หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 031

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 031
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 031
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวได้หรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ พยายามฝึกฝนให้เกิดความเคยชิน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ระลึกได้เมื่อไหร่เราก็รีบทำ รีบวิเคราะห์การหายใจเข้าออกของเราเป็นอย่างไร ความรู้สึกรับรู้เป็นอย่างไร ลึกลงไปใจปกติเป็นอย่างไร กายของเราเป็นอย่างไร เราจะทำอะไรก่อนอะไรหลัง อะไรเป็นประโยชน์อะไรไม่เป็นประโยชน์ เราติดขัดอยู่ตรงไหน เราก็จะได้รีบแก้ไขตัวเราอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้น มาเอาไปใช้กับชีวิตประจำวัน ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลย ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องทำ พยายามทำเอา อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ทำ

ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย ความรู้ทั่วพร้อมที่ต่อเนื่องกันเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ปกติเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่เกิด ใจที่ไม่เกิด มีอยู่เรื่องเดียวนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องทำความเข้าใจกับชีวิตของเรา จนกระทั่งจะหมดลมหายใจนั่นแหละ กายก้อนนี้มันถึงจะแตกดับ เหลือแต่ตัววิญญาณจะเดินทางต่อ ตราบใดที่ยังดับความเกิดไม่ได้ เขาก็ต้องไปเกิดต่อ เกิดในกองบุญกองกุศล หรือว่ากองอกุศล ให้เราเลือกเอา แก้ไขเอา ปรับปรุงตัวเราเองเอา ไม่ใช่ว่าจะไปให้คนโน้นคนนี้เขากระหนาบ เขาชี้ให้ เราต้องกระหนาบตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา อยู่ในชีวิตของเรานี่แหละ พยายามทำเอา

วันนี้ก็รู้สึกว่าฝนฟ้าก็เริ่มห่างแล้ว วันพรุ่งนี้พายุก็คงจะไปแล้วแหละ ไปแล้วเหลือแต่ปลายหางนิดๆ หน่อยๆ วันพรุ่งนี้ก็จะได้ผู้เฒ่าผู้แก่ทางทำบุญของเรา ก็จะได้มาร่วมลงมติกัน พระเราช่วยกันยกโต๊ะที่ทางกุฏิของท่านอาจารย์ต้าไปทางลานจอดรถให้หน่อยนะ เอาไปหมดนั่นแหละที่เหลือ 5-6 ตัว ตัวเล็ก เห็นว่าจะพากันตั้งโรงทานด้วย ตั้งโรงทาน ใครไปใครมาก็จะได้อยู่ได้กิน เอาไปไว้ทำโต๊ะตั้งโรงทานกัน

พวกแม่ชีญาติโยมอยากจะมาตั้งโรงทานด้วยกัน ก็จะมีโต๊ะตั้งโรงทาน ทั้งอาหาร การอยู่การขบ การกิน ทั้งก๋วยเตี๋ยว ทั้งน้ำชากาแฟ เรามีโอกาส เราได้ทำบุญให้กับคนหมู่มาก ทำบุญให้กับผู้เฒ่าผู้แก่ ญาติโยมที่มา นานๆ ทีเราถึงจะได้ทำ ทำให้เต็มที่ไปเลย มีโอกาสได้มาทำ แล้วพรุ่งนี้ก็จะได้มีการเอาทรายลงถุง เข้าไปปิดไปกั้นน้ำเอาไว้ เพื่อที่จะได้น้ำเข้าบ่อ ถ้าไม่กั้นสายก็คงจะไม่ได้น้ำ คงจะกั้นไม่สูง กั้นประมาณสัก 50-60 เซ็นต์ เพราะว่าแรงอัดแรงเหวี่ยงมันไม่เข้ามา เพราะลมน้อยก็จะไปทางกว้าง เราก็ต้องเอาทรายไปปิดไว้ก่อนเผื่อจะได้น้ำเข้าบ่อให้มันเต็มก่อน ก่อนที่พายุจะหมดไป

ส่วนท่านคุณไผ่กับต๋อง ก็พากันช่วยตอนต้นไม้ให้หลวงพ่อหน่อยนะ ตอนต้นไทรดำ เอาเฉพาะไทรดำ ตอนให้หมด กะลามมะพร้าวก็แช่นำเอาไว้ในถังนั่นแหละ ตอนเอาไว้จะได้เลี้ยงเอาไว้ๆ เอาไว้แซมในป่า ตรงไหนว่างก็จะได้แซมเข้าไป ในวันข้างหน้าจะได้มีร่มเงาได้ตลอด ตรงไหนไม้มันตายแล้ว ไม้มันโล่งมันโปร่งแล้ว ก็จะได้เอาไทรดำเข้าไป เลี้ยงไทรดำ ไทรใหญ่

หลวงพ่อได้มาต้นเดียวตั้งแต่สมัย 20 กว่าปีก่อน ขึ้นไปเที่ยวธุดงค์ทางโน้น ทางเขาปักธงชัย ไปเที่ยวธุดงค์เห็นต้นไทรประมาณสักเมตรกว่านี่ละมันล้มมันโดนน้ำ ก็เลยถอนรากถอนโคนมาขวางทางเอาไว้ ก็เลยห่อใส่ถุงปุ๋ยมาปลูก มาเลี้ยงเอาไว้ ไทรดำใหญ่อยู่ข้างกุฏิหลวงพ่อนั่นแหละ ก็เลยโตขึ้นมา ก็เลยตอนขยายมาเรื่อยๆ ขยายมาเรื่อยๆ ให้ได้ร่มเงา ทีนี้เราจะขยายใหญ่ให้ได้สัก 100-200 กว่าต้น เอาไปเอาไว้แซม เลี้ยงเอาไว้แซมต้นไม้ บางทีต้นไผ่ ต้นอะไรมันแก่ตาย เราก็จะได้มาแซมให้เป็นป่า เป็นป่าดงดิบ ใครไปใครมาก็จะได้มีความสุข ความร่มรื่นร่มเย็น

ข้างล่างก็ตามถนนหนทางก็เป็นอุโมงค์ต้นไทรเสียแล้ว เป็นอุโมงค์ป่าไม้ ใครมาก็มีความสุขนี่แหละ จากความขยันหมั่นเพียรของทุกคน พากันช่วยทำ พากันช่วยสร้างขยายมาเรื่อยๆ ทุกปีๆ แล้วแต่โอกาสจะอำนวย ต้นใหญ่เราก็ขยายกิ่งก้านสาขาเขา ค่อยตัดค่อยเล็มไปเรื่อยๆ ที่นี้ก็จะเอาเฉพาะไทรดำประมาณ สัก 100-200 กว่าต้น เท่าที่กะลามะพร้าวของเรามี จะได้แซมเอาไว้ให้เต็มป่าไปหมดในวันข้างหน้า

เราตอนเพื่อที่จะให้เลี้ยงรากของเขาให้ได้เสียก่อน ช่วยกันทำ ช่วยกันสร้าง คนรุ่นหลังมาก็จะได้มี ได้สร้าง ได้สานต่อให้เป็นแหล่งบุญใหญ่เอาไว้ ฝากฝังเอาไว้กับสมมติขณะเรายังมีกำลังอยู่ ยังมีลมหายใจอยู่ อย่าพากันเกียจคร้าน ให้มีความขยันหมั่นเพียร ขยันหมั่นเพียรในการชำระสะสางกิเลสของเรา ขยันหมั่นเพียรในการจัดระบบระเบียบให้ดูสวยงามทั้งภายนอกทั้งภายใน ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ห้องส้วมห้องน้ำ กว่าจะได้มาอยู่ดีมีความสุข ก็ต้องอาศัยกาล อาศัยเวลา อาศัยพรหมวิหาร อาศัยเหล่ากำลังศรัทธา กำลังกาย กำลังทรัพย์ของหลายคนหลายท่านมาหล่อหลอมรวมกัน ให้เป็นอานิสงส์ใหญ่ ให้เป็นบุญใหญ่ ไม่ใช่ว่าปุ๊บปั๊บมันจะมีได้เลย เราก็ต้องช่วยกันดูแล

ถ้าเราทำได้ เรานั่นแหละได้รับอานิสงส์ เราก็อยู่ดีมีความสุข คนอื่นเข้ามาก็ได้รับอานิสงส์จากในสิ่งที่พวกเราทำ ได้อยู่ดีมีความสุขกัน ใครไปใครมาก็มีความสุขนั่นแหละ ความสุขนั่นแหละคือบุญ ตัวใจเป็นบุญ เป็นกุศล เป็นอานิสงส์ อย่าคิดว่าไม่ทำ เราต้องทำเพื่อให้เกิดประโยชน์ สมัยก่อนลำบาก เราก็ทำให้จนได้อยู่ดีมีความสุข ใครไปใครมาก็มีความสุข แม้แต่เด็กๆ ก็มีความสุข โอกาสบุญได้เกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนี้

ส่วนการชำระสะสางกิเลส เราก็ต้องแยกให้ตัวเรานะ การเจริญสติ เราก็ต้องสร้างเอา ไม่ใช่ว่าคนอื่นเขาจะทำให้เราได้ เราต้องสร้างเอา ทำเอา ทำความเข้าใจให้ทุกอิริยาบถ เรามาอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน ก็ให้มีความสมัครสมานสามัคคีกัน อย่าพากันเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัว ทุกคนก็มีข้อวัตรปฏิบัติอยู่ในตัวเราหมด ความเป็นข้อวัตรปฏิบัติ ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเสียสละนั่นแหล่ะข้อวัตรปฏิบัติในกายในใจของเรา ก็ต้องพยายามกัน

เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง