หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 112
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 112
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว เราเข้ามาถึงวัดแล้วเราได้มาทำบุญได้มาถวายทาน แล้วเราก็รู้จักการเจริญสติทำความสงบให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา นั่งตามสบายวางกายให้สบายไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ให้เกิดความเคยชิน แม้แต่เรื่องการหายใจเข้าออกหายใจอย่างไรเราถึงจะรู้เท่าทัน หายใจอย่างไรเราถึงจะรู้ให้ต่อเนื่อง
เราพยายามหัดสังเกต หัดสร้างความรู้สึกรับรู้เวลาลมสัมผัสกระทบปลายจมูกของเรา ความรู้ตัวนี่แหละภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘รู้กาย’ ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ นั่งตามสบายนะไม่ต้องพนมมือวางกายให้สบายแล้วก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องไปคร่ำเคร่งไม่ต้องไปซีเรียสอะไร ฟังไปด้วยการน้อมการสำเหนียกการสร้างความรู้ตัว ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น
ความสงบนั่นแหละคือความปกติ ความปกตินั่นแหละก็คือบุญ ตัวบุญนะตัวใจ ใจปกติใจไม่ปรุงไม่แต่งใจไม่เกิดกิเลส ใจไม่ได้ปรุงแต่งส่งออกไปภายนอก แต่ความหลงนั้นเขามีมาตั้งนาน หลงเกิด เขามีมาตั้งนาน ถ้าเขาไม่หลงเขาคงไม่เกิด เขาเกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์แล้วก็มายึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน อัตตาตัวตนในขันธ์ห้าหลายชั้น เราต้องมาศึกษามาค้นคว้ามาทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ ด้วยการเจริญสติเข้าไปหมั่นพร่ำสอนใจหมั่นวิเคราะห์ใจของเราอยู่ตลอดเวลาให้เกิดความเคยชิน ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บจะรู้ปั๊บ เราก็ค่อยทำค่อยเป็นค่อยไป
ทุกคนก็ได้ปฏิบัติธรรมกันมาก่อน แล้วก็ปฏิบัติกันมาเรื่อยๆ อยู่ในระดับคงสมมติตั้งแต่เกิดนั่นแหละ จากเด็กเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ จากเด็กที่ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียนได้รับการอบรมจากพ่อจากแม่แล้วก็จากครูบาอาจารย์ ค่อยไต่เต้าขึ้นมามีการพัฒนามาเรื่อยๆ วันนี้ก็ได้มีคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศึกษาจากร้อยเอ็ด ได้พากันมาสร้างบุญสร้างตบะสร้างบารมีให้กับลูกศิษย์ลูกหา ครูบาอาจารย์ก็พากันพาลูกศิษย์ลูกหาพากันมาบำเพ็ญบุญบำเพ็ญบารมี ทั้งการทำบุญทั้งการให้ทาน ทั้งน้อมนำสติปัญญาให้มีให้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ลูกหา
นี่แหละเป็นผู้มีบุญได้เกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ในระดับหนึ่ง พ่อแม่ก็อบรมมาอยู่ในระดับหนึ่ง ทีนี้ก็ถึงกาลถึงเวลาครูบาอาจารย์ก็ช่วยอบรมช่วยขัดเกลา พามาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พามาศึกษามาค้นคว้ามาทำความเข้าใจ เพื่อที่จะเอาไปใช้เอาไปดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเราเอง ก็เป็นบุคคลที่โชคดีอยู่ในระดับหนึ่ง ทีนี้เราจะทำบุญให้กับตัวเราหรือไม่ แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเราว่าขณะนี้เรากำลังมีหน้าที่อย่างไร เราเป็นนักเรียน เรามีความตั้งใจเรียนมีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละกับตัวเราหรือไม่ เราได้ทำบุญกับตัวของเราหรือไม่ ทำบุญให้กับพ่อกับแม่กับพี่กับน้องกับเพื่อนกับครูบาอาจารย์ ก็ทำบุญให้กับตัวเรานั่นแหละ อานิสงส์ผลบุญก็จะส่งไพศาลแผ่ออกไปถึงพ่อถึงแม่ถึงครูบาอาจารย์ ก็พยายามพากันวิเคราะห์พิจารณา
ครูบาอาจารย์พ่อแม่ก็เป็นผู้นำบุญเป็นสะพาน พาทำพาสร้างพาแสวงพาทำให้มีให้เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเราว่าจะยังบุญให้เกิดขึ้นกับตัวของเราได้หรือไม่ ความขยันของเรามีเพียงพอหรือเปล่า เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีความรับผิดชอบหรือว่าเราไม่มีความรับผิดชอบ หรือว่าเรามีความเห็นแก่ตัว เราก็พยายามหมั่นวิเคราะห์หมั่นสังเกตหมั่นสำรวจหมั่นทำความเข้าใจ ยังประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้นที่กายที่ใจของเรา
กาลเวลา ทำปัจจุบันให้ดีอนาคตก็จะออกมาดี ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่มัวเมาเล่นสนุกสนาน เราพยายามสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเราอยู่ตลอดเวลา วันนี้เดือนนี้ปีหน้า เขาจะส่งผลให้เรา ขอให้เรามีความตั้งใจทำเถอะอย่าพากันประมาท ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่พยายามสร้างประโยชน์สร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น รู้จักวิเคราะห์รู้จักสำรวจรู้จักทำความเข้าใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูกตเวที ความเสียสละ ความอดทน มีสัจจะมีความจริงใจต่อตัวเราเอง ก็จะส่งผลถึงอนาคต
เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ปลูกผลหมากรากไม้ ถ้าเราหมั่นดูแลหมั่นให้น้ำให้ปุ๋ยหมั่นทำความเข้าใจ ถึงเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้ดอกได้ผลเราก็ได้ การประพฤติปฏิบัติกายวาจาใจของเราก็เหมือนกัน การเจริญสติลักษณะของสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างนี้ ความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง ความขยันหมั่นเพียรความเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ รู้จักฝักใฝ่รู้จักสนใจรู้จักยังให้มีให้เกิดขึ้น ถึงวาระเวลานี้ถึงเราจะยังมีความเพียรไม่เต็มที่ แต่คณะครูบาอาจารย์ก็พานำพา บำเพ็ญพาทำพาสร้างอะไรที่จะเป็นประโยชน์
ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านที่ไร่ที่นาที่โรงเรียน เรามีความเสียสละไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีความอิจฉาริษยา เราพยายาม ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเพิ่มความรักความสมัครสมานสามัคคีไม่เห็นแก่ตัว พยายามช่วยเหลือตัวเราให้ได้เสียก่อนก่อนจะล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่พี่สู่น้อง ถ้าเราช่วยเหลือตัวเราไม่ได้ใครล่ะจะมาช่วยเหลือเรา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เป็นบุคคลที่มีบุญ ได้ช่วยอนุเคราะห์เกื้อหนุนทุกวิถีทางที่จะนำพาลูกศิษย์ลูกหาให้ขึ้นสู่ที่สูง นอกจากตัวของเราจะช่วยตัวของเราให้ได้แล้ว เราก็จะได้ล้นออกไปช่วยเหลือคนอื่น
ก็พยายามนะ กาลเวลาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้พากันตั้งใจ เราทำดีเราก็ได้ทำบุญให้กับตัวเรา ทำบุญให้กับพ่อกับแม่ พ่อแม่ก็พลอยดีใจ กว่าลูกหลานจะเรียนจบได้พ่อแม่ลำบากหาเงินหาทองส่งเสียลูกหลานมา มีตั้งแต่ความสุขดีใจว่าลูกเราได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน ทีนี้ตัวของเรา เราช่วยตัวของเราในระดับหนึ่งได้แล้วหรือยัง มีความขยันหมั่นเพียรมีความประหยัด มีรู้จักมองเห็นเหตุเห็นผล เมื่อโตขึ้นมีความรับผิดชอบได้เต็มที่นั่นแหละ เราจะได้มองเห็นอานิสงส์ในสิ่งที่พวกเราทำ ในสิ่งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้พาดำเนิน พยายามพากันนะ
วันนี้ก็คณะอาจารย์ก็ได้พาลูกศิษย์ลูกหามาบำเพ็ญบุญมาทำจิตอาสากัน เพื่อจะได้ปลูกฝังในสิ่งที่ดีที่งามให้กับลูกศิษย์ลูกหา หลวงพ่อก็จะได้มอบภาระมอบหน้าที่ให้ท่านอาจารย์ต้าหรือว่าเจ้าคุณ ท่านได้ช่วยดูแล ให้ไปช่วยกันบำบัดบ่อขยะกำจัดขยะ ขยะที่เอาไปถมเอาไว้ที่อยู่ฝั่งทางน้ำตกตัวใหม่ ได้ทำบ่อขยะบ่อขยะเต็มแล้วก็จะได้เอาดินเข้าไปกลบ อันนี้เป็นการกำจัดเป็นการนั่นทำความสะอาด ระบบระเบียบภายนอกให้เป็นระเบียบ
ทีนี้ขยะภายใน ความโลภความโกรธ ความอยากความหลง เราก็ต้องมาเจริญสติเข้าไปหาเหตุหาผล วิเคราะห์ตามเหตุตามผล ในวันข้างหน้าพวกเราก็คงจะเข้าใจ ในวันนี้เรายังไม่เข้าใจเราก็พยายามทำความเสียสละในระดับของสมมติ ให้มีให้เกิดให้เป็นกิจวัตรประจำวันของเรา จะได้ติดตามเนื้อตามตัวของเราเป็นอุปนิสัย ติดตามตัวเราไปในวันข้างหน้า เราเดินปัญญาได้เมื่อไรเราก็จะมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเราดำเนินมา
หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนนะที่ได้มามีโอกาสได้มาจิตอาสากัน หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน การรับประทานข้าวปลาอาหารก็ไปที่โรงครัว มีอะไรก็ช่วยกันทำมีอะไรก็ช่วยกันดูแลกัน ก่อนที่จะรับประทานข้าวปลาอาหาร เราก็พยายามดูวิเคราะห์ใจของเราว่าเกิดความอยากหรือว่ากายของเราเกิดความหิว ถ้าใจเกิดความอยากก็รู้จักระงับยับยั้งรู้จักควบคุม ความอยากนั่นแหละเป็นต้นตอแห่งความทุกข์ เป็นต้นตอแห่งการเกิดภพเกิดชาติ แล้วก็ไปหลงไปยึด เขาเกิดอยู่ตรงไหนเราดับเราระงับเราควบคุม ควบคุมตั้งแต่ต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ
อะไรคือรูปอะไรคือนาม สักวันหนึ่งในวันข้างหน้าก็คงจะเข้าใจถ้ากำลังสติปัญญาของเราเข้มแข็งแก่กล้าขึ้น ก็ต้องพยายามหมั่นสร้างตบะสร้างบารมี หมั่นบำเพ็ญไปเรื่อยๆ ถ้าถึงกาลเวลา ดีไม่ดี โชคดีเราอาจจะไม่ได้กลับมาเกิดกัน เพราะว่าการเกิดทุกครั้งก็เป็นทุกข์ ไม่ว่าเกิดทางกายเนื้อหรือว่าเกิดทางด้านจิตทางด้านวิญญาณ ในหลักธรรมคือความไม่เที่ยงเขาเรียกว่าเป็นทุกข์ เราต้องมองหาทุกข์ให้เจอ แล้วก็ดับทุกข์และทุกข์ให้ได้ ก็จะเข้าถึงบรมสุขคือความสะอาดความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างไปสานต่อนะ ไปทำความเข้าใจกัน
เราพยายามหัดสังเกต หัดสร้างความรู้สึกรับรู้เวลาลมสัมผัสกระทบปลายจมูกของเรา ความรู้ตัวนี่แหละภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘รู้กาย’ ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ นั่งตามสบายนะไม่ต้องพนมมือวางกายให้สบายแล้วก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องไปคร่ำเคร่งไม่ต้องไปซีเรียสอะไร ฟังไปด้วยการน้อมการสำเหนียกการสร้างความรู้ตัว ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น
ความสงบนั่นแหละคือความปกติ ความปกตินั่นแหละก็คือบุญ ตัวบุญนะตัวใจ ใจปกติใจไม่ปรุงไม่แต่งใจไม่เกิดกิเลส ใจไม่ได้ปรุงแต่งส่งออกไปภายนอก แต่ความหลงนั้นเขามีมาตั้งนาน หลงเกิด เขามีมาตั้งนาน ถ้าเขาไม่หลงเขาคงไม่เกิด เขาเกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์แล้วก็มายึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน อัตตาตัวตนในขันธ์ห้าหลายชั้น เราต้องมาศึกษามาค้นคว้ามาทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ ด้วยการเจริญสติเข้าไปหมั่นพร่ำสอนใจหมั่นวิเคราะห์ใจของเราอยู่ตลอดเวลาให้เกิดความเคยชิน ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บจะรู้ปั๊บ เราก็ค่อยทำค่อยเป็นค่อยไป
ทุกคนก็ได้ปฏิบัติธรรมกันมาก่อน แล้วก็ปฏิบัติกันมาเรื่อยๆ อยู่ในระดับคงสมมติตั้งแต่เกิดนั่นแหละ จากเด็กเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ จากเด็กที่ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียนได้รับการอบรมจากพ่อจากแม่แล้วก็จากครูบาอาจารย์ ค่อยไต่เต้าขึ้นมามีการพัฒนามาเรื่อยๆ วันนี้ก็ได้มีคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนสตรีศึกษาจากร้อยเอ็ด ได้พากันมาสร้างบุญสร้างตบะสร้างบารมีให้กับลูกศิษย์ลูกหา ครูบาอาจารย์ก็พากันพาลูกศิษย์ลูกหาพากันมาบำเพ็ญบุญบำเพ็ญบารมี ทั้งการทำบุญทั้งการให้ทาน ทั้งน้อมนำสติปัญญาให้มีให้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ลูกหา
นี่แหละเป็นผู้มีบุญได้เกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ในระดับหนึ่ง พ่อแม่ก็อบรมมาอยู่ในระดับหนึ่ง ทีนี้ก็ถึงกาลถึงเวลาครูบาอาจารย์ก็ช่วยอบรมช่วยขัดเกลา พามาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พามาศึกษามาค้นคว้ามาทำความเข้าใจ เพื่อที่จะเอาไปใช้เอาไปดำเนินชีวิตประจำวันของตัวเราเอง ก็เป็นบุคคลที่โชคดีอยู่ในระดับหนึ่ง ทีนี้เราจะทำบุญให้กับตัวเราหรือไม่ แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเราว่าขณะนี้เรากำลังมีหน้าที่อย่างไร เราเป็นนักเรียน เรามีความตั้งใจเรียนมีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละกับตัวเราหรือไม่ เราได้ทำบุญกับตัวของเราหรือไม่ ทำบุญให้กับพ่อกับแม่กับพี่กับน้องกับเพื่อนกับครูบาอาจารย์ ก็ทำบุญให้กับตัวเรานั่นแหละ อานิสงส์ผลบุญก็จะส่งไพศาลแผ่ออกไปถึงพ่อถึงแม่ถึงครูบาอาจารย์ ก็พยายามพากันวิเคราะห์พิจารณา
ครูบาอาจารย์พ่อแม่ก็เป็นผู้นำบุญเป็นสะพาน พาทำพาสร้างพาแสวงพาทำให้มีให้เกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับตัวของพวกเราว่าจะยังบุญให้เกิดขึ้นกับตัวของเราได้หรือไม่ ความขยันของเรามีเพียงพอหรือเปล่า เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีความรับผิดชอบหรือว่าเราไม่มีความรับผิดชอบ หรือว่าเรามีความเห็นแก่ตัว เราก็พยายามหมั่นวิเคราะห์หมั่นสังเกตหมั่นสำรวจหมั่นทำความเข้าใจ ยังประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้นที่กายที่ใจของเรา
กาลเวลา ทำปัจจุบันให้ดีอนาคตก็จะออกมาดี ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่มัวเมาเล่นสนุกสนาน เราพยายามสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเราอยู่ตลอดเวลา วันนี้เดือนนี้ปีหน้า เขาจะส่งผลให้เรา ขอให้เรามีความตั้งใจทำเถอะอย่าพากันประมาท ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่พยายามสร้างประโยชน์สร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น รู้จักวิเคราะห์รู้จักสำรวจรู้จักทำความเข้าใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูกตเวที ความเสียสละ ความอดทน มีสัจจะมีความจริงใจต่อตัวเราเอง ก็จะส่งผลถึงอนาคต
เหมือนกับเราปลูกต้นไม้ปลูกผลหมากรากไม้ ถ้าเราหมั่นดูแลหมั่นให้น้ำให้ปุ๋ยหมั่นทำความเข้าใจ ถึงเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้ดอกได้ผลเราก็ได้ การประพฤติปฏิบัติกายวาจาใจของเราก็เหมือนกัน การเจริญสติลักษณะของสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างนี้ ความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง ความขยันหมั่นเพียรความเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ รู้จักฝักใฝ่รู้จักสนใจรู้จักยังให้มีให้เกิดขึ้น ถึงวาระเวลานี้ถึงเราจะยังมีความเพียรไม่เต็มที่ แต่คณะครูบาอาจารย์ก็พานำพา บำเพ็ญพาทำพาสร้างอะไรที่จะเป็นประโยชน์
ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านที่ไร่ที่นาที่โรงเรียน เรามีความเสียสละไม่เห็นแก่ตัว ไม่มีความอิจฉาริษยา เราพยายาม ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งเพิ่มความรักความสมัครสมานสามัคคีไม่เห็นแก่ตัว พยายามช่วยเหลือตัวเราให้ได้เสียก่อนก่อนจะล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่พี่สู่น้อง ถ้าเราช่วยเหลือตัวเราไม่ได้ใครล่ะจะมาช่วยเหลือเรา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ก็เป็นบุคคลที่มีบุญ ได้ช่วยอนุเคราะห์เกื้อหนุนทุกวิถีทางที่จะนำพาลูกศิษย์ลูกหาให้ขึ้นสู่ที่สูง นอกจากตัวของเราจะช่วยตัวของเราให้ได้แล้ว เราก็จะได้ล้นออกไปช่วยเหลือคนอื่น
ก็พยายามนะ กาลเวลาก็จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ให้พากันตั้งใจ เราทำดีเราก็ได้ทำบุญให้กับตัวเรา ทำบุญให้กับพ่อกับแม่ พ่อแม่ก็พลอยดีใจ กว่าลูกหลานจะเรียนจบได้พ่อแม่ลำบากหาเงินหาทองส่งเสียลูกหลานมา มีตั้งแต่ความสุขดีใจว่าลูกเราได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน ทีนี้ตัวของเรา เราช่วยตัวของเราในระดับหนึ่งได้แล้วหรือยัง มีความขยันหมั่นเพียรมีความประหยัด มีรู้จักมองเห็นเหตุเห็นผล เมื่อโตขึ้นมีความรับผิดชอบได้เต็มที่นั่นแหละ เราจะได้มองเห็นอานิสงส์ในสิ่งที่พวกเราทำ ในสิ่งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้พาดำเนิน พยายามพากันนะ
วันนี้ก็คณะอาจารย์ก็ได้พาลูกศิษย์ลูกหามาบำเพ็ญบุญมาทำจิตอาสากัน เพื่อจะได้ปลูกฝังในสิ่งที่ดีที่งามให้กับลูกศิษย์ลูกหา หลวงพ่อก็จะได้มอบภาระมอบหน้าที่ให้ท่านอาจารย์ต้าหรือว่าเจ้าคุณ ท่านได้ช่วยดูแล ให้ไปช่วยกันบำบัดบ่อขยะกำจัดขยะ ขยะที่เอาไปถมเอาไว้ที่อยู่ฝั่งทางน้ำตกตัวใหม่ ได้ทำบ่อขยะบ่อขยะเต็มแล้วก็จะได้เอาดินเข้าไปกลบ อันนี้เป็นการกำจัดเป็นการนั่นทำความสะอาด ระบบระเบียบภายนอกให้เป็นระเบียบ
ทีนี้ขยะภายใน ความโลภความโกรธ ความอยากความหลง เราก็ต้องมาเจริญสติเข้าไปหาเหตุหาผล วิเคราะห์ตามเหตุตามผล ในวันข้างหน้าพวกเราก็คงจะเข้าใจ ในวันนี้เรายังไม่เข้าใจเราก็พยายามทำความเสียสละในระดับของสมมติ ให้มีให้เกิดให้เป็นกิจวัตรประจำวันของเรา จะได้ติดตามเนื้อตามตัวของเราเป็นอุปนิสัย ติดตามตัวเราไปในวันข้างหน้า เราเดินปัญญาได้เมื่อไรเราก็จะมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่พวกเราดำเนินมา
หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนนะที่ได้มามีโอกาสได้มาจิตอาสากัน หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน การรับประทานข้าวปลาอาหารก็ไปที่โรงครัว มีอะไรก็ช่วยกันทำมีอะไรก็ช่วยกันดูแลกัน ก่อนที่จะรับประทานข้าวปลาอาหาร เราก็พยายามดูวิเคราะห์ใจของเราว่าเกิดความอยากหรือว่ากายของเราเกิดความหิว ถ้าใจเกิดความอยากก็รู้จักระงับยับยั้งรู้จักควบคุม ความอยากนั่นแหละเป็นต้นตอแห่งความทุกข์ เป็นต้นตอแห่งการเกิดภพเกิดชาติ แล้วก็ไปหลงไปยึด เขาเกิดอยู่ตรงไหนเราดับเราระงับเราควบคุม ควบคุมตั้งแต่ต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ
อะไรคือรูปอะไรคือนาม สักวันหนึ่งในวันข้างหน้าก็คงจะเข้าใจถ้ากำลังสติปัญญาของเราเข้มแข็งแก่กล้าขึ้น ก็ต้องพยายามหมั่นสร้างตบะสร้างบารมี หมั่นบำเพ็ญไปเรื่อยๆ ถ้าถึงกาลเวลา ดีไม่ดี โชคดีเราอาจจะไม่ได้กลับมาเกิดกัน เพราะว่าการเกิดทุกครั้งก็เป็นทุกข์ ไม่ว่าเกิดทางกายเนื้อหรือว่าเกิดทางด้านจิตทางด้านวิญญาณ ในหลักธรรมคือความไม่เที่ยงเขาเรียกว่าเป็นทุกข์ เราต้องมองหาทุกข์ให้เจอ แล้วก็ดับทุกข์และทุกข์ให้ได้ ก็จะเข้าถึงบรมสุขคือความสะอาดความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างไปสานต่อนะ ไปทำความเข้าใจกัน