ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 65 วันที่ 1 สิงหาคม 2557
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 65 วันที่ 1 สิงหาคม 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 4 (ลำดับที่ 61-80)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 65
วันที่ 1 สิงหาคม 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเองให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย อย่าเล่นกัน หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสร้างความรู้ตัวตรงนี้ มีตั้งแต่ไปนึกเอาไปคิดเอา แล้วก็ดิ้นรนแสวงหา ก็เลยยิ่งมีตั้งแต่เอาความทุกข์มาทับถมดวงใจของเรา ทุกคนก็มีบุญที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้ฝึกหัดปฏิบัติ แต่เราอาจจะไม่เข้าใจ ตัวกาลตัวเวลา จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่ได้รับการศึกษา ได้รับการเล่าเรียน มีการพัฒนามาเรื่อยๆ รู้จักผิดถูกชั่วดี นั่นแหละหลักของการปฏิบัติอยู่ในระดับของสมมติ
แต่ในระดับของวิมุตติ เราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ รู้เหตุรู้ผล ชี้เหตุชี้ผล ให้ใจของเราคลายออกจากความหลง ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ รอบรู้ในกองสังขารของตัวเรา รอบรู้ในวิญญาณของเรา ถ้าเราฝักใฝ่สนใจ แนวทางนั้นมีมานาน ก็ขอให้ทุกคนจงพยายามเอา อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีโอกาส ว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลา อย่าไปงอมืองอเท้า พยายามสร้างความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้น ไม่ว่างานสมมติ งานวิมุตติ งานชำระสะสางกิเลส งานภายในงานภายนอก อย่าไปเห็นแก่ตัว อย่าไปเห็นแก่กินแก่นอน อย่าไปเห็นแก่ความเกียจคร้าน อย่าให้กิเลสเล่นงานเรา เราต้องพยายามใช้สติปัญญาเข้าไปวิเคราะห์ชี้เหตุชี้ผล ให้เห็นความเป็นจริงในชีวิต รู้จักดำเนินชีวิต ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสุข
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ ทำบ่อยๆ ยิ่งไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเพียรให้เป็นทวีคูณ แนวทางนั้นมี ครูบาอาจารย์นั้นมี ถ้าเราเข้าใจ สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละ เป็นครูบาอาจารย์คอยตรวจสอบใจของเราอยู่ตลอดเวลา รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสต่างๆ ก็จะเป็นอาจารย์สอนธรรมให้เรา ลึกลงไป ความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมเขาผุดขึ้นมาได้อย่างไร ตัวใจเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นลักษณะอย่างไร ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้าเป็นลักษณะอย่างไร ใจไม่เกิดเป็นอย่างไร กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร อยู่ในกายของเราหมด อยู่ในใจของเราหมด พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องชีวิตของเรา ไม่ได้สอนเรื่องอื่น สอนเรื่องชีวิตของเรา ก็ต้องพยายามนะ
เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจต่อกันเอานะ
วันที่ 1 สิงหาคม 2557
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเองให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย อย่าเล่นกัน หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ขาดการสร้างความรู้ตัวตรงนี้ มีตั้งแต่ไปนึกเอาไปคิดเอา แล้วก็ดิ้นรนแสวงหา ก็เลยยิ่งมีตั้งแต่เอาความทุกข์มาทับถมดวงใจของเรา ทุกคนก็มีบุญที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้ฝึกหัดปฏิบัติ แต่เราอาจจะไม่เข้าใจ ตัวกาลตัวเวลา จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่ได้รับการศึกษา ได้รับการเล่าเรียน มีการพัฒนามาเรื่อยๆ รู้จักผิดถูกชั่วดี นั่นแหละหลักของการปฏิบัติอยู่ในระดับของสมมติ
แต่ในระดับของวิมุตติ เราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ รู้เหตุรู้ผล ชี้เหตุชี้ผล ให้ใจของเราคลายออกจากความหลง ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ รอบรู้ในกองสังขารของตัวเรา รอบรู้ในวิญญาณของเรา ถ้าเราฝักใฝ่สนใจ แนวทางนั้นมีมานาน ก็ขอให้ทุกคนจงพยายามเอา อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีโอกาส ว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลา อย่าไปงอมืองอเท้า พยายามสร้างความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้น ไม่ว่างานสมมติ งานวิมุตติ งานชำระสะสางกิเลส งานภายในงานภายนอก อย่าไปเห็นแก่ตัว อย่าไปเห็นแก่กินแก่นอน อย่าไปเห็นแก่ความเกียจคร้าน อย่าให้กิเลสเล่นงานเรา เราต้องพยายามใช้สติปัญญาเข้าไปวิเคราะห์ชี้เหตุชี้ผล ให้เห็นความเป็นจริงในชีวิต รู้จักดำเนินชีวิต ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสุข
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ ทำบ่อยๆ ยิ่งไม่เข้าใจเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเพียรให้เป็นทวีคูณ แนวทางนั้นมี ครูบาอาจารย์นั้นมี ถ้าเราเข้าใจ สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละ เป็นครูบาอาจารย์คอยตรวจสอบใจของเราอยู่ตลอดเวลา รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสต่างๆ ก็จะเป็นอาจารย์สอนธรรมให้เรา ลึกลงไป ความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมเขาผุดขึ้นมาได้อย่างไร ตัวใจเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นลักษณะอย่างไร ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้าเป็นลักษณะอย่างไร ใจไม่เกิดเป็นอย่างไร กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร อยู่ในกายของเราหมด อยู่ในใจของเราหมด พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องชีวิตของเรา ไม่ได้สอนเรื่องอื่น สอนเรื่องชีวิตของเรา ก็ต้องพยายามนะ
เอาล่ะวันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจต่อกันเอานะ