หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 30 วันที่ 4 พฤษภาคม 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 30 วันที่ 4 พฤษภาคม 2563
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 30 วันที่ 4 พฤษภาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 30
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2563

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พวกท่านได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดแล้วหรือยัง ความเชื่อมโยงจาก 1 ครั้ง 2 ครั้งเป็นนาที 2 นาที เป็น 5 นาที ตรงนี้ก็ยากแสนยาก ก็เลยไม่รู้เรื่องชีวิตของเรา ก็เลยปล่อยไปตามกรรม ปล่อยไปด้วยความหลง อาจจะหลงอยู่ในการทำบุญ การให้ทาน การสร้างคุณงามความดี แต่การเกิดของใจนี่คือความหลง ยังหลงอยู่ การเกิดของขันธ์ห้า กับใจก็ยังรวมกันอยู่

นอกจากบุคคลที่มีความเพียรมีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ มีความเสียสละเป็นเลิศ ถึงจะเข้าถึงตรงทรัพย์ตรงนี้ได้ ถึงเราเข้าไม่ถึงได้เด็ดขาด ก็ขอให้มีสติรู้กายของเราบ้างก็ยังดี รู้กายรู้ใจของเราบ้าง ถึงจะรู้ไม่ได้ตลอดก็ให้รู้จักวิธีการรู้จักควบคุม รู้จักอบรมไปในทางกุศล อะไรที่เป็นอกุศลเราก็พยายามละเสีย พยายามทำเอา สิ่งพวกนี้จะทำให้กันไม่ได้เราต้องทำเอา แก้ไขตัวเราเอา อยู่คนเดียวเราก็รู้เรา รู้ใจ รู้กาย รู้การกระทำของเรา อยู่หลายคนเราก็ดูเราแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา เป็นเรื่องของเราไม่ใช่เรื่องของคนอื่น

ในเมื่อเรามาอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน ก็ต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ถ้าต่างคนต่างมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความเสียสละ มันก็ไม่ได้ลำบาก ไม่ต้องไปพูดมาก

ถ้าต่างคนก็ต่างเห็นแก่ตัว เห็นแก่ความเกียจคร้าน อยู่คนเดียวมันก็มีปัญหา อยู่หลายคนก็ยิ่งมีปัญหา ถ้าเราไม่รู้จักแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี พวกเรามาอยู่ด้วยกันก็เหมือนกับครอบครัวใหญ่ มีอะไรผิดพลาดก็แก้ไข มีอะไรก็ให้ช่วยกัน ไม่ใช่จะเอาตั้งแต่งอมืองอเท้า

ทำความเข้าใจทั้งสมมติทั้งวิมุตติ การฝึกหัดปฏิบัติเราก็ต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องทั้งสมมติ อะไรขาดตกบกพร่องเราก็ทำหน้าที่ของเรา เพราะว่ากายของเราก็ยังอาศัยปัจจัยสี่ อาศัยสมมติอยู่ เราจะไปทิ้งสมมติ เมื่อหมดลมหายใจนั่นแหละเราถึงจะได้ทิ้งกายของเราจริงๆ แต่เราให้รู้ด้วยปัญญา ละด้วยปัญญา แก้ไขด้วยปัญญา สักวันหนึ่งเราก็คงจะเข้าถึงจุดหมายปลายทางได้ก็ต้องพยายามเอานะ

ความขยันหมั่นเพียรติดตามตัวผู้ใด ผู้นั้นก็จะไปถึงฝั่งได้เร็วได้ไว ถ้าความเกียจคร้านครอบงำก็เหมือนกับดินพอกหางหมู พอกพูนไปเรื่อยๆ หมักหมมไปเรื่อยๆ ครั้งหนึ่ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง มันก็เป็นที่ตัวของเรานั่นแหละ เป็นที่ใจของเรานั่นแหละ หลายเรื่องกว่าจะค่อยแก้ไข

เพียงแค่ระดับสมมติเราก็ค่อยแก้ไขให้ได้ จนกระทั่งถึงระดับวิมุตติเราก็ค่อยขัดเกลาเอาออกไปเรื่อยๆ มันไม่หลุดวันนี้ก็ต้องหลุดวันพรุ่งนี้ ไม่หลุดวันพรุ่งนี้ก็เดือนนี้เดือนหน้า

สิ่งที่หลวงพ่อพูดมาให้ เล่าให้ฟังทุกวันๆนี่ต้องเป็นบุคคลที่มีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ มีความเสียสละเป็นเลิศ ดับความเกิดให้ได้ ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน ถึงเราดับไม่ได้เด็ดขาดก็ให้รอบรู้ในการดำเนินชีวิตของเรา ว่าอะไรควรเดินอะไรควรละ อะไรควรเจริญ

ช่วยกันรดต้นไม้ ดูแลความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกจุด ทุกซอกทุกมุม ตั้งแต่ถนนหนทางเข้ามาถึงก้นครัวนั่นแหละ ช่วยกันดูแล ไม่ใช่ว่าจะไปปล่อยปละละเลย ไม่ใช่หน้าที่ของฉันไม่ใช่หน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ของทุกคนที่มาอาศัยอยู่ตรงนี้ เรามาอาศัยอยู่เราก็... ทำอย่างไรสถานที่ของเราถึงจะน่าอยู่น่าอาศัย อีกสักหน่อยก็จะได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์

ขณะที่เรายังอยู่ร่วมกันอยู่นี่แหล่ะ มีอะไรเราพอช่วยกันได้เราก็ช่วย ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย เอาตั้งแต่ความเห็นแก่ตัว เอาตั้งแต่ความสะดวกสบาย เอาตั้งแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่มีความเจริญ มีแต่ความเสื่อม

ถ้าเรามีความขยัน ความขยันนั่นแหละจะเป็นทรัพย์ เป็นตบะบารมีให้เราได้รู้จัก วิเคราะห์พิจารณา ขยันสมมติเราก็ขยัน สมมติเราก็ไม่ได้ลำบาก ทางด้านวิมุตติเราก็ขยันวิเคราะห์ หมั่นสังเกต ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล อะไรควรละอะไรควรเจริญ อะไรควรสร้างขึ้นมา อะไรที่เป็นกุศลเราก็ควรสร้างขึ้นมา อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ควรสร้างขึ้นมา

หลวงพ่อก็ได้แต่แค่พูดทุกวันๆๆ ถ้าพวกท่านไม่น้อมนำไปวิเคราะห์พิจารณามันก็ไม่เกิดประโยชน์ ถ้าน้อมนำไปพิจารณาแล้ว การกระทำให้ถึงพร้อม ทั้งกลางวันทั้งกลางคืน ไม่ปล่อยเวลาทิ้ง อานิสงส์มันก็มากมาย สมมติมันก็เกิดประโยชน์มากมาย วิมุตติมันก็จะหลุดพ้นได้เร็วได้ไว

เพียงแค่ความขยันไม่มี จะไปหวังความหลุดพ้นมันก็ยาก ก็มีตั้งแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ขยันระดับสมมติ มันก็ขี้เกียจ ขี้เกียจระดับสมมติ มันก็จะไปส่งผลถึงความลำบากระดับของสมมติ เอาให้รอบทั้งภายนอกทั้งภายใน ก็ต้องพยายามกันนะ

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างไปสานต่อ ทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง