ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 36 วันที่ 5 พฤษภาคม 2557

ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 36 วันที่ 5 พฤษภาคม 2557
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 36 วันที่ 5 พฤษภาคม 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 2 (ลำดับที่ 21-40)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 36
วันที่ 5 พฤษภาคม 2557


ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน แล้วก็ให้ต่อเนื่องกันสักพักก็ยังดี นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ เรื่องทุกเรื่องวางเอาไว้เสียก่อน ภาระหน้าที่การงาน เราก็ได้วางมาแล้ว ทีนี้เราก็มาหยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ที่เกิดจากใจของเรา


เพียงแค่หยุดระงับ เพียงแค่ดับ เพียงแค่สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ พวกเราก็ยังขาดการฝึกฝนตรงนี้มากเลยทีเดียว ทั้งที่ใจก็เป็นบุญ ใจปรารถนาอยากจะรู้ธรรม อยากจะเห็นธรรม ความปรารถนาความอยากนั้นแหละ เขาปิดกั้นตัวเขาเองเอาไว้หมด สำหรับตัววิญญาณ


เพียงแค่การควบคุมวิญญาณ พวกเราก็อาจจะควบคุมได้เป็นบางครั้งบางคราว เขายังเกิดอยู่เขายังหลงอยู่เขายังมาสร้างขันธ์ห้า ซึ่งมีกายเนื้อมีหนังเข้ามาห่อหุ้มซึ่งเป็นส่วนรูป ส่วนนามอีก เขายังมาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเขาเอาไว้อยู่ เขาก็มีเหตุมีผลของเขาเหมือนกัน มาปิดกั้นตัวเขาเอาไว้หมด


เราต้องมาเจริญสติ ลักษณะของสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน เราต้องมาสร้าง สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ เวลาหายใจเข้าหายใจออก อันนี้ก็เป็นแค่เพียงให้มีความรู้กายเฉยๆ ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่อง ลึกลงไป เราก็รู้ลักษณะของใจ


ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างไร การละกิเลสเป็นอย่างไร การทำความเข้าใจชี้เหตุชี้ผลให้ใจของเราคลายออก ยอมรับความเป็นจริง มองเห็นเหตุเห็นผลได้ รู้จักปล่อยรู้จักวางได้นั่นแหละ ถึงจะเข้าใจในหลักคำสอนของพระพุทธองค์


ไม่ใช่ว่าปฏิบัติแบบไม่รู้ ปฏิบัติแบบหลงๆ ลักษณะของสติรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน เป็นลักษณะอย่างไร ความรู้ตัวไม่ต่อเนื่องเราก็ต้องสร้างขึ้นมา ให้รู้ทุกอิริยาบถ จนเอาไปใช้ เอาไปอบรมใจได้ เอาไปละกิเลสที่ใจได้ จนรู้ด้วยเข้าถึงด้วย หมดความสงสัยได้ด้วย ท่านถึงบอกให้เชื่อ


เพราะว่าพระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องชีวิต สอนเรื่องความเป็นจริง ซึ่งมีอยู่ในกายของเราหมดทุกคน บางคนก็มีมากบางคนก็มีน้อยสำหรับกิเลสนะ แต่อาการสามสิบสองมีครบถ้วนเท่ากันหมด ทวารทั้งหกก็มีครบถ้วนเท่ากันหมด ทำหน้าที่เหมือนกันหมด แต่กิเลสนั้นจะมีมากมีน้อย ทิฏฐิความเห็นมากเห็นน้อย เราต้องวางเอาไว้เสียก่อน ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ให้ถึงจุดหมายปลายทาง ท่านถึงบอกให้เชื่อ


ค่อยทำ ค่อยเป็น พลั้งเผลอเริ่มใหม่ หมั่นสนใจอยู่บ่อย ๆ ส่วนมากจะไม่ค่อยสนใจ จะไปปล่อยปละละเลย อยากจะเอาแค่การทำบุญกับการให้ทานแค่นั้น ไม่ดำเนินละกิเลสให้มันหมดจดออกจากจิตจากใจของตัวเอง ให้ได้ทั้งความสุข ความว่าง ความสะอาด ความบริสุทธิ์ เป็นความสุขที่ถาวร ความสุขภายนอกเราก็ยังได้อยู่เหมือนเดิม ทำหน้าที่อยู่เหมือนเดิม จนกว่าจะหมดอายุขัย จนกว่าธาตุขันธ์ของเราจะแตกจะดับ


ก็ต้องพยายามกัน สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักพักนะ


พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา หลวงพ่อเพียงแค่เล่าให้ฟัง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง