หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 57
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 57
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 57
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่เช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง เราได้สร้างความรู้สึกรับรู้ให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ วางกายให้สบายเสียก่อน แล้วก็วางใจ หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ฟังไปด้วยแล้วก็น้อมสำเหนียก เข้าไปดูรู้สัมผัสของลมหายใจของเรา ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ และก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น
ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจนั่นแหละ เราพยายามศึกษาให้ละเอียด ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พยายามฝึก พยายามศึกษา พยายามสร้างให้มีให้เกิด แล้วก็ให้ต่อเนื่องแล้วก็รู้จักเอาไปใช้ เอาไปอบรมใจ ไปวิเคราะห์เห็นการเกิดการดับของใจ เห็นการเกิดการดับของความคิด เอาไปทำความเข้าใจกับโลกธรรม
กายของเราเป็นอย่างไร กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ใจเกิดกิเลสอย่างไร ใจปรุงแต่งส่งไปภายนอกได้อย่างไร ลักษณะหน้าตาอาการ อาการของความคิด ใจตัวความว่างเป็นอย่างไร ใจที่ว่างจากการเกิด ใจที่ว่างจากความคิด ใจที่ว่างจากขันธ์ห้า ใจที่แยกใจที่คลาย ใจที่หงายจากความคิด ตรงนั้นยังไม่ค่อยจะเข้าใจกันหรอก เพราะว่ากําลังสติมีไม่เพียงพอ
มีตั้งแต่แรงบุญแรงศรัทธา แสวงหาด้วยใจที่เกิดที่ปรุงที่แต่ง ด้วยใจที่บงการด้วยขันธ์ห้าที่บงการ เขาหลงมานาน แต่บารมีส่วนอื่นนั้นพากันทำกันมาดีในระดับของสมมติ แต่ในระดับของวิมุตติคือใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า กําลังสติเอาไปใช้การใช้งานตรงนี้มีไม่เพียงพอ ก็ต้องพยายาม ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย การฝึกหัดปฏิบัติธรรมก็ปฏิบัติกาย วาจา ใจของเรานั่นแหละกําลังสติของเรามีไม่เพียงพอก็ยากที่จะเข้าใจ มันก็เข้าใจอยู่ในระดับของสมมติของโลกีย์ อาจจะเป็นบุญเป็นกุศลอยู่ในระดับของสมมติ แต่ใจยังเกิดอยู่ ถ้าไม่หลงไม่เกิด
เพียงแค่การเกิดของใจ การเกิดของขันธ์ห้าก็มีอยู่ มีกันทุกคน จะมีมากมีน้อย ทีนี้ใจก็มาเกิดความโลภ ความโกรธ ความยินดียินร้าย เกิดความอิจฉาริษยา ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ เยอะ ยิ่งเจริญสติเข้าไปเท่าไร ยิ่งเห็นเยอะๆ เท่าไร ยิ่งทำความเข้าใจ รู้ความเป็นจริงแล้วก็ค่อยขัดเกลา ค่อยละทีละเล็กทีละน้อยไป ถ้าเราไม่ฝึกเราก็ไม่รู้ว่าเรามีกิเลสเยอะ ยิ่งฝึกไปเท่าไร ยิ่งเห็นเยอะ มันยิ่งผุดขึ้นมาให้เห็น เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนกัน เพราะว่าเขาเกิดมานาน เขาหลงมานาน จะให้เขาคลายได้ง่ายๆ ก็ต้องสร้างตบะสร้างบารมี เจริญสติเข้าไปเห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผลตามดูรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน
เพียงแค่การควบคุมกายกับควบคุมวาจาก็ทั้งยาก ลึกลงไปก็ควบคุมใจก็ยังยากอีก ใจเกิดกิเลส ใจปรุงแต่ง กิเลสเกิดขึ้นที่กาย ใจปรุงแต่งร่วม หรือว่าเกิดกิเลสเกิดขึ้นที่ใจ เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิดหรือเกิดจากภายใน ต้องเป็นบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ถึงจะเอาอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ไปตามอำนาจของกิเลส พยายามค่อยเป็นค่อยไปสร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ สร้างความเสียสละ มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ถ้าเราสอนเราไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าใครจะสอนให้ แนวทางนั้นมีมาตั้งนานแล้ว แต่พวกเราจะดำเนินได้ถูกทางถูกที่หรือไม่เท่านั้นเอง
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงใหม่ สนุก มีความสุขกับการกับงานของเรา เอาการงานเป็นที่ตั้ง ทำงานไปด้วยรู้ใจไปด้วย รู้ลักษณะของความปกติ ตากระทบรูปใจของเราเป็นอย่างไร หูกระทบเสียงใจของเราเป็นอย่างไร ภาษาธรรมภาษาโลกเป็นอย่างไร สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟังเป็นอย่างไร
ปฏิบัติฝึกหัด ปฏิบัติสติไม่เจริญให้ต่อเนื่อง มันก็ยากที่จะเข้าถึงปัญญาขั้นสูงได้ ก็อาจจะได้แค่ควบคุม ควบคุมใจได้เป็นบางเรื่องบางครั้งบางคราว รู้จักเอาไปใช้ได้เป็นบางเรื่องบางคราว มันก็อาจจะเป็นผลดีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่อยากจะให้ดีจริงๆ เราต้องถอนรากถอนโคน เห็นเหตุต้นเหตุการเกิดของจิตวิญญาณ การเกิดของขันธ์ห้า อะไรควรละ อะไรควรเจริญ ดำเนิน ละกิเลส ละความอยาก ดับความเกิดให้มันหมด หนุนกําลังสติปัญญาไปเกิดแทน ไปทำหน้าที่แทนให้ได้ทุกเรื่อง ถึงจะมีความสุข
เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งทีต้องพยายาม ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ไม่ถึงเร็วก็ไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ ก็ขอให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้นะ อย่าพากันทิ้ง ไปแก้ไขปรับปรุงกันไป แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมาเราได้ยังประโยชน์อะไร วันนี้พระเราส่วนหนึ่งก็ไปช่วยกัน อาจารย์ฮกด้วยนะ พากันไปทำความสะอาดถังน้ำประปาให้หน่อย ข้างล่างไม่ได้ล้างมาตั้ง 2-3 ปีแล้วป่านนี้ขี้โคลนคงจะเขรอะกันมากแล้วมั้ง พยายามล้างให้สะอาด เดือนก่อนนั้นก็ล้างถังข้างบน บ่อทิ้งบ่อเกรอะต้องเอารถมาขุดเพราะดินมันเต็มไปหมด ตะกอนมันเต็มไปหมด ถ้าเราไม่ช่วยกัน ก็ไม่รู้ว่าใครจะช่วย มีแต่คนใช้ แต่คนที่จะช่วยกันมันมีน้อย
เราต้องพยายามช่วยกันทุกเรื่อง อะไรพอช่วยกันได้ เยอะเลยงานในวัดนี่เยอะมากมาย ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่พักที่อาศัยที่หลับนอน มีให้เท่านี้ก็ดีแล้ว เราพยายามช่วยกัน หลายสิ่งหลายอย่างที่เราจะต้องทำช่วยกัน อย่าไปงอมืองอเท้า เราพยายามสร้างความขยันหมั่นเพียร มีโอกาสทำเสร็จ เราก็มีความสุข คนอื่นมาก็มีความสุขเราได้จุดต้นบุญเอาไว้จากน้อยๆ ต่อไปในวันข้างหน้า ก็จะเป็นบุญกองใหญ่มหึมา พวกเราจากไป คนรุ่นหลังก็จะได้มาสร้างสานต่อไม่ได้ลําบาก
ถ้าพวกเราไม่รู้จักทำ รู้จักรับผิดชอบ มีตั้งแต่ทำลาย ก็มีตั้งแต่ความเร่าร้อน ทางด้านจิตใจก็ร้อน ทางสมมติก็ร้อน แย่งชิงกันฆ่ากันฟันกัน เพียงแค่เดินก้าวออกจากประตูวัดเท่านั้นก็ร้อนแล้วแหละ บรรยากาศออกไปข้างนอกไม่น่าอยู่เลย ก้าวเข้ามาในวัดก็เริ่มมีตั้งแต่ความเยือกความเย็น อะไรผิดพลาดเราก็แก้ไขช่วยกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งนั้นชีช่วยเอาต้นไม้ไปปลูกให้หน่อยนะ ต้นพวงแสดที่โยมกุ้งท่านเอามาให้ ปลูกในกระถางที่ว่างๆ ตรงไหนที่ว่าง ตรงหน้าห้องน้ำฝั่งตะวันตกที่ลงอยู่ตรงหน้าศาลาพระหยกก็มีลงอยู่ เอาเฉพาะต้นพวงแสด เลี้ยงดีๆ ก็จะออกดอกสวยงามให้ได้ทุกจุดทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราพยายามทำๆ ให้ดี เพียงแค่ระดับสมมติก็ทำให้เต็มก็จะส่งผลทางวิมุตติ
ไม่ใช่ปฏิบัติธรรม ไม่รู้จักอะไร มีแต่ความเกียจคร้าน ไม่มีปัญญาเอาเสียเลย ปฏิบัติธรรม มีแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ มีแต่ความอยาก มันไปที่ไหนก็มีความหลง ปฏิบัติด้วยความหลงทั้งนั้น เรามาแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา ความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ การกระทำ จนกระทั่งกําลังสติเราพลั้งเผลอได้อย่างไร ใจของเราเกิดสักกี่เที่ยว ใจของเราเกิดสักกี่ครั้ง ขันธ์ห้า ความคิด ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเราสักกี่เรื่อง อะไรคือเป็นเรื่องกางกั้นใจของเราไม่ให้รับความสงบ คําว่านิวรณธรรมเป็นอย่างไร กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย พากันปฏิบัติ เอาแต่ความเกียจคร้านเอาตั้งแต่ความสะดวกสบาย มันยิ่งห่างไกล
เราต้องพยายามมาขัดมาเกลา มาละ มาอดมาทน มาวิเคราะห์ มาสังเกต แม้แต่ความอยากเล็กๆ น้อยๆ อยากในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง อยากคิด อยากมี อยากเป็น ในหลักธรรมท่านให้ทั้งละความอยาก ละความหวัง ดับความอยากที่เกิดจากตัวใจให้มันหมด คลายใจออกจากความคิดออกจากขันธ์ห้า ให้รู้ ให้เห็น อยู่ในกองก้อนเนื้อก้อนนี้ แล้วทำความเข้าใจเรา จะไปโทษคนโน้นโทษคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ต้องโทษตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา จนมองเห็นความเป็นจริง
อยู่ที่ไหนก็เป็นวัด ถ้ากายของเราเป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อยู่กลางโรงหนังกลางตลาด ใจต้องสงบปราศจากกิเลส สงบจากการเกิด สงบจากกิเลส สงบจากความยึดมั่นถือมั่น แต่เวลานี้กําลังสติ จะฝึกให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงก็มีน้อย ทั้งที่ใจก็เป็นบุญ ใจก็เต็มเปี่ยมด้วยตบะบารมีอยู่ แต่ให้ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ เสียดายนะ เราก็ต้องพยายาม
วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2558
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่เช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง เราได้สร้างความรู้สึกรับรู้ให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ วางกายให้สบายเสียก่อน แล้วก็วางใจ หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ฟังไปด้วยแล้วก็น้อมสำเหนียก เข้าไปดูรู้สัมผัสของลมหายใจของเรา ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ และก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น
ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจนั่นแหละ เราพยายามศึกษาให้ละเอียด ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พยายามฝึก พยายามศึกษา พยายามสร้างให้มีให้เกิด แล้วก็ให้ต่อเนื่องแล้วก็รู้จักเอาไปใช้ เอาไปอบรมใจ ไปวิเคราะห์เห็นการเกิดการดับของใจ เห็นการเกิดการดับของความคิด เอาไปทำความเข้าใจกับโลกธรรม
กายของเราเป็นอย่างไร กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร ใจเกิดกิเลสอย่างไร ใจปรุงแต่งส่งไปภายนอกได้อย่างไร ลักษณะหน้าตาอาการ อาการของความคิด ใจตัวความว่างเป็นอย่างไร ใจที่ว่างจากการเกิด ใจที่ว่างจากความคิด ใจที่ว่างจากขันธ์ห้า ใจที่แยกใจที่คลาย ใจที่หงายจากความคิด ตรงนั้นยังไม่ค่อยจะเข้าใจกันหรอก เพราะว่ากําลังสติมีไม่เพียงพอ
มีตั้งแต่แรงบุญแรงศรัทธา แสวงหาด้วยใจที่เกิดที่ปรุงที่แต่ง ด้วยใจที่บงการด้วยขันธ์ห้าที่บงการ เขาหลงมานาน แต่บารมีส่วนอื่นนั้นพากันทำกันมาดีในระดับของสมมติ แต่ในระดับของวิมุตติคือใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า กําลังสติเอาไปใช้การใช้งานตรงนี้มีไม่เพียงพอ ก็ต้องพยายาม ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย การฝึกหัดปฏิบัติธรรมก็ปฏิบัติกาย วาจา ใจของเรานั่นแหละกําลังสติของเรามีไม่เพียงพอก็ยากที่จะเข้าใจ มันก็เข้าใจอยู่ในระดับของสมมติของโลกีย์ อาจจะเป็นบุญเป็นกุศลอยู่ในระดับของสมมติ แต่ใจยังเกิดอยู่ ถ้าไม่หลงไม่เกิด
เพียงแค่การเกิดของใจ การเกิดของขันธ์ห้าก็มีอยู่ มีกันทุกคน จะมีมากมีน้อย ทีนี้ใจก็มาเกิดความโลภ ความโกรธ ความยินดียินร้าย เกิดความอิจฉาริษยา ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ เยอะ ยิ่งเจริญสติเข้าไปเท่าไร ยิ่งเห็นเยอะๆ เท่าไร ยิ่งทำความเข้าใจ รู้ความเป็นจริงแล้วก็ค่อยขัดเกลา ค่อยละทีละเล็กทีละน้อยไป ถ้าเราไม่ฝึกเราก็ไม่รู้ว่าเรามีกิเลสเยอะ ยิ่งฝึกไปเท่าไร ยิ่งเห็นเยอะ มันยิ่งผุดขึ้นมาให้เห็น เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนกัน เพราะว่าเขาเกิดมานาน เขาหลงมานาน จะให้เขาคลายได้ง่ายๆ ก็ต้องสร้างตบะสร้างบารมี เจริญสติเข้าไปเห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผลตามดูรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน
เพียงแค่การควบคุมกายกับควบคุมวาจาก็ทั้งยาก ลึกลงไปก็ควบคุมใจก็ยังยากอีก ใจเกิดกิเลส ใจปรุงแต่ง กิเลสเกิดขึ้นที่กาย ใจปรุงแต่งร่วม หรือว่าเกิดกิเลสเกิดขึ้นที่ใจ เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิดหรือเกิดจากภายใน ต้องเป็นบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ถึงจะเอาอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ไปตามอำนาจของกิเลส พยายามค่อยเป็นค่อยไปสร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ สร้างความเสียสละ มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ถ้าเราสอนเราไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าใครจะสอนให้ แนวทางนั้นมีมาตั้งนานแล้ว แต่พวกเราจะดำเนินได้ถูกทางถูกที่หรือไม่เท่านั้นเอง
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงใหม่ สนุก มีความสุขกับการกับงานของเรา เอาการงานเป็นที่ตั้ง ทำงานไปด้วยรู้ใจไปด้วย รู้ลักษณะของความปกติ ตากระทบรูปใจของเราเป็นอย่างไร หูกระทบเสียงใจของเราเป็นอย่างไร ภาษาธรรมภาษาโลกเป็นอย่างไร สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟังเป็นอย่างไร
ปฏิบัติฝึกหัด ปฏิบัติสติไม่เจริญให้ต่อเนื่อง มันก็ยากที่จะเข้าถึงปัญญาขั้นสูงได้ ก็อาจจะได้แค่ควบคุม ควบคุมใจได้เป็นบางเรื่องบางครั้งบางคราว รู้จักเอาไปใช้ได้เป็นบางเรื่องบางคราว มันก็อาจจะเป็นผลดีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่อยากจะให้ดีจริงๆ เราต้องถอนรากถอนโคน เห็นเหตุต้นเหตุการเกิดของจิตวิญญาณ การเกิดของขันธ์ห้า อะไรควรละ อะไรควรเจริญ ดำเนิน ละกิเลส ละความอยาก ดับความเกิดให้มันหมด หนุนกําลังสติปัญญาไปเกิดแทน ไปทำหน้าที่แทนให้ได้ทุกเรื่อง ถึงจะมีความสุข
เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งทีต้องพยายาม ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ไม่ถึงเร็วก็ไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ ก็ขอให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้นะ อย่าพากันทิ้ง ไปแก้ไขปรับปรุงกันไป แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมาเราได้ยังประโยชน์อะไร วันนี้พระเราส่วนหนึ่งก็ไปช่วยกัน อาจารย์ฮกด้วยนะ พากันไปทำความสะอาดถังน้ำประปาให้หน่อย ข้างล่างไม่ได้ล้างมาตั้ง 2-3 ปีแล้วป่านนี้ขี้โคลนคงจะเขรอะกันมากแล้วมั้ง พยายามล้างให้สะอาด เดือนก่อนนั้นก็ล้างถังข้างบน บ่อทิ้งบ่อเกรอะต้องเอารถมาขุดเพราะดินมันเต็มไปหมด ตะกอนมันเต็มไปหมด ถ้าเราไม่ช่วยกัน ก็ไม่รู้ว่าใครจะช่วย มีแต่คนใช้ แต่คนที่จะช่วยกันมันมีน้อย
เราต้องพยายามช่วยกันทุกเรื่อง อะไรพอช่วยกันได้ เยอะเลยงานในวัดนี่เยอะมากมาย ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่พักที่อาศัยที่หลับนอน มีให้เท่านี้ก็ดีแล้ว เราพยายามช่วยกัน หลายสิ่งหลายอย่างที่เราจะต้องทำช่วยกัน อย่าไปงอมืองอเท้า เราพยายามสร้างความขยันหมั่นเพียร มีโอกาสทำเสร็จ เราก็มีความสุข คนอื่นมาก็มีความสุขเราได้จุดต้นบุญเอาไว้จากน้อยๆ ต่อไปในวันข้างหน้า ก็จะเป็นบุญกองใหญ่มหึมา พวกเราจากไป คนรุ่นหลังก็จะได้มาสร้างสานต่อไม่ได้ลําบาก
ถ้าพวกเราไม่รู้จักทำ รู้จักรับผิดชอบ มีตั้งแต่ทำลาย ก็มีตั้งแต่ความเร่าร้อน ทางด้านจิตใจก็ร้อน ทางสมมติก็ร้อน แย่งชิงกันฆ่ากันฟันกัน เพียงแค่เดินก้าวออกจากประตูวัดเท่านั้นก็ร้อนแล้วแหละ บรรยากาศออกไปข้างนอกไม่น่าอยู่เลย ก้าวเข้ามาในวัดก็เริ่มมีตั้งแต่ความเยือกความเย็น อะไรผิดพลาดเราก็แก้ไขช่วยกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งนั้นชีช่วยเอาต้นไม้ไปปลูกให้หน่อยนะ ต้นพวงแสดที่โยมกุ้งท่านเอามาให้ ปลูกในกระถางที่ว่างๆ ตรงไหนที่ว่าง ตรงหน้าห้องน้ำฝั่งตะวันตกที่ลงอยู่ตรงหน้าศาลาพระหยกก็มีลงอยู่ เอาเฉพาะต้นพวงแสด เลี้ยงดีๆ ก็จะออกดอกสวยงามให้ได้ทุกจุดทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราพยายามทำๆ ให้ดี เพียงแค่ระดับสมมติก็ทำให้เต็มก็จะส่งผลทางวิมุตติ
ไม่ใช่ปฏิบัติธรรม ไม่รู้จักอะไร มีแต่ความเกียจคร้าน ไม่มีปัญญาเอาเสียเลย ปฏิบัติธรรม มีแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ มีแต่ความอยาก มันไปที่ไหนก็มีความหลง ปฏิบัติด้วยความหลงทั้งนั้น เรามาแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา ความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ การกระทำ จนกระทั่งกําลังสติเราพลั้งเผลอได้อย่างไร ใจของเราเกิดสักกี่เที่ยว ใจของเราเกิดสักกี่ครั้ง ขันธ์ห้า ความคิด ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเราสักกี่เรื่อง อะไรคือเป็นเรื่องกางกั้นใจของเราไม่ให้รับความสงบ คําว่านิวรณธรรมเป็นอย่างไร กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย พากันปฏิบัติ เอาแต่ความเกียจคร้านเอาตั้งแต่ความสะดวกสบาย มันยิ่งห่างไกล
เราต้องพยายามมาขัดมาเกลา มาละ มาอดมาทน มาวิเคราะห์ มาสังเกต แม้แต่ความอยากเล็กๆ น้อยๆ อยากในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง อยากคิด อยากมี อยากเป็น ในหลักธรรมท่านให้ทั้งละความอยาก ละความหวัง ดับความอยากที่เกิดจากตัวใจให้มันหมด คลายใจออกจากความคิดออกจากขันธ์ห้า ให้รู้ ให้เห็น อยู่ในกองก้อนเนื้อก้อนนี้ แล้วทำความเข้าใจเรา จะไปโทษคนโน้นโทษคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ต้องโทษตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา จนมองเห็นความเป็นจริง
อยู่ที่ไหนก็เป็นวัด ถ้ากายของเราเป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อยู่กลางโรงหนังกลางตลาด ใจต้องสงบปราศจากกิเลส สงบจากการเกิด สงบจากกิเลส สงบจากความยึดมั่นถือมั่น แต่เวลานี้กําลังสติ จะฝึกให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงก็มีน้อย ทั้งที่ใจก็เป็นบุญ ใจก็เต็มเปี่ยมด้วยตบะบารมีอยู่ แต่ให้ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ เสียดายนะ เราก็ต้องพยายาม
วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา