หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 097
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 097
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง วางความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ วางภาระหน้าที่การงานเอาไว้ทุกอย่าง นั่งตามสบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราขาดการสังเกตกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา อยากจะเอาตั้งแต่ธรรม อยากจะได้ตั้งแต่ธรรม อยากจะได้ตั้งแต่บ่นความอยากนั่นแหละปิดกั้นเอาไว้หมด เรามาสร้างความรู้ตัว ให้รู้เท่าทัน รู้ไม่ทันต้นเหตุ เราก็รู้จักควบคุม รู้จักระงับยับยั้ง
ใจสงบนั่นแหละคือความปกติ ความปกตินั่นแหละคือศีล ความปกตินั่นแหละคือสมาธิ ถ้าใจของเราคลายออกจากความคิด คลายออกจากอารมณ์ซึ่งเป็นนามกัน ซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกันนั่นแหละ เค้าเรียกว่า ‘วิปัสสนา’ ตามทำความเข้าใจสติของเรา ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อจะตามทำความเข้าใจ เราจะเข้าใจในธาตุขันธ์ของเรา ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง อะไรคือ ‘อัตตา’ อะไรคือ ‘อนัตตา’ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตาในขันธ์ห้าเป็นอย่างไร ใจเกิดกิเลส เราก็รู้จักดับ รู้จักวิเคราะห์ พิจารณาหาเหตุหาผล
แต่เวลานี้เรามีตั้งแต่ศรัทธา แต่ขาดกำลังสติปัญญาที่สร้างขึ้นมาไม่ต่อเนื่อง ก็เลยไปสร้างแต่สมมติให้ยุ่งเหยิงปิดทับดวงใจของเราเอาไว้ ตั้งแต่ภายในส่วนนามธรรม ก็ควบคุมดวงใจของเราเอาไว้หมด แม้แต่ตัวใจ ก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้หมด เพียงแค่การเกิดนั้นเค้าก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้ เราต้องคลายความหลง ดับความเกิด วิเคราะห์พิจารณาชำระสะสางกิเลสออกจากใจของเราทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ทุกลมหายใจเข้าออก นอกจากเราจะนอนหลับ นั่นแหละเราก็จะเข้าใจในภาษาธรรมภาษาโลก มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติภายใน ธรรมชาติภายนอก
แต่เวลานี้ธรรมชาติภายในถูกปกปิดไว้ เอาไว้ด้วยความหลง ด้วยอำนาจของกิเลสต่างๆ ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าชี แต่ละวันตื่นขึ้นมาก็รีบสำรวจกาย สำรวจใจของเรา สร้างความขยันหมั่นเพียรด้วยสติด้วยปัญญา เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีความรับผิดชอบที่เพียงพอหรือไม่ เรามีความเสียสละที่เพียงพอหรือไม่ เรามีความเห็นแก่ตัว ใจของเรามีอคติ มีมลทิน หรือว่ามีนิวรณธรรมเข้าครอบงำ เราต้องหมั่น สังเกต หมั่นพร่ำสอนใจของเราตลอดเวลา เราจะไปวิ่งหาที่ไหน ถ้าไม่จบลงที่ใจของเรา อันนี้เรื่องของใจ
เรื่องของกาย สมมติวิมุตติก็อยู่ด้วยกัน เราต้องพยายามช่วยกันทุกอย่าง ยิ่งพระยิ่งชีเข้ามาบวชอยู่ด้วยกันเยอะๆ เพื่อให้มีความเสียสละ มีความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั่นแหละคือข้อวัตร ระเบียบจากภายในให้จบแล้วก็ล้นออกสู่ภายนอก ล้นออกไปสู่สังคม สู่หมู่สู่คณะ ความเป็นระเบียบ ความสวยความงาม ความสะอาด
ไปที่ไหนเราพยายามช่วยกันดูแลรักษา เศษขยะ เราก็อย่าไปทิ้งให้ผิดที่ผิดทาง ทิ้งให้ถูกที่ถูกทาง เรื่องขยะนี้หนัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็หนัก ถ้าไม่รู้จักจัดการแก้ไขปรับปรุง แล้วก็หนัก หนักตัวเรา หนักคนอื่น หนักสถานที่ ต่างคนต่างทิ้งๆ เอาไปเอามาก็เลยสกปรกไปหมด ชอบรักสะอาด แต่ชอบสกปรก เราต้องพยายามกำจัดออกไป ไม่ว่าที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ห้องส้วมห้องน้ำ
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เอื้ออำนวยให้สมมติ ความเป็นอยู่สมมติก็สบาย ประพฤติปฏิบัติขัดเกลา ตัวเองก็ไม่ได้ลำบาก จะเอาตั้งแต่ธรรม แต่ความเสียสละไม่มี การกระทำไม่มี มีแต่ความเกียจคร้าน จะไปฝึกที่ไหนมันก็ได้แต่ความเกียจคร้านนั่นแหละ ไม่มีความรับผิดชอบ คนมีสติมีปัญญาฟังแล้ว การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การแก้ไขตัวเราเป็นอย่างนี้ แม้แต่ภายนอกสมมติต่างๆ อะไรไม่ดี เราก็รีบช่วยกันทำ มันก็น่าอยู่ น่าอาศัย
หลวงพ่อก็พาทำ พาทุกคนทำ หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนนั่นแหละ ที่ช่วยกันทำความสะอาดที่โน้นบ้างที่นี่บ้าง ทุกอย่างภายในบริเวณ ทุกตารางนิ้ว อย่าให้พลาดคลาดสายตาของสติปัญญาของเราไปได้ ถ้าไม่ดี เราก็ช่วยกันทำให้มันดีเสีย มันก็จะดี เราก็มีความสุขคนอื่นมาก็มีความสุข ได้อานิสงส์แห่งบุญเพิ่มเติมขึ้นไป ใครมาแล้วก็มีความสุข ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงเข้ามาก็มีความสุข จนกระทั่งผู้เฒ่าผู้แก่
พระเราก็ช่วยกัน ช่วยกันดูแลทำความสะอาด ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ห้องส้วมห้องน้ำ ศาลาวิหารพระหยกก็คงจะทำความสะอาด ก็เกือบคงจะเสร็จแล้วแหละ วันนี้ก็พากันช่วยกันทำ ทำความสะอาดหอฉันของเรานะ ทั้งหอฉัน ทั้งศาลารวมญาติพักศพนั่นแหละ หยากไย่ก็เต็มไปหมด เราก็ช่วยกันทำ วันละเล็กวันละน้อยเราก็เสร็จ
ใครว่างๆ ก็มาช่วยท่านอาจารย์นิยมท่านปั้นพญานาค มาสร้างอานิสงส์ฝากเอาไว้ มาเป็นลูกมือให้ท่าน ท่านจะได้พาทำ จะได้ให้เสร็จ ได้มีความสวยความงาม ใครไปใครมาแล้วก็มีความสุข เราก็มีความสุข อย่าไปงอมืองอเท้า อะไรพอทำได้ เราก็ช่วยกันทำ พวกชีก็เหมือนกัน พวกชีพวกญาติโยมที่มา อยากจะช่วยการช่วยงาน ก็พากันช่วยกันตกแต่งต้นไม้ ตกแต่งต้นไม้รากไม้ ในวัดนี้จะแต่งให้หมดนั่นแหละ ประดับประดาด้วยเสาไฟให้เป็นต้นไม้ ใครเข้ามาแล้วก็มีความสุข ให้ทำด้วยจินตนาการของทุกคนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ใส่ลงไปด้วยชีวิต ด้วยจิตวิญญาณที่เกิดจากการเจริญภาวนา ก็จะมีแต่ความสุข ส่วน
สวนมะลิวัลย์ก็อย่าลืมพากันไปรดต้นไม้ให้หน่อย รดทุกวัน วันละเล็กวันละน้อย ปีหน้าเค้าก็จะเลี้ยงตัวของเค้าได้เอง เราไม่อยากจะได้ความร่มรื่น เราก็จะได้ เพราะการกระทำของเรามี การดูแลของเรามี การให้น้ำให้ปุ๋ยของเรามี สักวันนึงก็จะเป็นแหล่งบุญใหญ่มากมายมหาศาล นี่แหละบุญจากกองบุญกองน้อยๆ ที่พวกเราได้มาช่วยกัน ญาติโยมที่โน่นที่นี่ก็มาช่วยกัน บางคนบางท่านมาไม่ได้ ก็ส่งจตุปัจจัยมาช่วย บางคนก็ส่งเงินมาช่วย เอาเงินน้อมนำมาถวายให้ มาช่วยมาทำ ก็ขอขอบคุณมากมากเลยทีเดียว ขอบคุณเทวดาที่เดินดิน ขอบคุณเทวดาที่ไม่มีกายเนื้อ มาเถอะมาช่วยกันทำ
หลวงพ่อก็อาศัยอำนาจแห่งบุญ มาด้วยแรงบุญ ทำด้วยแรงบุญ ใครมาทันก็ทัน ไม่ทันก็เสร็จก่อน ไม่ได้ลำบาก เทวดาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ส่วนการชำระสะสางกิเลส ก็ต้องแก้ไข้ตัวเราเอง จะไปแก้ไขให้กันไม่ได้เลย เพียงแค่ชี้แนะบอกแนวทาง พวกท่านไม่ไปทำ พวกท่านก็ไม่เข้าใจ ก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง แก้ไขตัวเอง ส่วนสมมติภายนอก เราก็ช่วยกัน มีอะไรเราก็ช่วยกัน คอยบอก คอยกล่าว คอยเตือน บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น บอกตัวเองไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็นแล้ว ก็ไปอยู่ที่ไหนก็หนัก หนักหมู่หนักคณะ หนักเพื่อนหนักฝูง หนักครูบาอาจารย์ มีอะไรเราก็ช่วยกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อนะ ทำความเข้าใจกันเอา
ใจสงบนั่นแหละคือความปกติ ความปกตินั่นแหละคือศีล ความปกตินั่นแหละคือสมาธิ ถ้าใจของเราคลายออกจากความคิด คลายออกจากอารมณ์ซึ่งเป็นนามกัน ซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกันนั่นแหละ เค้าเรียกว่า ‘วิปัสสนา’ ตามทำความเข้าใจสติของเรา ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อจะตามทำความเข้าใจ เราจะเข้าใจในธาตุขันธ์ของเรา ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง อะไรคือ ‘อัตตา’ อะไรคือ ‘อนัตตา’ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตาในขันธ์ห้าเป็นอย่างไร ใจเกิดกิเลส เราก็รู้จักดับ รู้จักวิเคราะห์ พิจารณาหาเหตุหาผล
แต่เวลานี้เรามีตั้งแต่ศรัทธา แต่ขาดกำลังสติปัญญาที่สร้างขึ้นมาไม่ต่อเนื่อง ก็เลยไปสร้างแต่สมมติให้ยุ่งเหยิงปิดทับดวงใจของเราเอาไว้ ตั้งแต่ภายในส่วนนามธรรม ก็ควบคุมดวงใจของเราเอาไว้หมด แม้แต่ตัวใจ ก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้หมด เพียงแค่การเกิดนั้นเค้าก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้ เราต้องคลายความหลง ดับความเกิด วิเคราะห์พิจารณาชำระสะสางกิเลสออกจากใจของเราทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ทุกลมหายใจเข้าออก นอกจากเราจะนอนหลับ นั่นแหละเราก็จะเข้าใจในภาษาธรรมภาษาโลก มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติภายใน ธรรมชาติภายนอก
แต่เวลานี้ธรรมชาติภายในถูกปกปิดไว้ เอาไว้ด้วยความหลง ด้วยอำนาจของกิเลสต่างๆ ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าชี แต่ละวันตื่นขึ้นมาก็รีบสำรวจกาย สำรวจใจของเรา สร้างความขยันหมั่นเพียรด้วยสติด้วยปัญญา เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีความรับผิดชอบที่เพียงพอหรือไม่ เรามีความเสียสละที่เพียงพอหรือไม่ เรามีความเห็นแก่ตัว ใจของเรามีอคติ มีมลทิน หรือว่ามีนิวรณธรรมเข้าครอบงำ เราต้องหมั่น สังเกต หมั่นพร่ำสอนใจของเราตลอดเวลา เราจะไปวิ่งหาที่ไหน ถ้าไม่จบลงที่ใจของเรา อันนี้เรื่องของใจ
เรื่องของกาย สมมติวิมุตติก็อยู่ด้วยกัน เราต้องพยายามช่วยกันทุกอย่าง ยิ่งพระยิ่งชีเข้ามาบวชอยู่ด้วยกันเยอะๆ เพื่อให้มีความเสียสละ มีความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั่นแหละคือข้อวัตร ระเบียบจากภายในให้จบแล้วก็ล้นออกสู่ภายนอก ล้นออกไปสู่สังคม สู่หมู่สู่คณะ ความเป็นระเบียบ ความสวยความงาม ความสะอาด
ไปที่ไหนเราพยายามช่วยกันดูแลรักษา เศษขยะ เราก็อย่าไปทิ้งให้ผิดที่ผิดทาง ทิ้งให้ถูกที่ถูกทาง เรื่องขยะนี้หนัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็หนัก ถ้าไม่รู้จักจัดการแก้ไขปรับปรุง แล้วก็หนัก หนักตัวเรา หนักคนอื่น หนักสถานที่ ต่างคนต่างทิ้งๆ เอาไปเอามาก็เลยสกปรกไปหมด ชอบรักสะอาด แต่ชอบสกปรก เราต้องพยายามกำจัดออกไป ไม่ว่าที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ห้องส้วมห้องน้ำ
ทุกสิ่งทุกอย่างก็เอื้ออำนวยให้สมมติ ความเป็นอยู่สมมติก็สบาย ประพฤติปฏิบัติขัดเกลา ตัวเองก็ไม่ได้ลำบาก จะเอาตั้งแต่ธรรม แต่ความเสียสละไม่มี การกระทำไม่มี มีแต่ความเกียจคร้าน จะไปฝึกที่ไหนมันก็ได้แต่ความเกียจคร้านนั่นแหละ ไม่มีความรับผิดชอบ คนมีสติมีปัญญาฟังแล้ว การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การแก้ไขตัวเราเป็นอย่างนี้ แม้แต่ภายนอกสมมติต่างๆ อะไรไม่ดี เราก็รีบช่วยกันทำ มันก็น่าอยู่ น่าอาศัย
หลวงพ่อก็พาทำ พาทุกคนทำ หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนนั่นแหละ ที่ช่วยกันทำความสะอาดที่โน้นบ้างที่นี่บ้าง ทุกอย่างภายในบริเวณ ทุกตารางนิ้ว อย่าให้พลาดคลาดสายตาของสติปัญญาของเราไปได้ ถ้าไม่ดี เราก็ช่วยกันทำให้มันดีเสีย มันก็จะดี เราก็มีความสุขคนอื่นมาก็มีความสุข ได้อานิสงส์แห่งบุญเพิ่มเติมขึ้นไป ใครมาแล้วก็มีความสุข ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงเข้ามาก็มีความสุข จนกระทั่งผู้เฒ่าผู้แก่
พระเราก็ช่วยกัน ช่วยกันดูแลทำความสะอาด ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ห้องส้วมห้องน้ำ ศาลาวิหารพระหยกก็คงจะทำความสะอาด ก็เกือบคงจะเสร็จแล้วแหละ วันนี้ก็พากันช่วยกันทำ ทำความสะอาดหอฉันของเรานะ ทั้งหอฉัน ทั้งศาลารวมญาติพักศพนั่นแหละ หยากไย่ก็เต็มไปหมด เราก็ช่วยกันทำ วันละเล็กวันละน้อยเราก็เสร็จ
ใครว่างๆ ก็มาช่วยท่านอาจารย์นิยมท่านปั้นพญานาค มาสร้างอานิสงส์ฝากเอาไว้ มาเป็นลูกมือให้ท่าน ท่านจะได้พาทำ จะได้ให้เสร็จ ได้มีความสวยความงาม ใครไปใครมาแล้วก็มีความสุข เราก็มีความสุข อย่าไปงอมืองอเท้า อะไรพอทำได้ เราก็ช่วยกันทำ พวกชีก็เหมือนกัน พวกชีพวกญาติโยมที่มา อยากจะช่วยการช่วยงาน ก็พากันช่วยกันตกแต่งต้นไม้ ตกแต่งต้นไม้รากไม้ ในวัดนี้จะแต่งให้หมดนั่นแหละ ประดับประดาด้วยเสาไฟให้เป็นต้นไม้ ใครเข้ามาแล้วก็มีความสุข ให้ทำด้วยจินตนาการของทุกคนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ใส่ลงไปด้วยชีวิต ด้วยจิตวิญญาณที่เกิดจากการเจริญภาวนา ก็จะมีแต่ความสุข ส่วน
สวนมะลิวัลย์ก็อย่าลืมพากันไปรดต้นไม้ให้หน่อย รดทุกวัน วันละเล็กวันละน้อย ปีหน้าเค้าก็จะเลี้ยงตัวของเค้าได้เอง เราไม่อยากจะได้ความร่มรื่น เราก็จะได้ เพราะการกระทำของเรามี การดูแลของเรามี การให้น้ำให้ปุ๋ยของเรามี สักวันนึงก็จะเป็นแหล่งบุญใหญ่มากมายมหาศาล นี่แหละบุญจากกองบุญกองน้อยๆ ที่พวกเราได้มาช่วยกัน ญาติโยมที่โน่นที่นี่ก็มาช่วยกัน บางคนบางท่านมาไม่ได้ ก็ส่งจตุปัจจัยมาช่วย บางคนก็ส่งเงินมาช่วย เอาเงินน้อมนำมาถวายให้ มาช่วยมาทำ ก็ขอขอบคุณมากมากเลยทีเดียว ขอบคุณเทวดาที่เดินดิน ขอบคุณเทวดาที่ไม่มีกายเนื้อ มาเถอะมาช่วยกันทำ
หลวงพ่อก็อาศัยอำนาจแห่งบุญ มาด้วยแรงบุญ ทำด้วยแรงบุญ ใครมาทันก็ทัน ไม่ทันก็เสร็จก่อน ไม่ได้ลำบาก เทวดาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา ส่วนการชำระสะสางกิเลส ก็ต้องแก้ไข้ตัวเราเอง จะไปแก้ไขให้กันไม่ได้เลย เพียงแค่ชี้แนะบอกแนวทาง พวกท่านไม่ไปทำ พวกท่านก็ไม่เข้าใจ ก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง แก้ไขตัวเอง ส่วนสมมติภายนอก เราก็ช่วยกัน มีอะไรเราก็ช่วยกัน คอยบอก คอยกล่าว คอยเตือน บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น บอกตัวเองไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็นแล้ว ก็ไปอยู่ที่ไหนก็หนัก หนักหมู่หนักคณะ หนักเพื่อนหนักฝูง หนักครูบาอาจารย์ มีอะไรเราก็ช่วยกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อนะ ทำความเข้าใจกันเอา