หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 67

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 67
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 67
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 67
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 มิถุนายน 2562

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ ลักษณะของการเจริญสติ พวกท่านได้พากันสร้างขึ้นมาแล้วหรือยัง หรือว่ามีตั้งแต่ไปนึกไปคิดเอา ใจนี่ฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการให้ทาน ในการแสวงหาธรรม การเกิดของใจนั่นแหละ คือกิเลสอันละเอียดที่ปิดกั้นความสงบของใจ

เรามาสร้างความรู้ตัวตัวใหม่ ซึ่งภาษาธรรมท่านเรียกว่า 'สติ' ถ้าเราสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า 'สัมปชัญญะ' มีความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้การหายใจเข้าหายใจออก รู้การเคลื่อนไหวของร่างกาย ลึกลงไป… ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง เราก็จะรู้ลักษณะของความปกติของใจ รู้การเกิดการก่อตัวของใจ รู้การเกิดการก่อตัวของขันธ์ห้า ซึ่งมีอยู่กันทุกคน แล้วก็มีเยอะด้วย

แต่ละวันตื่นขึ้นมาใจของเราปรุงแต่งส่งออกไปภายนอกสักกี่ครั้ง ความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเราสักกี่ครั้ง สักกี่เรื่อง ถ้าเราไม่มีสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบันก็ยากที่จะเข้าถึง ก็ยากที่จะรู้เท่าทัน ก็เพียงแค่การเจริญสตินี้ก็ยังยากอยู่ การควบคุมใจการอบรมใจ การชี้เหตุชี้ผลจนรู้การก่อตัวของใจ ของขันธ์ห้า เขาเคลื่อนเข้าไปรวมกันได้อย่างไร นั่นแหละสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกถึงจะเปิดทางให้ ใจของเราก็จะชัดเจน อาการของขันธ์ห้าก็จะชัดเจนว่าเป็นเรื่องอะไร

อะไรคือที่ท่านบอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ เป็นกองรูปกองนาม กองนามเขายังจำแนกแจกแจงอีกว่า กองวิญญาณ กองสังขาร เป็นกุศลอกุศล เป็นกลางๆ ซึ่งเป็นส่วนนามธรรมซึ่งเรียกว่าไม่มีตัวไม่มีตัวตน แต่ความรู้สึกรับรู้มีอยู่

ถ้าเราไม่ดำเนินตามคำสอนของพระพุทธองค์ก็ยากที่จะรู้ ยากที่จะเข้าถึงใจ ทุกคนก็ปรารถนาหาหนทางดับทุกข์ หาหนทางหลุดพ้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับของการสร้างบารมีของสมมติ การทำบุญให้ทาน ความเสียสละ ความอดทนอดกลั้น ความอ่อนน้อมถ่อมตน อันนี้เป็นตบะบารมีอยู่ในระดับของสมมติ

ความขยันหมั่นเพียรในการเจริญสติจนรู้เท่ารู้ทัน รู้จักทำความเข้าใจ รู้กันรู้แก้ รู้จักสร้างขึ้นมาให้มีให้เกิดขึ้น อะไรคือทรัพย์ อะไรคืออริยทรัพย์ภายใน ใจที่สะอาดบริสุทธิ์ ใจที่ว่างจากการเกิด ว่างจากกิเลส ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น เรามาแก้ไขเรา เป็นเรื่องของเราไม่ใช่เรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องของเราทุกคน

ถ้าเราเจริญสติอบรมใจของเราไม่ได้ ก็อย่าไปเที่ยวให้คนโน้นคนนี้เขาสอน เขาอบรม เรารู้จักวิธีการแล้ว รู้จักแนวทางแล้ว การเจริญสติที่ต่อเนื่องกันเป็นอย่างนี้นะ การหยุดการดับ การควบคุม การฝืน จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากขันธ์ห้าได้เมื่อไหร่นั่นแหละ เราก็จะรู้เท่า ว่ากิเลสตัวไหนมาเล่นงานเรา เราจะพลั้งเผลอให้กิเลสหรือไม่ แต่ในเวลานี้มันรวมกันไปหมด เราก็เลยว่าเราไม่หลง ทั้งที่ความหลงนั้นมีครอบงำอยู่ตลอดเวลา

ก็ต้องพยายามหมั่นแก้ไขทั้งสมมติทั้งวิมุตติ สมมติความเป็นอยู่ของเราอยู่ขณะปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร อะไรขาดตกบกพร่องเราก็รีบแก้ไข ผิดพลาดก็แก้ไขใหม่ เริ่มต้นขึ้นมาใหม่ อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง ก็ต้องพยายามกันนะ มีโอกาสไม่ว่าพระว่าชีว่าโยม เราหมั่นแก้ไขตัวเราได้เท่าไหร่ ก็พยายามทำ จะว่าไม่ทำ ทำมากทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย

ใครมีโอกาสอยากจะทำอะไร ก็น้อมกายน้อมใจมาช่วยกัน ให้เป็นสมบัติของส่วนกลาง ให้เป็นสมบัติของส่วนรวม พวกเราจากไปรุ่นหลังก็จะได้ไม่ลำบาก มายังบุญต่อ ให้เกิดเป็นกองบุญอันยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า พวกเราได้มีโอกาสมาวางรากฐานเอาไว้ให้เป็นอานิสงส์อันใหญ่กองใหญ่ ไปที่ไหนก็ไม่ได้ลำบาก อย่าคิดว่าไม่ทำ การทำคิดดี ทำดี การกระทำของเราให้ถึงพร้อม มันก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้า วันนี้มีพรุ่งนี้มี ภพนี้มีภพหน้ามี ภพปัจจุบันเราพยายามดูให้ดี ว่าจิตใจของเราเป็นอย่างไร กายเนื้อแตกดับ ก็จะมีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมแต่เพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง