งแต่เริ่มเกิด เริ่มก่อตัว กําลังสติของเราต้องเพิ่มความเพียรเข้าไปอีก ใจเกิดกิเลสเราก็รู้จักดับ รู้จักละ เจริญพรหมวิหาร เจริญความเมตตา มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ถ้ารู้ด้วย เห็นด้วย ถึงเวลาประจวบเหมาะใจจะคลายออกจากความคิด คลายออกจากขันธ์ห้า เราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ว่า คําว่าอัตตาเป็นลักษณะอย่างไร อนัตตาความว่างเปล่า อัตตาตัวตนเป็นลักษณะอย่างไร ก็จะเห็นอยู่ในกายในใจของเรา
ตามคําสอนของพระพุทธองค์ว่า ขันธ์ทั้งห้าเป็นก้อนทุกข์ มีวิญญาณเข้ามายึดมาติด มันหลงเกิดมานานจนกระทั่งมาสร้างกายเนื้อมาปิดกั้น ในส่วนลึกๆ เขายังหลงเกิด หลงเกิดวนเวียนว่ายตายเกิด จนกระทั่งเข้ามาหลงมาสร้างกายเนื้อปิดกั้นตัวเองอีก แล้วก็เป็นทาสของกิเลสอีก เราต้องพยายามไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือ ถ้าไม่มีความเพียรจริงๆ ก็ยากที่จะเข้าใจ
อย่างน้อยๆ ก็ให้รู้จักสร้างอานิสงส์สร้างบุญบารมีเอาไว้ อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ตั้งแต่คิดดี ทำดี แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่การเจริญสติก็ต้องทำ ต้องสร้างได้นิดได้หน่อยก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันสักนิดนึงก็ยังดีนะ
พากันไว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ