หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 9

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 9
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 9
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 9
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 17 มกราคม 2562

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้า วิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เรารู้จักทำความเข้าใจในการเจริญสติเป็นลักษณะอย่างนี้ การเจริญสติที่ต่อเนื่อง การเจริญสติเข้าไปอบรมใจของตัวเราเอง


ใจที่ปกติเป็นลักษณะอย่างนี้ ความหมายของภาษา ภาษาโลกภาษาธรรม ใจที่ปกติใจที่ไม่เกิดความคิดที่เกิดจากตัวใจโดยตรง ความคิดที่เกิดจากอาการของขันธ์ห้าหรือว่าความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิด เราพยายามสร้างความรู้ตัว ให้รู้เท่ารู้ทัน รู้จักทำความเข้าใจ รู้ไม่ทันก็รู้จักหยุด รู้จักควบคุม จนใจคลายออกจากขันธ์ห้า แยกรูปแยกนามได้นั่นแหละเราถึงจะมองเห็นหนทางเดินความเห็นถูกถึงจะเปิดทางให้

ส่วนมากก็..คิดก็รู้ ทำก็รู้ ใจก็ฝักใฝ่อยู่ในการสร้างบุญ สร้างกุศล อยู่ในระดับหนึ่ง แต่การเจริญสตินี้สำคัญ ไม่ค่อยจะทำให้ต่อเนื่องกันเท่าไหร่ เราอาจจะไปนึกเอา ไปคิดเอา ว่าเป็นสติ เป็นปัญญา อันนั้นเป็นสติปัญญาเก่า ปัญญาโลกีย์ ความคิดที่เกิดจากใจคิด ความคิดที่เกิดจากขันธ์ห้าคิด บางทีก็ทั้งใจทั้งขันธ์ห้าทั้งสมองรวมกันไป

ในหลักธรรมแล้วท่านให้มาสร้างความรู้ตัว ด้วยว่ามาสร้างผู้รู้ตัวใหม่ สร้างผู้รู้ส่วนสมองจำแนกแจกแจงออกให้เห็นเป็นคนละส่วน ส่วนสมอง ส่วนสติของเรา ส่วนใจนั้นก็มีอยู่เดิม ส่วนอาการของขันธ์ห้านั้นก็มีอยู่เดิม ศรัทธาความเชื่อในบุญในบาปนั้นก็มีอยู่เดิม การฝักใฝ่การทำบุญให้ทาน ตรงนี้ก็มีอยู่เดิม

เรามาสร้างความรู้ตัวเข้าไปรู้ว่า ใจที่ปกติเป็นอย่างนี้ ใจที่เกิดส่งออกไปภายนอกเป็นลักษณะหน้าตาอาการเป็นอย่างนี้ ความคิดที่ผุดขึ้นมา ใจเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นอย่างนี้ กำลังสติของเรารู้ทัน ใจคลายออกจากความคิดเป็นลักษณะอย่างนี้ เราก็ตามดูว่าเป็นกองเป็นขันธ์ แยกออกให้เห็น คนละชิ้นละส่วน แต่เขาก็รวมอยู่ในกายของเรา เราก็ต้องพยายามหัดวิเคราะห์ หัดสำรวจหัดทำความเข้าใจ

ทุกเรื่องในชีวิต ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ทำหน้าที่ของเราให้ดี แต่ละวันตื่นขึ้นมา เรามีความรับผิดชอบหรือไม่ ภาระหน้าที่ การงานอะไรที่เรายังคั่งค้างอยู่ อะไรที่ยังไม่เรียบร้อย เราก็พยายามทำ

ท่านถึงบอกว่าให้รอบรู้ในวิญญาณในกาย รอบรู้ในใจ รอบรู้ในปัจจัยที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว รอบรู้ในโลกธรรม สิ่งไหนที่มันไม่มี เราก็พยายามทำให้มี เพื่ออนุเคราะห์อำนวยความสะดวกสบายในทางสมมติ ถ้าสมมติไม่ได้ลำบากก็ส่งผลถึงทางด้านวิมุตติ ทางด้านจิตใจก็จะได้ไม่ดิ้นรนมากมาย


แต่เวลานี้สมมติก็พร่อง อะไรก็พร่อง มันก็เลยลำบากไปหมด ติดขัดไปหมด เราก็พยายามมาแก้ไข แก้ไขจากตัวเราทำจากน้อยๆ ไปหามากๆ เป็นคนขยันเป็นคนรับผิดชอบมีความเสียสละรู้จักขนขวาย รู้จากฝักใฝ่ อยู่ตลอดเวลา รู้จักแก้ไขตัวเราจากครั้งหนึ่ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง ขึ้นไปจนเต็มรอบ ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บจะได้ปั๊บ เราก็ค่อยทำ ค่อยเป็นค่อยไป

ใจของเรามีความเสียสละเพียงพอหรือไม่ มีการทำบุญ มีการให้ทาน มีการให้อภัยอโหสิกรรมมีความรับผิดชอบไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน เป็นบุคคลที่ฝักใฝ่สนใจ อันนี้คือโลกอันนี้คือธรรม สักวันหนึ่งเราก็จะเข้าใจในความหมาย สักวันหนึ่งใจของเราก็คงจะเข้าถึงในความหมายนั้นๆ เราก็จะได้มองเห็นหนทางเดินของเราว่าการเกิดมาอยู่ในโลกมนุษย์ เรามีหน้าที่ ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง แล้วก็ทำหน้าที่ให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ก็ต้องพยายามกัน

ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี อยู่ด้วยกันก็ให้รู้จักรัก สมัครสมาน สามัคคี เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปใส่ใจเขา อยู่คนเดียวก็แก้ไขตัวเรา อยู่หลายคนก็แก้ไขตัวเรา อยู่ด้วยกันหลายคนก็มองโลกในทางที่ดี อย่าไปอคติ อย่าไปเพ่งโทษ คนโน้นไม่ดี คนนี้ไม่ดี ใจของเราไม่ดี มันถึงคิดออกไปอย่างนั้น เรามาแก้ไขใจของเรา ทำใจของเราให้ดี ถ้าใจของเราดีแล้ว เหตุการณ์ภายนอกไม่ดีถึงขนาดไหน ใจของเราก็ดีอยู่เหมือนเดิม เราก็ต้องพยายามมาแก้ไข

ในหลักธรรมท่านให้แก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเองอยู่ตลอดเวลา จนล้นออกไปสู่หมู่ สู่คณะ สู่เพื่อนสู่ฝูง อยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข ก็ต้องพยายามกัน หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟัง

สร้างความรู้ตัว สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน ให้ชำนาญ ทำให้จนเกิดความเคยชิน เกิดความชำนาญจนเอาไปใช้การใช้งานได้ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง