หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 118

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 118
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 118
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนแล้วก็ให้ต่อเนื่อง หยุด​ดับ​ความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ ถึงเราวิเคราะห์สังเกตแยกแยะไม่ได้ ก็ขอให้มีความรู้ตัวให้ต่อเนื่องแล้วก็รู้ความปกติไว้เป็นหลัก

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันหรือว่าสร้างความรู้สึกรับรู้อยู่ปัจจุบัน ขณะทุกลมหายใจเข้าออก ให้เกิดความเคยชินแล้วก็ให้เกิดความชำนาญ จนเป็นอัตโนมัติในการสร้างความรู้ตัวจนรู้เท่าทันใจของเรา รู้เท่าทันวิญญาณในกายของเรา ลักษณะของวิญญาณหรือว่าใจที่ปกติ ใจที่ไม่มีกิเลส ใจที่ปราศจากความยึดมั่นถือมั่น

ตัววิญญาณเขายังเกิดอยู่เขายังหลงอยู่ หลงอยู่ในกายเนื้อของเรานี่แหละจุดแรกหลงในขันธ์ห้า ความคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจเคลื่อนเข้าไปรวม เขายังหลงอยู่ยังหลงอยู่ ร่างกายของเรานี้เป็นส่วนรูป ส่วนความคิดอันนั้นเป็นส่วนนามซึ่งมีวิญญาณเข้าไปร่วมอยู่ วิญญาณซึ่งเป็นตัวสุดท้ายในขันธ์ห้าของเรา เราถึงได้มาสร้างผู้รู้เข้าไปทำความเข้าใจกับธาตุรู้หรือว่าตัววิญญาณ เวลานี้วิญญาณของเราทั้งเป็นผู้รู้ทั้งเป็นผู้เกิดทั้งเป็นผู้หลง

เราต้องพยายามหมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราแก้ไขใจของเราอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีอะไรเหลือที่ใจ ในสิ่งที่ไม่เหลือนั้นเขามีอยู่คือความว่างความบริสุทธิ์ก็มีอยู่ เราต้องพยายามดูรู้ให้เห็นถึงต้นเหตุการเกิด การเกิดการตั้งอยู่การดับไป เรื่องอะไรที่เขาเกิด เพียงแค่การเกิดนั้นเขาก็หลงมาเขาหลงมาถึงได้เกิด เกิดมาสร้างภพของมนุษย์มีกายเนื้อเข้ามาห่อหุ้มเอาไว้ แล้วก็เป็นทาสของความทะเยอทะยานอยากเข้าไปปกปิดเอาไว้ เขาก็หาเหตุหาผลเหมือนกันเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

นอกจากบุคคลที่สร้างบุญสร้างบารมีขัดเกลากิเลสออกจากใจของตัวเรา น้อมกายน้อมใจของเราเข้ามาเพื่อหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น เรารู้จักวิธีเรารู้จักแนวทางแล้วไปทำ ยืนเดินนั่งนอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ การละกิเลส กิเลสเกิด คำว่าลักษณะของกิเลสเป็นลักษณะอย่างไร อาการของตัวกิเลสเป็นลักษณะอย่างไร ความโลภความโกรธ การได้ยินได้ฟังได้อ่านทุกคนมีกันเต็มเปี่ยมมาตั้งแต่เป็นเด็ก มีการพัฒนามาเรื่อยๆ จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียนถูกปลูกฝังมาจากพ่อจากแม่ปู่ย่าตายาย บุคคลที่มีบุญจะไม่ได้ไปกระตุ้นยากเลย

การสร้างสติเป็นอย่างนี้นะ การสังเกตการวิเคราะห์ การดับ​ จิตใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตนหรือว่ามีความแข็งกระด้าง มีหิริโอตัปปะมีความละอายแล้วก็รู้จักละกิเลส รู้จักเจริญพรหมวิหาร รู้เท่าทันรู้เท่า​ รู้ทัน ต่อไปข้างหน้าก็รู้กัน​รู้แก้รู้ละ สติสมาธิปัญญานี่ต้องเสมอภาคกัน ตัววิญญาณมันเกิดปรุงแต่ง เป็นความคิดของโลกิยะที่ความคิดที่ยังหลงอยู่ตัวนั้นแหละ คนไปส่งเสริมกับเรามากมายจริงๆ

บางทีก็ไปสะสมกองกิเลสต่างๆ มาปกปิดดวงใจของตัวเองเอาไว้ จนพอกพูนหนาเตอะเหมือนกับดินเพาะหางหมู มันก็ยากที่จะขัดเกลาออก ก็ต้องอาศัยกาลอาศัยเวลาอาศัยความเพียร ไม่ใช่ว่าจะไปวิ่งไปหาธรรมที่โน่นหาธรรมที่นี่ เรานิ่งลองดู​นิ่งสังเกตดู เขาเกิดอย่างไรเขาก่อตัวอย่างไร ความคิดส่วนนาม ส่วนรูปส่วนสมมติโลกธรรม สมมติต่างๆ เราก็ยังสมมติให้เกิดประโยชน์เราก็พลอยได้รับประโยชน์นั้นด้วย คนทั่วไปนี่แม้แต่สมมติก็ยังขาดการทำความเข้าใจ จะเอาตั้งแต่ธรรมแต่ไม่ทำสมมติมันก็ยากลำบาก เพียงแค่ปัจจัยสี่ที่จะยังกายของเราให้อยู่กับสมมติให้อยู่ดีมีความสุขในสิ่งรอบข้างรอบด้าน กายของเราก็ยังเป็นก้อนสมมติอีก เราต้องศึกษาให้ละเอียด อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง

อยู่คนเดียวเราก็จัดระบบระเบียบทั้งกายวาจาใจให้เรียบร้อย แล้วก็จัดระบบระเบียบของสมมติความเป็นอยู่ของเรานั่นแหละคือข้อวัตร ข้อวัตรปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา เรามีความเกียจคร้านเราก็พยายามละความเกียจคร้านออกจากใจของเรา มีไม่มากมีอยู่ในกายของเรา ไม่จำเป็นต้องพูดเก่งหรอกไม่พูดเลยก็ได้ ดูใจของเราแก้ไขใจของเราปรับปรุงใจของเรา อยู่ด้วยกันหลายคนก็ดูเรา อยู่น้อยคนก็ดูเรา รู้จักความรับผิดชอบ ความเสียสละ ไม่เอารัดเอาเปรียบไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน เอาความถูกต้องทั้งภายในทั้งภายนอกเป็นที่ตั้ง นั่นแหละก็จะค่อยพัฒนาสติปัญญาของเราจนเต็มเปี่ยมจนล้น อยู่ที่ไหนก็มีความสุข

วันนี้พระเราพากันช่วยกันเอากระป๋องเอาจอบเอาเสียมอยู่ที่น้ำตกตัวใหม่ ไปช่วยกันขนดินลงกลบหลุมกลบร่องที่ศาลาท่าน้ำทางปางลีลาให้หน่อยนะ ช่วยกันหลายคนหลายท่าน เอาดินมากองเอาไว้สองคันรถ เอาลงตรงที่หลุมต้นไม้ต่างๆ ที่เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่ที่ศาลาท่าน้ำอยู่ที่ชานชาลาท่าน้ำ เอาลงเอากลบช่วยกันค่อยตักค่อยส่งค่อยลงไปกลบให้เป็นระเบียบเรียบร้อย​ ต่อไปในวันข้างหน้าจะไม่ได้ลำบาก จะได้สวยได้งามมีดอกไม้ให้ร่มเงาอาศัยกัน

ช่วยกันหลายฝ่ายหลายที่หลายทาง สมมติก็จะบริบูรณ์ขึ้น ใครไปใครมาก็มีความสุข เราจากไปคนหลังเข้ามาดูแลต่อ ขณะที่เรายังอยู่ เราก็พยายามสร้างประโยชน์ช่วยกันทำ ก่อนที่จะมาเป็นที่ร่มรื่นอาศัยน่ารื่นรมย์ได้ก็อาศัยความเพียรของทุกๆ คนช่วยกัน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งว่าจะทำได้ หลวงพ่อก็เป็นแค่เพียงสะพานพาทำพาสร้าง

จากความไม่มีก็ยังสมมติให้น่าอยู่น่าอาศัย​ จัดระบบระเบียบเอาบุญต่อบุญ บุญจากฆราวาสจากโยม อานิสงส์ของบุญก็ต่อบุญให้สูงส่งขึ้นไปเรื่อยๆ ให้เกิดประโยชน์ให้มากมายภายนอก ประโยชน์สมมติเราก็ยังให้เต็มเปี่ยม ประโยชน์วิมุตติการขัดเกลาการละกิเลสเราก็พยายามทำ กายวิเวก ใจวิเวก วิเวกจากการเกิด วิเวกจากกิเลส วิเวกจากความยึดมั่น หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา ฝึกไปเถอะทำไปเถอะ เมื่อออกไปข้างนอกเราจะเห็นคุณค่าของการฝึก ว่าความขยันหมั่นเพียรเป็นอย่างไร ความรับผิดชอบเป็นอย่างไร อย่าไปตำหนิอย่าไปอคติคนโน้นไม่ทำคนนี้ ไม่ทำ คนนั้นเป็นอย่างนั้นคนนี้เป็นอย่างนี้ กิเลสของเราทั้งนั้น สมัยก่อนก็เหมือนกันหลวงพ่อก็เหมือนกัน เพียงแค่ความคิดไปบอกไปชี้แนะให้คนอื่นเขาไม่ทำก็เกิดความน้อยใจว่าเขาไม่ทำ เขาไม่ประพฤติปฏิบัติ อยากจะหลบอยากหลีกอยากจะหนี

เรามาดับภายในแก้ไขภายในของเรา กายของเราก็ไปร่วมสมมติแต่ให้ใจรับรู้ ไม่ให้อคติไม่ให้เพ่งโทษ เราทำเราก็ได้ เขาไม่ทำเขาก็ไม่ได้ เราก็ต้องพยายาม ก่อนที่จะถึงจุดหมายปลายทางได้ก็ผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งความผ่านอุปสรรคผ่านความเสียสละ พรหมวิหารความเมตตา โดนกระทบกระทั่งโดนเหยียบโดนย่ำสารพัดอย่าง ให้เราทำตัวทำใจเหมือนกับแผ่นดินเหมือนกับแผ่นน้ำ ใครจะเหยียบจะย่ำเราก็ไม่ได้บ่น ใครจะถมน้ำมูกคูดน้ำลายใส่เราก็ไม่ได้ไปโกรธไปเกลียด ท่านถึงบอกให้ทำดินทำใจเหมือนกับแผ่นดินเหมือนกับแผ่นน้ำ ก่อนที่จะทำใจเหมือนกับแผ่นดินแผ่นน้ำได้ เราก็ต้องขัดเกลากิเลสออกจากใจของเรา มองโลกในทางที่ดี คิดดีทำดีจนมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมดา จนดับความเกิดได้นั่นแหละ ดับความเกิดทางด้านวิญญาณ คลายความหลงดับความเกิด ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมดจด

ไม่ต้องไปเที่ยวให้คนอื่นเขารู้ เรารู้เรา เราแก้ไขเรามองเห็นหนทางเดิน นอกนั้นก็มีตั้งแต่ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันยังประโยชน์ให้อยู่ดีมีความสุข ก็ต้องพยายามนะ ทุกวิญญาณก็เดิน​ก็มีความปรารถนาที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางครับ ไม่อยากจะไปเคาะ ไปเกาะไปแกะไปติดพันอยู่จุดใดจุดหนึ่ง แต่ความหลงความไม่รู้ เขาถึงไปหลงหลงเกิด หลงเกิดแล้วก็หลงยึดอันโน้นบ้างอันนี้บ้างสารพัดอย่าง​กว่าจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน เราเดินทีละเล็กทีละน้อยด้วยความเพียรด้วยสติด้วยปัญญาธรรมจะรักษาเรา สติสมาธิปัญญาเขาก็จะรักษาเรา เราต้องทำความเข้าใจกับเขาก่อนแล้วก็ละกิเลสออกจากใจของเรา เราละกิเลสได้มากเท่าไรใจของเราก็ยิ่งสะอาด เราดับความเกิดได้มากเท่าไรใจของเราก็ยิ่งนิ่ง พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน อย่าลืมนะพระเรารวมพลังกันไปช่วยกันเอาดินเข้าหลุมกลบ หลุมกลบบ่อตรงชานชาลาท่าน้ำทางฝั่งปางลีลา ช่วยกันไม่นานแป๊บเดียวก็เสร็จ เพราะว่าหลวงพ่อให้เอาดินมาเทเอาไว้เมื่อวานนี้สองคันรถ ช่วยกันเอาป๋องเอาจอบเอาเสียมไปตักไปช่วยกัน ให้ทั้งโยมทั้งพระทั้งชีใครว่างก็ไปช่วยกัน จะได้ไม่ ทางดินก็จะได้ไม่ได้ปิดกั้นถนนเอาไว้

เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสั่งสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง