ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 55 วันที่ 15 กรกฎาคม 2557
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 55 วันที่ 15 กรกฎาคม 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 3 (ลำดับที่ 41-60)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 55
วันที่ 15 กรกฎาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก หยุดภาระหน้าที่หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชินตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ อันนี้เป็นการย้ำ เป็นการเตือน
การเจริญสติที่ต่อเนื่องเป็นอย่างนี้ การสร้างความรู้ตัว การวิเคราะห์ใจของเราก็จะตามมา ตอนนี้เรามาสร้างผู้รู้ มาสร้างปัญญาให้มีให้เกิดขึ้น และก็ให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะเอาไปอบรมใจ ไปควบคุมใจ ไปสังเกตใจ จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม อันนั้นจะตามมาเรื่อยๆ ถ้าเรามีกำลังสติพอ เราก็จะเห็น เห็นการแยกการคลาย ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ภาษาธรรมะเรียกว่า ‘วิปัสสนา’ เพียงแค่เริ่มต้น
การขัดเกลา การละกิเลส การทำความเข้าใจกิเลสหยาบกิเลสละเอียด ทำความเข้าใจกับสมมติ-วิมุตติ ทำความเข้าใจกับโลกธรรม รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในวิญญาณในกายของตัวเรา รอบรู้ในโลกธรรม และก็บริหารให้ถูกต้อง เราต้องพยายามเก็บเล็กผสมน้อย จากน้อยๆ ให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ต้นเหตุ แล้วตามดู ปัญญาก็จะมากขึ้นๆ ก็จะกลายเป็นมหาสติ มหาปัญญา เอาไปใช้กับชีวิต
แต่เวลานี้กำลังสติปัญญาของเรามีไม่เพียงพอ แต่ศรัทธานี้มีอยู่ การทำบุญให้ทานสร้างบารมีมีอยู่ แต่เราต้องรู้ทุกเรื่อง รู้การเกิดรู้การดับ ต้องแจงให้ออก ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้ ใจถึงจะยอมวางได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะวางได้ง่ายๆ ก็ต้องพยายามนะ ทั้งสมมติภายนอก วิมุตติภายใน ต้องแก้ไขกันไป
อยู่คนเดียวเราก็รู้เรา อยู่หลายคนเราก็รู้เรา ตื่นขึ้นมาเราก็รีบรู้ใจ รีบรู้ภาระหน้าที่การงานของเรา อะไรควรทำ อะไรควรละ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ยังสมมติของเราให้มีความสุข
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันนะ
วันที่ 15 กรกฎาคม 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่อง ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก หยุดภาระหน้าที่หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชินตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ อันนี้เป็นการย้ำ เป็นการเตือน
การเจริญสติที่ต่อเนื่องเป็นอย่างนี้ การสร้างความรู้ตัว การวิเคราะห์ใจของเราก็จะตามมา ตอนนี้เรามาสร้างผู้รู้ มาสร้างปัญญาให้มีให้เกิดขึ้น และก็ให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะเอาไปอบรมใจ ไปควบคุมใจ ไปสังเกตใจ จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม อันนั้นจะตามมาเรื่อยๆ ถ้าเรามีกำลังสติพอ เราก็จะเห็น เห็นการแยกการคลาย ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ภาษาธรรมะเรียกว่า ‘วิปัสสนา’ เพียงแค่เริ่มต้น
การขัดเกลา การละกิเลส การทำความเข้าใจกิเลสหยาบกิเลสละเอียด ทำความเข้าใจกับสมมติ-วิมุตติ ทำความเข้าใจกับโลกธรรม รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในวิญญาณในกายของตัวเรา รอบรู้ในโลกธรรม และก็บริหารให้ถูกต้อง เราต้องพยายามเก็บเล็กผสมน้อย จากน้อยๆ ให้เห็นชัดเจนตั้งแต่ต้นเหตุ แล้วตามดู ปัญญาก็จะมากขึ้นๆ ก็จะกลายเป็นมหาสติ มหาปัญญา เอาไปใช้กับชีวิต
แต่เวลานี้กำลังสติปัญญาของเรามีไม่เพียงพอ แต่ศรัทธานี้มีอยู่ การทำบุญให้ทานสร้างบารมีมีอยู่ แต่เราต้องรู้ทุกเรื่อง รู้การเกิดรู้การดับ ต้องแจงให้ออก ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้ ใจถึงจะยอมวางได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะวางได้ง่ายๆ ก็ต้องพยายามนะ ทั้งสมมติภายนอก วิมุตติภายใน ต้องแก้ไขกันไป
อยู่คนเดียวเราก็รู้เรา อยู่หลายคนเราก็รู้เรา ตื่นขึ้นมาเราก็รีบรู้ใจ รีบรู้ภาระหน้าที่การงานของเรา อะไรควรทำ อะไรควรละ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ยังสมมติของเราให้มีความสุข
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจต่อกันนะ