หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 109

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 109
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 109
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่จนกระทั่งถึงเวลานี้ พวกท่านได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง พวกท่านได้วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของตัวเองแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ เพียงแค่การสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา ซึ่งก็มีกันทุกคนหยุดก็ไม่ได้หยุดก็คือตาย

ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็ยังไม่เคยสำรวจให้ต่อเนื่อง เราพยายามสร้างความรู้สึกรับรู้ให้ต่อเนื่อง แล้วก็วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจ วิเคราะห์ทุกอย่างวิเคราะห์ชีวิตของตัวเราให้รู้แจ้งเห็นจริง ทำไมใจของเราถึงเกิดทำไมใจของเราถึงหลง ในความหลงนั้นหลงอะไร เราต้องมาสร้างสติเข้าไปหาเหตุหาผล ใจกับอาการของใจซึ่งเป็นส่วนนามธรรมเขารวมกันอยู่ ใจกับอาการของขันธ์ห้า ในขันธ์ห้าในอัตภาพร่างกายของเรานี้ ทำไมเราถึงไปหลงไปยึด

ทำไมพระพุทธองค์ท่านถึงบอกว่าเป็นอนิจจังความไม่เที่ยง เป็นทุกขังเป็นอนัตตามีแต่ความว่างเปล่า แต่ตาเนื้อของเราก็มองเห็นเป็นรูปร่างอยู่ ทำไมมันตรงกันข้ามกับคำสอนของพระพุทธองค์ นี่แหละ เราต้องหาเหตุหาผลให้รู้แจ้งเห็นจริง ที่พระพุทธองค์ท่านบอกว่าอัตตาอนัตตาหมายถึงตัววิญญาณนั่นแหละ​ คือปล่อยวาง ปล่อยวางทำใจให้สะอาดให้บริสุทธิ์แล้วก็ว่าง ความว่างนั่นก็คือหลักของอนัตตา แต่อัตตาก็มีอยู่ท่านต้องให้ทำความเข้าใจกับคำว่าอัตตา ทำอย่างไรเราถึงจะรู้คำว่าอัตตาเห็นอัตตา รู้อัตตารู้อนัตตา

เราต้องมาเจริญสติเข้าไปรู้ตัววิญญาณในขันธ์ห้าของเรา รู้อาการของวิญญาณ รู้การเกิดรู้การดับ จนกว่าตัววิญญาณจะคลายออกจากอาการของวิญญาณแล้วก็คลายออกจากขันธ์ห้าของเรา ก็อยู่ด้วยกันนั่นแหละแต่เขาก็คลายออก เราก็รู้เห็นด้วยสติด้วยปัญญา มองเห็นเหตุเห็นผล ใจของเราถึงจะโปร่งถึงจะวางได้ ถ้ายังไม่คลายขันธ์ห้าก็เพียงแค่ได้ควบคุมอยู่ในความสงบ ถ้าใจยังไม่พลิก ยังแยกรูปแยกนามไม่ได้ก็อยู่ในกองบุญกองกุศล

เรามาศึกษาดูให้ละเอียดตามคำสอนของพระพุทธองค์ รู้ด้วยเห็นด้วยเข้าถึงด้วยหมดความสงสัยได้ด้วยนั่นแหละ เราก็จะไม่เสียทีเสียเที่ยวที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มองเห็นหนทางเดินทะลุปรุโปร่งว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิด อะไรเป็นกุศลหรือว่าอะไรเป็นอกุศล​ อะไรอะไรควรละ​อะไรควรเจริญ ก็ต้องพยายามกันไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี มีกายเนื้อมีอาการสามสิบสองครบบริบูรณ์ ถ้าเราไม่วิเคราะห์เราไม่มีใครจะวิเคราะห์ให้เราได้หรอกนอกจากตัวของเราเอง

ส่วนการทำบุญให้ทานการสร้างอานิสงส์ระดับของสมมติ เรามีโอกาสได้ทำร่วมกันได้ทำช่วยกัน แต่การชำระสะสางกิเลส การชำระจิตใจให้สะอาดให้บริสุทธิ์เป็นเรื่องของบุคคล เราไม่เข้าใจแนวทาง เราไม่เข้าใจวิธี วิธีนั้นพระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบมาตั้งหลายร้อยหลายพันปีแล้ว ให้รู้ด้วยเห็นด้วย แล้วเข้าถึงคำสอน น้อมนำคำสอนของท่านมาปรากฏขึ้นที่ใจของเรา

ท่านสอนคำว่า ‘หลักของอริยสัจ’ อะไรคืออริยสัจ ใจส่งออกไปภายนอกเป็นอย่างไร ขันธ์ห้าที่ว่าเป็นกองเป็นขันธ์น่ะ อะไรคือกองอะไรคือขันธ์ อะไรส่วนกองของรูปอะไรกองของนาม มันต้องรู้ต้องเห็น อะไรคือสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน เป็นลักษณะอย่างไร รู้ไม่ทันต้นเหตุเรารู้จักดับรู้จักควบคุมคลายออกให้มันหมด ส่วนมากจะไม่ค่อยจะคลายมีตั้งแต่หาสิ่งเข้าไปทับถมดวงใจดวงวิญญาณของตัวเอง แม้แต่ตัววิญญาณเขาก็ปกปิดตัวของเขา เขาก็ไม่อยากจะเผยตัวของเขา เขายังชอบเกิดชอบเที่ยวอยู่ยังเป็นทาสของอารมณ์อยู่ ถ้ากำลังสติไม่แหลมคมจริงๆ หาเหตุหาผลไม่ทะลุปรุโปร่งจริงๆ ก็ยากที่เขาจะยอมจำนน

ถ้ากำลังสติปัญญาของเราแหลมคมหาเหตุหาผล รู้ต้นเหตุต้นสายปลายเหตุ จนใจของเรามองเห็นความเป็นจริงนั่นแหละเขาจะยอมจำนน เขาจะปล่อยเขาจะวางเขาจะคลาย เป็นความถ้าเกิดความอยาก ความอยากเป็นทุกข์เขาก็ไม่เอา ความเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บมันได้ปั๊บ เพียงแค่การเจริญสติก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ พลั้งเผลอเสียส่วนมาก ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาสติต่อเนื่องกันได้สักคืบสักศอก สัก 50 20 เที่ยว 30 เที่ยวหรือไม่

ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน การควบคุมจิตควบคุมตั้งแต่ต้นเหตุกลางเหตุ หรือว่าออกมาทางกายทางวาจา ทุกเรื่องในชีวิตเราต้องพยายามเข้าให้ถึงต้นเหตุเสียก่อน รู้ตั้งแต่ฐานการเกิดเราจะละได้ ทำความเข้าใจได้หมดจดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา กิเลสหยาบกิเลสละเอียดก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา แต่ส่วนมากก็มีตั้งแต่ไม่ยอมคลายออกให้มันหมดมันก็เลยไม่เข้าถึงตัวใจที่แท้จริง

วิธีการคลายนั่นก็คือการเจริญพรหมวิหาร การชำระสะสางกิเลส การสร้างตบะสร้างบารมีให้มีให้เกิดขึ้น จิตใจของเรามีความแข็งกระด้างเราก็พยายามละความแข็งกระด้าง จิตใจของเรามีความไม่อ่อนโยนเราก็สร้างความอ่อนโยน มองโลกในทางที่ดี คิดดีทำดี สักวันหนึ่งเราคงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน รู้จักขยันหมั่นเพียรบอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น ไปอยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุขอยู่ หลายคนก็มีความสุข อานิสงส์บุญอานิสงส์ผลบุญผลทานของเรา​ระดับสมมติวิมุตติ ศีลสมาธิปัญญา ลักษณะของศีลสมาธิปัญญา ลักษณะของทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร วิญญาณทำหน้าที่อย่างไร เราต้องศึกษาให้ละเอียด อย่าพากันทิ้งนะพยายามพากันทำ

ส่วนพระเราวันนี้ก็ขอกำลังหน่อยนะ ขอกำลังช่วยกันทำบ่อขยะให้เสร็จหน่อยอยู่ที่น้ำตกใหม่ พยายามช่วยไปช่วยกันทำสร้างบ่อขยะเป็นที่เก็บขยะจะได้เป็นระเบียบเรียบร้อย คนเรานี่รักสะอาดแต่ชอบสกปรกทิ้งมันเกลื่อนทั่วไป ต้องตามเก็บตามเช็ดทุกอย่าง เราพยายามกำจัดขยะกำจัดความสกปรกแล้วเราไม่อยากจะได้ความสะอาด ความสะอาดก็ได้เอง การชำระใจก็เหมือนกัน เราละกิเลสได้หมดจดเราไม่อยากจะให้ใจสะอาดมันก็สะอาด เราดับความเกิด เพียงแค่ดับแค่ควบคุมนี่มันยังไม่คลายนะ เพียงแค่ปกปิดเอาไว้มันยังคว่ำอยู่ ถ้าใจของเราแยกออกจากอาการของความคิดละกิเลสออกให้มันหมดนั่นแหละ ก็จะมองเห็นความเป็นจริงให้เป็นอิสระ

ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีความทะเยอทะยานอยากเป็นอย่างไร ขันธ์ห้าหรือว่าความคิดที่ไม่ตั้งใจคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งจิตได้อย่างไร มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เราต้องศึกษาให้ละเอียดหมดความสงสัย อยู่กับสมมติอย่างมีความสุข ถึงเวลาแล้วก็เราก็ต้องได้วางกายของเรา ได้ไว้กับโลกสมมติกลับคืนสู่สภาพเดิมคือ​ดินน้ำลมไฟของเขา ตัววิญญาณนี่ก็เข้าสู่ความสะอาดความบริสุทธิ์

เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง