หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 37 วันที่ 13 พฤษภาคม 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 37 วันที่ 13 พฤษภาคม 2563
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 37 วันที่ 13 พฤษภาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 37
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2563

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องเพียงแค่ทำให้ต่อเนื่อง เพียงแค่สร้างขึ้นมาแล้วก็ทำให้ต่อเนื่อง ตรงนี้ก็พากันไม่ค่อยจะสนใจกัน ความปรารถนา ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากรู้ธรรม อยากเห็นธรรม อยากได้บุญตรงนี้มีกันทุกคน แต่ความอยาก ความเกิดนั่นแหละ คือความหลงอันละเอียดที่สุด

ถ้าเรามาสร้างความรู้ตัว แล้วก็รู้จักเอาสติความรู้ตัวของเราไปรู้เท่ารู้ทัน รู้ลักษณะของใจ ใจที่ปกติเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ไม่เกิดเป็นลักษณะอย่างนี้ อาการของใจเป็นลักษณะอย่างนี้ เราจะแก้ไขตัวเราอย่างไร นี่เราขาดตกบกพร่องอะไร เราก็จะได้รีบแก้ไข ฝักใฝ่สนใจ มีการปรับปรุงแก้ไขใจเราอยู่ตลอดเวลา

ใจของเราเกิดความกล้าหาญหรือไม่ ใจของเรามีความเสียสละ มีพรหมวิหาร มีความเมตตา มีความอ่อนน้อม อ่อนโยน มีความถ่อมตน หรือว่ามีทิฐิมานะอะไร เราก็รีบแก้ไข ปรับปรุงใจของเรา รู้จักพฤติกรรมของใจของเรา รีบแก้ไขเสียขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่ เป็นเรื่องของเราทุกคนไม่ใช่เรื่องของคนอื่น เป็นเรื่องของเราที่จะแก้ไขเรา

วิธีการแนวทางนั้น พระพุทธองค์ค้นพบมาตั้งนาน หลายร้อยหลายพันปี สัจธรรมก็ยังเป็นสัจธรรมอยู่เหมือนเดิม ความเกิดความดับของจิตวิญญาณก็ยังเกิดๆ ดับๆ ขันธ์ห้าก็ยังเกิดๆดับๆ ใจของเรานี่เป็นทาสของกิเลส เราก็มาขัดเกลากิเลส ให้ใจของเราเบาบาง เบาบางจากความโลภ ความโกรธ ความทะเยอทะยานอยาก

กายทำหน้าที่อย่างไร วิญญาณในกายทำหน้าที่อย่างไร เราจะบริหารชีวิตของเราอยู่กับสมมติอย่างไร จนกว่าจะหมดลมหายใจโดยที่ไม่ได้ไปยึดมั่นถือมั่น มองเห็นหนทางเดิน ก็พยายามเอาล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเรา ถ้าเราไม่แก้ไขเรา ไม่มีใครจะช่วยเหลือเราได้

เราช่วยเหลืออนุเคราะห์กันได้อยู่ในระดับของสมมติ ความเป็นอยู่ แต่ทางด้านจิตใจก็ต้องแก้ไขเอา วิธีการแนวทาง เรามีความเกียจคร้าน ละความเกียจคร้าน ไม่ใช่ว่าแบกความเกียจคร้านหนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ แบกความเกียจคร้าน แบกอัตตาตัวตนไปเป็นภาระของที่โน่นที่นี่ เป็นภาระของตัวเองก็หนักพอแล้ว เราก็จะเป็นภาระของคนอื่นอีก มันก็หนักเข้าไปอีกเรามาวางที่เรา แก้ไขที่เรา ปรับปรุงที่เรา

อยู่ด้วยกันหลายคน พันธะภาระก็มีมากขึ้น อันโน้นก็เยอะ อันนี้ก็เยอะ เราก็ต้องช่วยกันดูแลที่พักที่อาศัย ที่พักที่อาศัยของเราก็ดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องส้วมห้องน้ำ เราก็ช่วยกันดูแล ที่พักที่อาศัย ศาลาต่างๆ เราก็ให้ เราก็ได้รับความร่มรื่นร่มเย็น คนอื่นมาก็พลอยได้รับความร่มรื่นร่มเย็น ว่างๆ ก็ปัดไปดูแลความสะอาด หยักเย่อหยักไย่บางทีบางครั้งก็เต็มไปหมด

ห้องส้วมห้องน้ำบางทีก็ จะพูดกันตามตรง บางคนก็ขาดความรับผิดชอบ ไปถ่ายก็ไม่รู้จักล้าง มีไว้ให้ถ่ายให้ใช้ ไปถ่ายใส่ ไปทำความสกปรก ใครไปเห็นไปเจอแล้วก็ช่วยกันทำความสะอาดอันนั้นแหล่ะมันติดเป็นนิสัย นิสัยของใครมีอย่างไร ก็ส่อออกมาให้เห็น นี่มีความเกียจคร้านก็ส่อความเกียจคร้านออกมาให้เห็น ไม่มีความรับผิดชอบ ขอให้กูอยู่ดีมีความสุข ขอให้กูสะดวกสบาย คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างอย่างนั้นใช้การไม่ได้

มีตั้งแต่คนโง่เขลาเบาปัญญา ที่คิดอย่างนั้น คนฉลาดเขาเป็นผู้ให้ ผู้ความเสียสละ ผู้อนุเคราะห์ได้กำไรทางด้านจิตใจ การปล่อยการวางก็ได้เร็วได้ไว อาศัยการฝึกฝนตัวเรา ปีนั้นวันนั้นวันนี้เดือนนั้นเดือนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ จนกว่าประสบประการณ์จะเต็มเปี่ยม นี่ถ้าถึงวาระเวลาอยู่คนเดียวก็ต้องปล่อยวางได้เข้าถึงธรรมได้

นี่ถ้าการมีจิตใจวางพื้นฐานที่ดีแล้ว หรือถ้าเราวางพื้นฐานไม่ดี จะฝึกหัดปฏิบัติอย่างไรมันก็แค่ได้ปฏิบัติ การขัดเกลากิเลสไม่มี อยากจะได้ความบริสุทธิ์มันก็ไม่ได้ นี่ถ้าเราเป็นผู้ให้ ผู้เอาออกจิตใจของเราก็เบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีกิเลส จนกว่าจะละกิเลสหมด ดับความเกิดได้หมด ก็ต้องพยายามกัน ไม่หมดวันนี้ก็พรุ่งนี้เดือนนี้เดือนหน้า ไม่หมดจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้าวันนี้มี วันพรุ่งนี้มี ภพนี้มี ภพหน้ามี ตราบใดที่ใจยังเกิด เราพยายามหาใจของเราให้เจอ เราก็อบรมใจของเราให้ได้ ใช้ใจของเราให้ถึงความบริสุทธิ์ ละกิเลสให้ถึงความบริสุทธิ์

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง