หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 68
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 68
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจนแล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ได้สำรวจกายสำรวจใจของเราแล้วหรือยัง ทำความเข้าใจกับคำว่า สติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน ปัจจุบันคือทุกขณะลมหายใจเข้าเขาเรียกว่า ปัจจุบัน ทุกขณะลมหายใจออกเขาเรียกว่า ปัจจุบันธรรม เราพยายามสร้างความรู้ตัวตรงนี้ เข้าไปอบรมใจอบรมกายของตัวเราอยู่ตลอดเวลา
การเจริญสติ ความหมายของการเจริญสติ แล้วก็เอาสติปัญญาไปใช้การใช้งานจนกว่าเราจะรู้ทัน รู้จักลักษณะของใจ ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า คลายออกจากความคิดเป็นลักษณะอย่างนี้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นลักษณะอย่างนี้ กายทำหน้าที่ ทวารทั้งหกทำหน้าที่ เขาทำหน้าที่ของเขา เรามีสติคอยสังเกตวิเคราะห์ใจของเรา
แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราต้องวิเคราะห์ความเกียจคร้านของเรามีหรือไม่ ถ้ามีเราพยายามละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งสมมติทั้งวิมุตติ ถ้าเราไม่พิจารณาตัวเราแก้ไขตัวเราละกิเลสของเรา ไม่มีใครที่จะช่วยเหลือเราได้นอกจากตัวของเรา
แนวทางคำสอนนั้นพระพุทธองค์ได้ค้นพบน้อมนำมาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็คือพวกเรานี่แหละ ได้ประพฤติได้ปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา ถ้าเรามัวเมาตั้งแต่ความเกียจคร้าน ครั้งหนึ่งสองครั้งสามครั้งก็หมักหมมไปเรื่อยๆ สะสมกิเลสความเกิด ความอยากไปเรื่อยๆ มันก็เยอะขึ้นๆๆ จนขัดเกลาเอาไม่ออก เราพยายามแก้ไขตัวเรา ใจของเราเกิดความอยาก เราก็ละความอยากด้วยการให้ ใจเกิดความโลภ เราก็พยายามให้คลายออก ใจเกิดความโกรธ เราก็พยายามดับความโกรธด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม
การฝึกหัดปฏิบัติทำความเข้าใจ การปฏิบัติธรรมก็คือการทำความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนที่ธาตุขันธ์จะแตกจะดับไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี พยายามขัดเกลาละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน สร้างความรับผิดชอบ ยังประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ปัจจุบัน มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิด หรือว่าไม่ได้กลับมาเกิดกัน ก็ต้องพยายามกัน
บอกตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจศึกษาชีวิตของเรา ไม่มีใครที่จะทำให้เราได้หรอก จะไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนเดิมถ้าเราเอาตั้งแต่ความเกียจคร้าน มีตั้งแต่หมักหมมตั้งแต่กิเลส บอกให้ได้ใช้ให้เป็น บุคคลที่จะฝักใฝ่ในธรรมฟังนิดเดียวการเจริญสติเป็นอย่างนี้ การละกิเลสเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ กายของเราเข้าไปร่วมสมมติ ใจของเรารับรู้ ใจของเราเกิดกิเลสหรือไม่ก็รีบจัดการตัวเรา ชนะตัวเราแล้วเราก็จะชนะหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
อันนี้ก็ใกล้จะออกพรรษา ใกล้จะถึงงานกฐินจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายนก็เป็นงานกฐินของพวกเรา มีอะไรก็ให้ช่วยกันเตรียมพร้อม เป็นผู้ตื่น ผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แล้วก็เป็นผู้เตรียมพร้อมทั้งงานภายนอกงานภายใน งานสมมติเราก็ไม่ให้ขาดตกบกพร่องไม่ให้ติดขัด มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่าน มาจากคนละทิศละที่ละทางก็ให้รู้จักมีความสมัครสมานสามัคคี มีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ ถ้าคนต่างเอาตั้งแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เจริญ อยู่คนเดียวก็ไม่เจริญ หนักตัวเรา หนักแผ่นดิน หนักสถานที่ เราก็ต้องพยายามแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่งมีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ให้ไปทำความเข้าใจต่อ รู้ทุกอิริยาบถ
การเจริญสติ ความหมายของการเจริญสติ แล้วก็เอาสติปัญญาไปใช้การใช้งานจนกว่าเราจะรู้ทัน รู้จักลักษณะของใจ ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า คลายออกจากความคิดเป็นลักษณะอย่างนี้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นลักษณะอย่างนี้ กายทำหน้าที่ ทวารทั้งหกทำหน้าที่ เขาทำหน้าที่ของเขา เรามีสติคอยสังเกตวิเคราะห์ใจของเรา
แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราต้องวิเคราะห์ความเกียจคร้านของเรามีหรือไม่ ถ้ามีเราพยายามละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งสมมติทั้งวิมุตติ ถ้าเราไม่พิจารณาตัวเราแก้ไขตัวเราละกิเลสของเรา ไม่มีใครที่จะช่วยเหลือเราได้นอกจากตัวของเรา
แนวทางคำสอนนั้นพระพุทธองค์ได้ค้นพบน้อมนำมาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็คือพวกเรานี่แหละ ได้ประพฤติได้ปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา ถ้าเรามัวเมาตั้งแต่ความเกียจคร้าน ครั้งหนึ่งสองครั้งสามครั้งก็หมักหมมไปเรื่อยๆ สะสมกิเลสความเกิด ความอยากไปเรื่อยๆ มันก็เยอะขึ้นๆๆ จนขัดเกลาเอาไม่ออก เราพยายามแก้ไขตัวเรา ใจของเราเกิดความอยาก เราก็ละความอยากด้วยการให้ ใจเกิดความโลภ เราก็พยายามให้คลายออก ใจเกิดความโกรธ เราก็พยายามดับความโกรธด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม
การฝึกหัดปฏิบัติทำความเข้าใจ การปฏิบัติธรรมก็คือการทำความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนที่ธาตุขันธ์จะแตกจะดับไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี พยายามขัดเกลาละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน สร้างความรับผิดชอบ ยังประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ปัจจุบัน มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิด หรือว่าไม่ได้กลับมาเกิดกัน ก็ต้องพยายามกัน
บอกตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจศึกษาชีวิตของเรา ไม่มีใครที่จะทำให้เราได้หรอก จะไปอยู่ที่ไหนก็เหมือนเดิมถ้าเราเอาตั้งแต่ความเกียจคร้าน มีตั้งแต่หมักหมมตั้งแต่กิเลส บอกให้ได้ใช้ให้เป็น บุคคลที่จะฝักใฝ่ในธรรมฟังนิดเดียวการเจริญสติเป็นอย่างนี้ การละกิเลสเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ กายของเราเข้าไปร่วมสมมติ ใจของเรารับรู้ ใจของเราเกิดกิเลสหรือไม่ก็รีบจัดการตัวเรา ชนะตัวเราแล้วเราก็จะชนะหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
อันนี้ก็ใกล้จะออกพรรษา ใกล้จะถึงงานกฐินจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายนก็เป็นงานกฐินของพวกเรา มีอะไรก็ให้ช่วยกันเตรียมพร้อม เป็นผู้ตื่น ผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แล้วก็เป็นผู้เตรียมพร้อมทั้งงานภายนอกงานภายใน งานสมมติเราก็ไม่ให้ขาดตกบกพร่องไม่ให้ติดขัด มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่าน มาจากคนละทิศละที่ละทางก็ให้รู้จักมีความสมัครสมานสามัคคี มีความเสียสละ มีความรับผิดชอบ ถ้าคนต่างเอาตั้งแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เจริญ อยู่คนเดียวก็ไม่เจริญ หนักตัวเรา หนักแผ่นดิน หนักสถานที่ เราก็ต้องพยายามแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่งมีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ให้ไปทำความเข้าใจต่อ รู้ทุกอิริยาบถ