หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 63 วันที่ 15 กรกฎาคม 2560
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 63 วันที่ 15 กรกฎาคม 2560
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 63
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2560
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย แล้วก็หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้เด็ดขาด เราละไม่ได้เด็ดขาด ก็ให้รู้จักวิธีการเจริญสติ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายก็จะสบายขึ้นเยอะ ใจก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่กระทบปลายจมูกของเรานั่นแหละที่ท่านเรียกว่า สติรู้กาย เราพยายามสร้างความรู้ตัวตรงนี้ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ ก็รู้สัมผัสของลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกปั๊บ มีสติรู้กายตั้งแต่ตื่นขึ้น จนความรู้สึกตัวของเราต่อเนื่องเชื่อมโยง
เราก็จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ลักษณะใจที่ปกติ รู้ลักษณะของใจที่เกิด รู้ลักษณะของความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจคิด หรือว่าอาการของขันธ์ห้าพูดขึ้นมา ใจเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร เราจะค่อยวิเคราะห์พิจารณา อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน แต่เวลานี้ความรู้ตัวหรือว่าสติมีไม่เพียงพอ หรือไม่มีเอาเสียเลย
สติปัญญาทางโลกนั้นมีอยู่ สติปัญญาในทางธรรมที่จะรู้ลึกเข้าไปอบรมใจ แก้ไขใจ ปรับปรุงใจของเรานั้นมีน้อย บางคนก็มีอยู่แต่ไม่รู้จักเอาไปใช้ เอาไปอบรมใจ เอาไปแก้ไขใจ จนรู้จนเห็นจนใจคลายออกจากความคิด ใจหงายขึ้นมาหรือว่าแยกรูปแยกนาม ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูก เห็นถูกแล้วก็ตามดูตามรู้ เข้าใจในเรื่องชีวิตของเรา เข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ เข้าใจในชีวิต รู้จักดำเนินรู้จักแก้ไข อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน ไปตามสภาพของเรา หัดคิด หัดวิเคราะห์ แต่ความคิดด้วยปัญญาไม่ใช่ความคิดที่เกิดจากใจ ใหม่ๆเราต้องสร้างขึ้นมา ให้มีให้เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน เราก็ต้องพยายาม พลั้งเผลอเมื่อไรเราก็ทำใหม่ ค่อยพัฒนาตัวเราไปเรื่อยๆ จากน้อยๆ ไปหามากๆ
วันนี้ก็รู้สึกว่าลูกหลานนักเรียนหลายโรงเรียนมาร่วมมารวมกันมาทำกิจกรรม อาจารย์ที่โรงเรียนก็พามา พามาเที่ยวมาฝึก ทางโรงเรียนก็ฝึกฝนความรู้ ค่อยพัฒนาพามาวัดหาโอกาสให้ครูบาอาจารย์ได้ชี้แนะแนวทางให้ เราก็พยายามเอาไปฝึก ความอดทนเป็นอย่างไร ความเสียสละเป็นอย่างไร ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อแก่หมู่แก่คณะ ความอ่อนโยน อ่อนน้อม ความถ่อมตน ไม่ก้าวร้าว เราพยายามหัดวิเคราะห์ตัวเราแก้ไขตัวเราอยู่ตลอดเวลา ความรับผิดชอบส่วนตัวส่วนรวมเราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมา จะเป็นอานิสงส์ส่งให้ในวันข้างหน้า ใจก็จะได้ปล่อยได้วางความยึดมั่นถือมั่นได้เร็วได้ไว
เราพยายามสร้างความรับผิดชอบ ถ้าเรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามสร้างความขยัน ขยันหมั่นเพียร ถ้าเรามีความทะเยอทะยานอยาก เราก็พยายามดับ หยุดความทะเยอทะยานอยาก ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา ทำหน้าที่แทน เป็นคนรักความเป็นระเบียบ เป็นคนรักความสะอาด คนทั่วไปจะรักความสะอาดแต่ชอบสกปรก ทำไมถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่าไม่ว่าที่ไหน บางทีก็ทิ้งมันเกลื่อน เศษขยะเศษกระดาษต่างๆ ก็ทิ้งเกลื่อน เราพยายามเก็บ พยายามเก็บ พยายามทำความเข้าใจ ไม่ว่าที่ไหน ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ยังความเป็นระเบียบให้แก่ตัวเราอยู่ตลอดเวลา
ความเป็นระเบียบนี้แหละในวันข้างหน้า จิตวิญญาณก็จะค่อยพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จากความไม่รู้ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นความรู้ จากการเจริญสติเข้าไปเห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผล สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ขณะนี้เราอยู่ในวัยของการเรียน เราก็พยายามตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียนสร้างความขยันให้มีให้เกิดขึ้น ทรัพย์ตรงนี้แหละเขาเรียกว่า ทรัพย์ภายใน
พยายามสร้างขึ้นมา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านเราก็ช่วยพ่อช่วยแม่ ช่วยหมู่คณะเพื่อนฝูง ฝึกหัดเป็นคนที่มีความเสียสละ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ให้ ให้ทั้งภายนอกให้ทั้งภายใน ลึกลงไปก็ให้อภัยทานอโหสิกรรม อายุมากขึ้นๆ ใจก็จะค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ จนเข้าถึงความบริสุทธิ์ความสะอาด ตราบใดที่พวกเรายังฝักใฝ่ ยังสนใจอยู่ ก็ต้องพยายามกัน อย่าพากันปล่อยปละละเลย วันนี้มี วันหน้ามี พรุ่งนี้มี เดือนหน้ามี ปีหน้ามี ภพนี้มี ภพหน้ามี
เราได้เกิดมาอยู่ในภพมนุษย์ เราต้องจําแนกแจกแจงว่าเราจะไปไหน ไปอย่างไร มาอย่างไร ท่านให้เจริญสติเข้าไปอบรมใจจนกว่าใจของเราจะคลายความหลง แยกรูปแยกนามได้ ละกิเลสได้ เข้าถึงเป้าหมาย คือความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น
แต่เวลานี้ สมมติภายนอก เราก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง อย่าไปปิดกั้นตัวเราว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีเวลา ทุกคนมีลมหายใจเข้าออกหมด แต่พวกเราขาดการสนใจ ไปเอาตั้งแต่เรื่องภายนอกมาทับถมดวงใจของตัวเรา เราก็พยายามคลาย หัดคลาย หัดละ หัดเอาออก ทำความเข้าใจ ขยันหมั่นเพียร ทั้งสมมติทั้งวิมุตติ สมมติก็คือโลกธรรมที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวต่างๆ เราก็ต้องพยายามศึกษาทำความเข้าใจ ขยันหมั่นเพียรกัน สักวันหนึ่งเราก็จะเข้าใจในชีวิตของเรา แนวทางนั้น คําสอนของพระพุทธองค์นั้นมีมานาน เราพยายามสร้างอานิสงส์สร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่ายังไม่ถึงกาลถึงเวลา
เราพยายามสร้างความรับผิดชอบสร้างความขยันหมั่นเพียร ว่าพระพุทธองค์ท่านชี้แนะว่าอย่างไร ท่านสอนเรื่องอะไร อัตตาเป็นอย่างไร อนัตตาเป็นอย่างไร สมมติเป็นอย่างไร วิมุตติเป็นอย่างไร การสร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น ความเสียสละ ความอดทน มีความจริงใจ มีความบริสุทธิ์ มีสัจจะกับตัวเราเอง มีสัจจะกับตัวเราเอง สัจจะนี้เป็นตัวสำคัญ เราก็ต้องพยายาม สัจจะกับตัวเราแล้วก็มีความจริงใจกับหมู่กับคณะกับเพื่อนกับฝูง ใจของเราก็จะปล่อยก็จะวางได้เร็วได้ไว ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีว่าฆราวาส มีขันธ์ห้าเหมือนกันหมด เราก็ต้องพยายามนะ
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2560
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย แล้วก็หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้เด็ดขาด เราละไม่ได้เด็ดขาด ก็ให้รู้จักวิธีการเจริญสติ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายก็จะสบายขึ้นเยอะ ใจก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่กระทบปลายจมูกของเรานั่นแหละที่ท่านเรียกว่า สติรู้กาย เราพยายามสร้างความรู้ตัวตรงนี้ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ ก็รู้สัมผัสของลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกปั๊บ มีสติรู้กายตั้งแต่ตื่นขึ้น จนความรู้สึกตัวของเราต่อเนื่องเชื่อมโยง
เราก็จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ลักษณะใจที่ปกติ รู้ลักษณะของใจที่เกิด รู้ลักษณะของความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจคิด หรือว่าอาการของขันธ์ห้าพูดขึ้นมา ใจเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร เราจะค่อยวิเคราะห์พิจารณา อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน แต่เวลานี้ความรู้ตัวหรือว่าสติมีไม่เพียงพอ หรือไม่มีเอาเสียเลย
สติปัญญาทางโลกนั้นมีอยู่ สติปัญญาในทางธรรมที่จะรู้ลึกเข้าไปอบรมใจ แก้ไขใจ ปรับปรุงใจของเรานั้นมีน้อย บางคนก็มีอยู่แต่ไม่รู้จักเอาไปใช้ เอาไปอบรมใจ เอาไปแก้ไขใจ จนรู้จนเห็นจนใจคลายออกจากความคิด ใจหงายขึ้นมาหรือว่าแยกรูปแยกนาม ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า สัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูก เห็นถูกแล้วก็ตามดูตามรู้ เข้าใจในเรื่องชีวิตของเรา เข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ เข้าใจในชีวิต รู้จักดำเนินรู้จักแก้ไข อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน ไปตามสภาพของเรา หัดคิด หัดวิเคราะห์ แต่ความคิดด้วยปัญญาไม่ใช่ความคิดที่เกิดจากใจ ใหม่ๆเราต้องสร้างขึ้นมา ให้มีให้เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน เราก็ต้องพยายาม พลั้งเผลอเมื่อไรเราก็ทำใหม่ ค่อยพัฒนาตัวเราไปเรื่อยๆ จากน้อยๆ ไปหามากๆ
วันนี้ก็รู้สึกว่าลูกหลานนักเรียนหลายโรงเรียนมาร่วมมารวมกันมาทำกิจกรรม อาจารย์ที่โรงเรียนก็พามา พามาเที่ยวมาฝึก ทางโรงเรียนก็ฝึกฝนความรู้ ค่อยพัฒนาพามาวัดหาโอกาสให้ครูบาอาจารย์ได้ชี้แนะแนวทางให้ เราก็พยายามเอาไปฝึก ความอดทนเป็นอย่างไร ความเสียสละเป็นอย่างไร ความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อแก่หมู่แก่คณะ ความอ่อนโยน อ่อนน้อม ความถ่อมตน ไม่ก้าวร้าว เราพยายามหัดวิเคราะห์ตัวเราแก้ไขตัวเราอยู่ตลอดเวลา ความรับผิดชอบส่วนตัวส่วนรวมเราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมา จะเป็นอานิสงส์ส่งให้ในวันข้างหน้า ใจก็จะได้ปล่อยได้วางความยึดมั่นถือมั่นได้เร็วได้ไว
เราพยายามสร้างความรับผิดชอบ ถ้าเรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามสร้างความขยัน ขยันหมั่นเพียร ถ้าเรามีความทะเยอทะยานอยาก เราก็พยายามดับ หยุดความทะเยอทะยานอยาก ด้วยความขยันหมั่นเพียร ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา ทำหน้าที่แทน เป็นคนรักความเป็นระเบียบ เป็นคนรักความสะอาด คนทั่วไปจะรักความสะอาดแต่ชอบสกปรก ทำไมถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่าไม่ว่าที่ไหน บางทีก็ทิ้งมันเกลื่อน เศษขยะเศษกระดาษต่างๆ ก็ทิ้งเกลื่อน เราพยายามเก็บ พยายามเก็บ พยายามทำความเข้าใจ ไม่ว่าที่ไหน ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ยังความเป็นระเบียบให้แก่ตัวเราอยู่ตลอดเวลา
ความเป็นระเบียบนี้แหละในวันข้างหน้า จิตวิญญาณก็จะค่อยพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ จากความไม่รู้ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นความรู้ จากการเจริญสติเข้าไปเห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผล สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ขณะนี้เราอยู่ในวัยของการเรียน เราก็พยายามตั้งใจเรียน ตั้งใจเรียนสร้างความขยันให้มีให้เกิดขึ้น ทรัพย์ตรงนี้แหละเขาเรียกว่า ทรัพย์ภายใน
พยายามสร้างขึ้นมา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านเราก็ช่วยพ่อช่วยแม่ ช่วยหมู่คณะเพื่อนฝูง ฝึกหัดเป็นคนที่มีความเสียสละ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เป็นผู้ให้ ให้ทั้งภายนอกให้ทั้งภายใน ลึกลงไปก็ให้อภัยทานอโหสิกรรม อายุมากขึ้นๆ ใจก็จะค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ จนเข้าถึงความบริสุทธิ์ความสะอาด ตราบใดที่พวกเรายังฝักใฝ่ ยังสนใจอยู่ ก็ต้องพยายามกัน อย่าพากันปล่อยปละละเลย วันนี้มี วันหน้ามี พรุ่งนี้มี เดือนหน้ามี ปีหน้ามี ภพนี้มี ภพหน้ามี
เราได้เกิดมาอยู่ในภพมนุษย์ เราต้องจําแนกแจกแจงว่าเราจะไปไหน ไปอย่างไร มาอย่างไร ท่านให้เจริญสติเข้าไปอบรมใจจนกว่าใจของเราจะคลายความหลง แยกรูปแยกนามได้ ละกิเลสได้ เข้าถึงเป้าหมาย คือความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น
แต่เวลานี้ สมมติภายนอก เราก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง อย่าไปปิดกั้นตัวเราว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีเวลา ทุกคนมีลมหายใจเข้าออกหมด แต่พวกเราขาดการสนใจ ไปเอาตั้งแต่เรื่องภายนอกมาทับถมดวงใจของตัวเรา เราก็พยายามคลาย หัดคลาย หัดละ หัดเอาออก ทำความเข้าใจ ขยันหมั่นเพียร ทั้งสมมติทั้งวิมุตติ สมมติก็คือโลกธรรมที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวต่างๆ เราก็ต้องพยายามศึกษาทำความเข้าใจ ขยันหมั่นเพียรกัน สักวันหนึ่งเราก็จะเข้าใจในชีวิตของเรา แนวทางนั้น คําสอนของพระพุทธองค์นั้นมีมานาน เราพยายามสร้างอานิสงส์สร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่ายังไม่ถึงกาลถึงเวลา
เราพยายามสร้างความรับผิดชอบสร้างความขยันหมั่นเพียร ว่าพระพุทธองค์ท่านชี้แนะว่าอย่างไร ท่านสอนเรื่องอะไร อัตตาเป็นอย่างไร อนัตตาเป็นอย่างไร สมมติเป็นอย่างไร วิมุตติเป็นอย่างไร การสร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น ความเสียสละ ความอดทน มีความจริงใจ มีความบริสุทธิ์ มีสัจจะกับตัวเราเอง มีสัจจะกับตัวเราเอง สัจจะนี้เป็นตัวสำคัญ เราก็ต้องพยายาม สัจจะกับตัวเราแล้วก็มีความจริงใจกับหมู่กับคณะกับเพื่อนกับฝูง ใจของเราก็จะปล่อยก็จะวางได้เร็วได้ไว ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีว่าฆราวาส มีขันธ์ห้าเหมือนกันหมด เราก็ต้องพยายามนะ
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปศึกษาทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ