หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 144
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 144
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้สำรวจกายสำรวจใจของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสีย พยายามฝึกให้เกิดความเคยชินแล้วก็ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง รู้จักการเจริญสติ ลักษณะของสติ รู้ตัวรู้กายอยู่ปัจจุบันแล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้กายแล้วก็รู้ใจรู้ลักษณะของใจ
ใจที่สงบใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่ไม่เกิดใจที่ไม่หลง ลักษณะของความหลงเป็นลักษณะอย่างไร ตัวใจหรือว่าตัววิญญาณกับอาการของใจเขารวมกันได้อย่างไร นี่แหละเราต้องเจริญสติเข้าไปรู้ให้ทัน รู้ไม่ทันตั้งแต่ต้นเหตุ เราก็รู้จักระงับยับยั้งเอาไว้ รู้จักการสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องจนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิดออกจากอารมณ์ได้นั่นแหละ ขาถึงจะคลายความหลงได้ เราถึงจะรู้ว่าเราไม่หลง ตราบใดที่ยังแยกไม่ได้ก็อย่าบอกว่าตัวเองไม่หลง ตราบใดที่ยังเจริญสติไม่ต่อเนื่องก็บอกว่าตัวเรานี่มีสติมีปัญญา มีสติมีปัญญาอยู่แต่เป็นสติปัญญาของโลกิยะสติปัญญาระดับของสมมติ เราจะถูกของสมมติแต่ยังไม่ถูกของหลักธรรม
หลักธรรมเราต้องเจริญสติรู้จักเอาไปใช้จนเป็นมหาสติจนเป็นมหาปัญญา รู้จักวิเคราะห์ทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตของเรา ตื่นขึ้นมากายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร อะไรคือสมมติอะไรคือโลกธรรม การแยกรูปแยกนาม อะไรคือรูปอะไรคือนาม อะไรเป็นส่วนนามธรรมอะไรเป็นสวนรูปธรรม การเกิดการดับของจิตของวิญญาณเป็นอย่างไร กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นลักษณะหน้าตาอาการอย่างไร เราต้องศึกษาค้นคว้าไม่ใช่ว่าปิดกั้นตัวเราเอง
การแสวงหาธรรมดิ้นรนหาธรรม เราต้องหาอยู่ในกายของเราไม่ใช่ว่าไปหาที่โน่นไปหาที่นี่ หาภายนอกนั้นหาไม่เจอหรอกนอกจากจะหาภายในกายของเรา เจริญสติเข้าไปสังเกตเข้าไปวิเคราะห์ เพียงแค่การเจริญการสร้างสติก็ยังไม่ค่อยจะสนใจกัน อยากจะได้ตั้งแต่ธรรมอยากจะได้ตั้งแต่บุญใจมันเกิดมันวิ่งอยู่ตลอดเวลา
ความเกิดนั่นแหละถ้าไม่หลงเขาก็ไม่เกิด เพียงแค่การเกิดก่อร่างสร้างภพของมนุษย์มาปิดกั้นวิญญาณของตัวเองเอาไว้ตรงนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ในส่วนนามธรรมความคิดอารมณ์เกิดๆ ดับๆ ที่เกิดจากวิญญาณบ้างอาการของวิญญาณบ้าง เขาเกิดๆ ดับๆ เรารู้เมื่อเขาเกิด แต่เราไม่เคยเห็นฐานที่ตั้งที่มั่นของเขาคือตัววิญญาณที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราต้องมาทำความเข้าใจสำรวจให้ละเอียด
อย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้ง เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกฎลงที่กฎของไตรลักษณ์หมด ลงที่กฎของความเป็นจริงคืออนิจจังทุกขังอนัตตาหมด ถึงวาระเวลาก็ต้องเข้าสู่สภาพอนัตตาคือความว่างเปล่า อนิจจังความเป็นเที่ยง ทุกขังเป็นทุกข์ มีการเปลี่ยนแปลงถึงกาลถึงเวลาก็อนัตตาความว่างเปล่า หลักธรรมสอนเรามาตั้งแต่เกิดนั่นแหละ เพียงแค่กายเนื้อก็เปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นผู้ใหญ่เป็นคนชราค่ำคร่า มีการเจ็บการแก่การตายอยู่ตลอดเวลา เราก็จะเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องพยายามศึกษาเสียอย่าไปมองข้าม ทำความเข้าใจ รู้จักใจของเราให้ใจของเรามองเห็นความเป็นจริง เห็นการเกิดเป็นทุกข์ ไม่อยากจะเกิดก็ต้องดับความเกิดให้ได้ละกิเลสให้ได้ อย่าเป็นทาสของกิเลสจงเป็นนายเหนือกิเลส
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี อีกสักหน่อยสักระยะไม่นานก็ต้องได้พลัดพรากจากกันหมด เพราะว่าความเป็นจริงกฎของไตรลักษณ์เป็นอยู่อย่างนั้น ขณะที่เรายังมีลมหายใจมีชีวิตอยู่เราพยายามสร้างประโยชน์สร้างคุณงามความดี พยายามหมั่นขัดเกลาจิตวิญญาณของเราให้ไปสู่ที่สูง ยกระดับจิตของเราขึ้นสู่ที่สูง คือปราศจากความยึดมั่นถือมั่นปราศจากกิเลส มองเห็นหนทางเดิน ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องพยายามทำ อย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา
หลวงพ่อก็มี ได้เพียงแค่พูดให้ฟังเท่านั้นแหละ ถ้าพวกท่านไม่ไปทำก็จะไม่เข้าใจ ไม่ใช่เอาไปที่โน้นจะรู้ธรรมไปที่นี้จะรู้ธรรม ถ้าเราไม่รู้จักวิธีรู้จักแนวทาง ไม่วิเคราะห์ปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา ไม่มีใครที่จะทำให้เราได้หรอกนอกจากตัวของเรา การทำบุญให้ทาน ทางด้านวัตถุทานเรามีโอกาสได้ทำได้สร้างร่วมกัน หลวงพ่อก็พาทำอยู่ตลอดมีโอกาสก็พาทำ โอกาสเปิดให้ก็พาทำจนกว่าสภาพร่างกายมันจะหมดสภาพนั่นแหละ สภาพร่างกายก็เอาแน่นอนไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ บางวันก็มีกำลังบางวันก็ไม่มีกำลัง เพราะว่าโรคภัยไข้เจ็บก็เบียดเบียนเพราะว่ากายของเราเป็นก้อนทุกข์
หลวงพ่อแม้แต่ร่างกายของหลวงพ่อเองก็ต้องอาศัยยาฉีดยาอยู่ตลอดทุกวัน เมื่อวานนี้ก็หนักอยู่เหมือนกันตรวจเลือดดูนี่เครื่องไม่อ่านเลยทีเดียว เบาหวานขึ้นเยอะขึ้นถึง 500 600 จนเครื่องไม่อ่าน ก็ต้องได้พักให้เขา บางวันก็แทบจะไปไม่ไหว อาศัยตั้งแต่กำลังกายกำลังวาจาเท่านั้นแหละ พาหมู่พาคณะพาทำพาสร้าง สภาพร่างกายไม่รู้จะไปวันไหนเอาแน่นอนไม่ได้แต่ก็เตรียมพร้อม เตรียมพร้อมที่จะอยู่เตรียมพร้อมที่จะไป ไปก็มีความสุขอยู่ก็มีความสุข แต่อยู่นี่จะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่เพราะว่าร่างกายมันเป็นรังแห่งโรค ต้องประคับประคองเขาจนกว่าจะถึงวาระถึงเวลาของเขานั่นแหละถึงจะได้ไป แต่ก็ไม่ได้ทุกข์กับสิ่งพวกนี้
เรามาเตรียมพร้อมขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ บุญภายนอกสมมติเราก็ทำ การขัดความขัดเกลากิเลสเราก็ทำ ทำทำหมดทุกอย่างอะไรที่จะเป็นบุญอะไรที่เป็นกุศล การเจริญสติการเจริญปัญญา การแยกรูปแยกนาม การทำความเข้าใจกิเลสหยาบกิเลสละเอียด แนวทางมีอยู่แล้วพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบออกมาเปิดเผยให้สัตว์โลกได้เดินตาม พวกเราจะเดินตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเราเองนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่องกันให้ชัดเจนกัน สักพักสักระยะหนึ่งถึงไม่ได้ต่อเนื่องกันได้ตลอด ทำใจให้ว่างสมองให้โล่งกายให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ
ใจที่สงบใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่ไม่เกิดใจที่ไม่หลง ลักษณะของความหลงเป็นลักษณะอย่างไร ตัวใจหรือว่าตัววิญญาณกับอาการของใจเขารวมกันได้อย่างไร นี่แหละเราต้องเจริญสติเข้าไปรู้ให้ทัน รู้ไม่ทันตั้งแต่ต้นเหตุ เราก็รู้จักระงับยับยั้งเอาไว้ รู้จักการสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องจนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิดออกจากอารมณ์ได้นั่นแหละ ขาถึงจะคลายความหลงได้ เราถึงจะรู้ว่าเราไม่หลง ตราบใดที่ยังแยกไม่ได้ก็อย่าบอกว่าตัวเองไม่หลง ตราบใดที่ยังเจริญสติไม่ต่อเนื่องก็บอกว่าตัวเรานี่มีสติมีปัญญา มีสติมีปัญญาอยู่แต่เป็นสติปัญญาของโลกิยะสติปัญญาระดับของสมมติ เราจะถูกของสมมติแต่ยังไม่ถูกของหลักธรรม
หลักธรรมเราต้องเจริญสติรู้จักเอาไปใช้จนเป็นมหาสติจนเป็นมหาปัญญา รู้จักวิเคราะห์ทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตของเรา ตื่นขึ้นมากายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร อะไรคือสมมติอะไรคือโลกธรรม การแยกรูปแยกนาม อะไรคือรูปอะไรคือนาม อะไรเป็นส่วนนามธรรมอะไรเป็นสวนรูปธรรม การเกิดการดับของจิตของวิญญาณเป็นอย่างไร กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นลักษณะหน้าตาอาการอย่างไร เราต้องศึกษาค้นคว้าไม่ใช่ว่าปิดกั้นตัวเราเอง
การแสวงหาธรรมดิ้นรนหาธรรม เราต้องหาอยู่ในกายของเราไม่ใช่ว่าไปหาที่โน่นไปหาที่นี่ หาภายนอกนั้นหาไม่เจอหรอกนอกจากจะหาภายในกายของเรา เจริญสติเข้าไปสังเกตเข้าไปวิเคราะห์ เพียงแค่การเจริญการสร้างสติก็ยังไม่ค่อยจะสนใจกัน อยากจะได้ตั้งแต่ธรรมอยากจะได้ตั้งแต่บุญใจมันเกิดมันวิ่งอยู่ตลอดเวลา
ความเกิดนั่นแหละถ้าไม่หลงเขาก็ไม่เกิด เพียงแค่การเกิดก่อร่างสร้างภพของมนุษย์มาปิดกั้นวิญญาณของตัวเองเอาไว้ตรงนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ในส่วนนามธรรมความคิดอารมณ์เกิดๆ ดับๆ ที่เกิดจากวิญญาณบ้างอาการของวิญญาณบ้าง เขาเกิดๆ ดับๆ เรารู้เมื่อเขาเกิด แต่เราไม่เคยเห็นฐานที่ตั้งที่มั่นของเขาคือตัววิญญาณที่แท้จริงเป็นอย่างไร เราต้องมาทำความเข้าใจสำรวจให้ละเอียด
อย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้ง เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกฎลงที่กฎของไตรลักษณ์หมด ลงที่กฎของความเป็นจริงคืออนิจจังทุกขังอนัตตาหมด ถึงวาระเวลาก็ต้องเข้าสู่สภาพอนัตตาคือความว่างเปล่า อนิจจังความเป็นเที่ยง ทุกขังเป็นทุกข์ มีการเปลี่ยนแปลงถึงกาลถึงเวลาก็อนัตตาความว่างเปล่า หลักธรรมสอนเรามาตั้งแต่เกิดนั่นแหละ เพียงแค่กายเนื้อก็เปลี่ยนแปลงจากเด็กเป็นผู้ใหญ่เป็นคนชราค่ำคร่า มีการเจ็บการแก่การตายอยู่ตลอดเวลา เราก็จะเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องพยายามศึกษาเสียอย่าไปมองข้าม ทำความเข้าใจ รู้จักใจของเราให้ใจของเรามองเห็นความเป็นจริง เห็นการเกิดเป็นทุกข์ ไม่อยากจะเกิดก็ต้องดับความเกิดให้ได้ละกิเลสให้ได้ อย่าเป็นทาสของกิเลสจงเป็นนายเหนือกิเลส
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี อีกสักหน่อยสักระยะไม่นานก็ต้องได้พลัดพรากจากกันหมด เพราะว่าความเป็นจริงกฎของไตรลักษณ์เป็นอยู่อย่างนั้น ขณะที่เรายังมีลมหายใจมีชีวิตอยู่เราพยายามสร้างประโยชน์สร้างคุณงามความดี พยายามหมั่นขัดเกลาจิตวิญญาณของเราให้ไปสู่ที่สูง ยกระดับจิตของเราขึ้นสู่ที่สูง คือปราศจากความยึดมั่นถือมั่นปราศจากกิเลส มองเห็นหนทางเดิน ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องพยายามทำ อย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา
หลวงพ่อก็มี ได้เพียงแค่พูดให้ฟังเท่านั้นแหละ ถ้าพวกท่านไม่ไปทำก็จะไม่เข้าใจ ไม่ใช่เอาไปที่โน้นจะรู้ธรรมไปที่นี้จะรู้ธรรม ถ้าเราไม่รู้จักวิธีรู้จักแนวทาง ไม่วิเคราะห์ปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา ไม่มีใครที่จะทำให้เราได้หรอกนอกจากตัวของเรา การทำบุญให้ทาน ทางด้านวัตถุทานเรามีโอกาสได้ทำได้สร้างร่วมกัน หลวงพ่อก็พาทำอยู่ตลอดมีโอกาสก็พาทำ โอกาสเปิดให้ก็พาทำจนกว่าสภาพร่างกายมันจะหมดสภาพนั่นแหละ สภาพร่างกายก็เอาแน่นอนไม่ค่อยจะได้เท่าไหร่ บางวันก็มีกำลังบางวันก็ไม่มีกำลัง เพราะว่าโรคภัยไข้เจ็บก็เบียดเบียนเพราะว่ากายของเราเป็นก้อนทุกข์
หลวงพ่อแม้แต่ร่างกายของหลวงพ่อเองก็ต้องอาศัยยาฉีดยาอยู่ตลอดทุกวัน เมื่อวานนี้ก็หนักอยู่เหมือนกันตรวจเลือดดูนี่เครื่องไม่อ่านเลยทีเดียว เบาหวานขึ้นเยอะขึ้นถึง 500 600 จนเครื่องไม่อ่าน ก็ต้องได้พักให้เขา บางวันก็แทบจะไปไม่ไหว อาศัยตั้งแต่กำลังกายกำลังวาจาเท่านั้นแหละ พาหมู่พาคณะพาทำพาสร้าง สภาพร่างกายไม่รู้จะไปวันไหนเอาแน่นอนไม่ได้แต่ก็เตรียมพร้อม เตรียมพร้อมที่จะอยู่เตรียมพร้อมที่จะไป ไปก็มีความสุขอยู่ก็มีความสุข แต่อยู่นี่จะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่เพราะว่าร่างกายมันเป็นรังแห่งโรค ต้องประคับประคองเขาจนกว่าจะถึงวาระถึงเวลาของเขานั่นแหละถึงจะได้ไป แต่ก็ไม่ได้ทุกข์กับสิ่งพวกนี้
เรามาเตรียมพร้อมขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ บุญภายนอกสมมติเราก็ทำ การขัดความขัดเกลากิเลสเราก็ทำ ทำทำหมดทุกอย่างอะไรที่จะเป็นบุญอะไรที่เป็นกุศล การเจริญสติการเจริญปัญญา การแยกรูปแยกนาม การทำความเข้าใจกิเลสหยาบกิเลสละเอียด แนวทางมีอยู่แล้วพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบออกมาเปิดเผยให้สัตว์โลกได้เดินตาม พวกเราจะเดินตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเราเองนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่องกันให้ชัดเจนกัน สักพักสักระยะหนึ่งถึงไม่ได้ต่อเนื่องกันได้ตลอด ทำใจให้ว่างสมองให้โล่งกายให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ