หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 50 วันที่ 10 มิถุนายน 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 50 วันที่ 10 มิถุนายน 2563
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 50 วันที่ 10 มิถุนายน 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 50
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 10 มิถุนายน 2563

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเองให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยง เพียงแค่การเจริญสติ รู้จักทำความเข้าใจกับคำว่าสติระลึกรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน ตรงนี้ก็พยายามสร้าง พยายามทำให้มีให้เกิดขึ้นแล้วก็รู้จัก สำรวจใจ สำรวจกายของเรา

แต่ละวันเราขาดตกบกพร่องอะไร ตื่นขึ้นมาเรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ เรามีความรับผิดชอบ เรามีความเสียสละ รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเองรึเปล่า งานสมมติเราก็รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน (รู้จักเนี่ย) ไม่ใช่ว่า หนักไม่เอาเบาไม่สู้ มีแต่จะหลบจะหลีกอย่างนั้น ไปที่ไหนอย่างนั้นไปที่ไหนก็เอาตัวเองไม่รอด มีอะไรรู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจขวนขวายสร้างให้มี ให้เกิดขึ้น สมมติของเราก็จะอยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย รู้จักแก้ไข รู้จักปรับปรุงใจเป็นอย่างไร ภาระหน้าที่การงานของตัวเราเป็นอย่างไร เรามาอยู่ เราก็ยังอะไรที่จะให้เกิดประโยชน์กับสมมติ เราก็พยายามทำ

ความขยันหมั่นเพียรของเรามีเพียงพอหรือเปล่า ความรับผิดชอบ ความเสียสละ เพียงแค่ระดับของสมมติ ความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี ถ้าเรามัวตั้งแต่ความเกียจคร้าน ไม่รู้จักฝักใฝ่ ไม่รู้จักสนใจ ไปที่ไหนก็หนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ เราก็ต้องพยายามรีบแก้ไข

เราทำหน้าที่ของเราให้ดี ปรับปรุงสมมติ ความเป็นอยู่ของเราให้สมบูรณ์แบบ เราก็อยู่ดีมีความสุข คนอื่นเข้ามาก็อยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าจะไปผัดวันประกันพรุ่ง เพราะว่าอยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่าน มาจากใกล้จากไกล มาจากหลายทิศหลายทาง มาอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่มีความเสียสละ ไม่มีความอนุเคราะห์เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน มันก็อยู่ยากลำบาก ต่างคนก็ต่างจะขอให้กูอยู่ดีมีความสุข อย่างอื่นไม่สนใจ อย่างนั้นมันก็ใช้การไม่ได้ ก็ต้องพยายาม

วันนี้ญาติโยมผู้ชายที่มีกำลัง ที่มาอยู่วัดมาช่วยหลวงพ่อปลูกต้นไม้ เอาจอบเอาเสียมมาคนละอัน จะพาปลูกต้นไม้ต้นไทร กวนอู ที่เอามาเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งนำมาจากกาฬสินธุ์ จะได้มาปลูกให้เป็นป่า ให้ร่มรื่นร่มเย็น ปลูกแซมในป่า ปลูกทุกปี ต้นไหนตายก็ปลูกทดแทน ตั้งแต่สมัยก่อนมันไม่น่าอยู่ น่าอาศัย น่ารื่นรมย์ ก็ค่อยพัฒนามาเรื่อยๆ ทำสถานที่ของเราให้ร่มรื่นร่มเย็น มีโอกาสเราก็ช่วยกันทำ พวกเราจากไปรุ่นหลังก็จะได้สานต่อไม่ได้ลำบาก มีตั้งแต่อยากจะได้ความสงบ ความสุข ความร่มรื่นร่มเย็น การกระทำไม่มี มันก็ไม่ได้อะไร นี่เราปลูกทุกปี ทำทุกปี ดูแลทุกปี ไม่ว่าอยู่จุดไหน เราอยากจะได้ป่า เราก็ปลูกป่า

ไม่เหมือนกับสมัยก่อน สมัยก่อนตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า รุ่นตา รุ่นยาย ป่าไม้มันยังเยอะ ธรรมชาติยังเยอะ สถานที่ก็กว้างขวาง ทุกวันนี้จะหาป่าไม้ก็ยากแล้วหละ ถ้าไม่ปลูก ไม่สร้าง ไม่ทำขึ้นมา อยากจะอยู่กับธรรมชาติ อยากจะอยู่ มีต้นไม้มีความร่มรื่นร่มเย็น เราก็ปลูกขึ้นมา เราก็ปลูกขึ้น ปีแล้วปีเล่า เขาก็ให้ความร่มรื่นร่มเย็นกับเรา ถ้าเราไม่ปลูก ไม่ทำไม่สร้าง จะไปหาที่ไหนมันก็ยากแล้วแหละทุกวันนี้ ไม่เหมือนกับสมัยก่อน สมัยก่อนเดินเข้าป่าเข้าเขา ออกจากบ้านก็เข้าป่าเข้าเขากันแล้ว ทุกวันนี้มีตั้งแต่ทำลาย คนทำลาย

นี่เราต้องมาสร้างใหม่ ปลูกใหม่ ทำใหม่ มาปรุงแต่งธรรมชาติให้เป็นธรรมชาติ อยากจะได้ธรรมชาติ แต่การดูแล การปลูก การสร้างไม่มี มันก็ยากซะแล้วแหละ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นี่เราก็ต้องพยายามมาสร้าง มาช่วยกัน ช่วยกัน ช่วยกันปลูก ช่วยกันดูแลรักษา เราก็จะได้ธรรมชาติที่ร่มรื่น ใครเข้ามาก็มีแต่ความร่มรื่นร่มเย็น รุ่นๆ ต่อไปก็ยิ่งจะร่มรื่นร่มเย็นมากขึ้นกว่านี้อีก ต้นไม้เติบโตขึ้นมา กว่าจะได้มาเป็นป่า ได้ก็ต้องอาศัยความเพียร อาศัยกาลเวลาของรุ่นแต่ละรุ่นหลายรุ่น

พวกเรามาอยู่ก็ช่วยกัน อย่าไปเกียจคร้าน อย่าไปงอมืองอเท้า มาช่วยกันทำ (อย่าว่า) ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งเรานอนหลับ จนกระทั่งหมดลมหายใจ นั่นแหละ งานใหญ่ก็รออยู่ข้างหน้า งานที่จะ ทั้งแจกทานใหญ่ด้วย อีกประมาณสักเดือนหรือสองเดือนก็จะได้แจกทานใหญ่ ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างให้ลงตัวเราก็ต้องช่วยกัน ขยันหมั่นเพียร ทั้งภาระหน้าที่สมมติ ทั้งภาระหน้าที่การงาน ความเป็นอยู่ ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่ถ่ายที่เยี่ยว ต้องมีพร้อมมูล

ถ้าไม่มีสิ่งพวกนี้ ความดำรงชีวิตก็ลำบากทางสมมติ ในเมื่อเราทำ เราสร้างขึ้นมา เราก็อนุเคราะห์ความสะดวกสบายให้กับทุกคน อาหารตา อาหารกาย อาหารใจ การประพฤติ การปฏิบัติ การขัดเกลากิเลส กิเลสนี้ก็ต้องของใครของมันแต่สมมติเราอาศัยกันได้ ช่วยเหลือกันได้ในทางสมมติ แต่ทางกิเลสภายในเราต้องแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา แก้ไขให้กันไม่ได้

หลวงพ่อก็เพียงแค่บอกแค่ชี้วิธีการแนวทาง ถ้าพวกท่านไม่ไปทำ มันก็เหมือนเดิม ไม่เกิดประโยชน์ เราพยายามแก้ไขให้ได้ทั้งภายนอกทั้งภายใน ทั้งสมมติวิมุตติ แต่ละวันขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความละอายความกล้าหาญ ความกตัญญูกตเวทีของเรามีเต็มเปี่ยมหรือไม่ เราก็ต้องพยายามแก้ไขกันนะ มีอะไรก็ช่วยกัน

วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง