หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 47 วันที่ 6 มิถุนายน 2563
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 47 วันที่ 6 มิถุนายน 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 47
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 6 มิถุนายน 2563
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน ความต่อเนื่องความชัดเจนตรงนี้แหละ ที่พวกเรายังทำกันไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ ส่วนศรัทธา การทำบุญให้ทาน การสร้างบารมีในส่วนอื่นนั้น ทุกคนก็มีกันอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปอบรมใจ วิเคราะห์ใจ เห็นความเกิดความดับของใจ เห็นความเกิดความดับของความคิดของขันธ์ห้า ตรงนี้เรารู้ไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เพราะว่าขาดการฝึกสติที่ต่อเนื่อง เราอาจจะมีอยู่เป็นบางช่วงบางครั้งบางคราว อาจจะควบคุมใจได้เป็นบางเรื่อง
ส่วนมากก็ปล่อยเลยตามเลย ผิดก็รู้ ถูกก็รู้ ก็หลงอยู่ในความรู้อยู่ หลงเกิดนั่นแหละ ใจของเรายังเกิด ขันธ์ห้าก็ยังเกิด เขารวมกันไปทั้งก้อนอยู่ เราก็มองเห็นทั้งก้อน นั่นก็ร่างกายของเรา ใจก็ของเรา คิดก็ของเรา ก็เลยแยกแยะไม่ได้ว่าอะไรส่วนรูป อะไรส่วนนาม อะไรคือตัวใจที่แท้จริง ก็เลยหลงเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในคุณงามความดี
แต่ละวันใจเกิดสักกี่เที่ยว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ความคิดของเรานั่นแหละเกิดจากใจโดยตรง หรือเกิดจากอาการของขันธ์ห้า ความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด หรือเกิดจากส่วนสมอง ส่วนสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา พอทุกสิ่งทุกอย่างเขาแยกแยะกันอยู่ แต่เขาก็รวมกันทั้งก้อน
แต่การทำบุญให้ทาน การฝักใฝ่ การสนใจ ความเสียสละอาจจะมีอยู่ เราต้องพยายามคลายออกให้มันหมด ถึงไม่หมดก็พยายามคลายออก คลายออกทีละเล็กละน้อย แต่ละวันตื่นขึ้นมาความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความกล้าหาญ ความอาจหาญ การกระทำของเราให้ถึงพร้อม ประโยชน์สมมติ ประโยชน์วิมุตติ
เพียงแค่ประโยชน์สมมติเราก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มเปี่ยม ความเป็นอยู่สมมติของเราให้อยู่ดีมีความสุข รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา กว่าจะบรรลุถึงเป้าหมายได้ก็ต้องอาศัยความเพียร ความเพียรที่ต่อเนื่อง ความเห็นถูก เห็นถูกคือเห็นการแยกการคลายเข้าใจในจิตวิญญาณในกายของเรา ก็ต้องพยายามกัน ไม่เหลือวิสัยหรอก
แต่ละบุคคลก็แต่ละคนก็สร้างบุญมาไม่เหมือนกัน บางคนก็สร้างมามาก บางคนก็สร้างมาน้อยบางคนสมมติก็มีเต็มเปี่ยม บางคนสมมติก็ยังขาดตกบกพร่อง ก็ค่อยแก้ไขตัวเราไปเรื่อยๆ สักวันนึงก็คงจะเต็ม ไม่เต็มวันนี้ ก็ต้องเต็มวันพรุ่งนี้ ไม่เต็มพรุ่งนี้ เดือนนี้ เดือนหน้า ไม่เต็มจริงๆ สิ่งที่พวกเราทำนี่แหละ ก็จะเป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวไปต่อเอาไปภพหน้า เอาภพนี้ให้ดี ภพปัจจุบันนี้ให้ดี เอาวันนี้ให้ดี ดูขณะนี้ให้ดี ก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้าเอง
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน เอาเรื่องของเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าเราแก้ไขเราไม่ได้ จะอยู่ที่ไหนก็เหมือนเดิม สร้างความรู้รับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พยายามทำความเข้าใจให้ได้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 6 มิถุนายน 2563
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน ความต่อเนื่องความชัดเจนตรงนี้แหละ ที่พวกเรายังทำกันไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ ส่วนศรัทธา การทำบุญให้ทาน การสร้างบารมีในส่วนอื่นนั้น ทุกคนก็มีกันอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปอบรมใจ วิเคราะห์ใจ เห็นความเกิดความดับของใจ เห็นความเกิดความดับของความคิดของขันธ์ห้า ตรงนี้เรารู้ไม่ค่อยทันเท่าไหร่ เพราะว่าขาดการฝึกสติที่ต่อเนื่อง เราอาจจะมีอยู่เป็นบางช่วงบางครั้งบางคราว อาจจะควบคุมใจได้เป็นบางเรื่อง
ส่วนมากก็ปล่อยเลยตามเลย ผิดก็รู้ ถูกก็รู้ ก็หลงอยู่ในความรู้อยู่ หลงเกิดนั่นแหละ ใจของเรายังเกิด ขันธ์ห้าก็ยังเกิด เขารวมกันไปทั้งก้อนอยู่ เราก็มองเห็นทั้งก้อน นั่นก็ร่างกายของเรา ใจก็ของเรา คิดก็ของเรา ก็เลยแยกแยะไม่ได้ว่าอะไรส่วนรูป อะไรส่วนนาม อะไรคือตัวใจที่แท้จริง ก็เลยหลงเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในคุณงามความดี
แต่ละวันใจเกิดสักกี่เที่ยว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ความคิดของเรานั่นแหละเกิดจากใจโดยตรง หรือเกิดจากอาการของขันธ์ห้า ความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด หรือเกิดจากส่วนสมอง ส่วนสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา พอทุกสิ่งทุกอย่างเขาแยกแยะกันอยู่ แต่เขาก็รวมกันทั้งก้อน
แต่การทำบุญให้ทาน การฝักใฝ่ การสนใจ ความเสียสละอาจจะมีอยู่ เราต้องพยายามคลายออกให้มันหมด ถึงไม่หมดก็พยายามคลายออก คลายออกทีละเล็กละน้อย แต่ละวันตื่นขึ้นมาความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความกล้าหาญ ความอาจหาญ การกระทำของเราให้ถึงพร้อม ประโยชน์สมมติ ประโยชน์วิมุตติ
เพียงแค่ประโยชน์สมมติเราก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มเปี่ยม ความเป็นอยู่สมมติของเราให้อยู่ดีมีความสุข รู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา กว่าจะบรรลุถึงเป้าหมายได้ก็ต้องอาศัยความเพียร ความเพียรที่ต่อเนื่อง ความเห็นถูก เห็นถูกคือเห็นการแยกการคลายเข้าใจในจิตวิญญาณในกายของเรา ก็ต้องพยายามกัน ไม่เหลือวิสัยหรอก
แต่ละบุคคลก็แต่ละคนก็สร้างบุญมาไม่เหมือนกัน บางคนก็สร้างมามาก บางคนก็สร้างมาน้อยบางคนสมมติก็มีเต็มเปี่ยม บางคนสมมติก็ยังขาดตกบกพร่อง ก็ค่อยแก้ไขตัวเราไปเรื่อยๆ สักวันนึงก็คงจะเต็ม ไม่เต็มวันนี้ ก็ต้องเต็มวันพรุ่งนี้ ไม่เต็มพรุ่งนี้ เดือนนี้ เดือนหน้า ไม่เต็มจริงๆ สิ่งที่พวกเราทำนี่แหละ ก็จะเป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวไปต่อเอาไปภพหน้า เอาภพนี้ให้ดี ภพปัจจุบันนี้ให้ดี เอาวันนี้ให้ดี ดูขณะนี้ให้ดี ก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้าเอง
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน เอาเรื่องของเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าเราแก้ไขเราไม่ได้ จะอยู่ที่ไหนก็เหมือนเดิม สร้างความรู้รับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พยายามทำความเข้าใจให้ได้ทุกอิริยาบถ