หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 101
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 101
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเรา ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้งอย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ทุกลมหายใจเข้าออกมีคุณค่ามากมายมหาศาล อยู่คนเดียวเราก็พยายามวิเคราะห์หาเหตุหาผลทำความเข้าใจ อยู่หลายคน เราก็รู้ใจของเรารู้กายของเรา แล้วก็รู้จักหน้าที่รู้จักรับผิดชอบต่อตัวเรา ชีวิตของเราก็จะไม่ทุกข์เท่าไร
กายของเรานี้เป็นก้อนทุกข์ แต่ด้านจิตใจของเราก็จะได้ไม่ทุกข์มากมายเท่าไร เราก็พยายามหมั่นอบรมใจของเรา สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละพยายามสร้างขึ้นมา เรารู้แล้วจะเอาไปใช้เอาไปควบคุมใจไปอบรมใจ ไปหาเหตุหาผลจนกว่าใจจะยอมรับความเป็นจริงหรือว่าแยกรูปแยกนามได้ คลายออกจากขันธ์ห้าได้ ดับความเกิดได้ละกิเลสได้ แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง ถ้าเราไม่สอนเราไม่มีใครจะสอนเราให้ได้ให้ได้เลยนอกจากตัวของเรา
การทำบุญการให้ทานทุกคนมีเป็นพื้นฐาน ตั้งแต่ภพก่อนๆ มาจนถึงภพปัจจุบัน ถ้าไม่มีการทำบุญให้ทาน การสร้างอานิสงส์สร้างบารมีมาก็คงจะไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็พยายามมาสร้างสานต่อ ขณะที่ยังมีลมหายใจขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่ อย่าไปโทษคนอื่นอย่าไปเพ่งโทษคนอื่น จงโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา อย่าไปโทษคนโน้นเป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ อันนี้เกิดจากใจของเราทั้งนั้น อย่าไปคิดว่าคนโน้นจะคิดกับเราอย่างนั้น คนนั้นจะคิดกับเราอย่างนี้ อันนั้นเรื่องของคนอื่น เราจะไปห้ามคนอื่นเขาคิดไม่ได้ส่วนของเขาก็ส่วนของเขา ส่วนของเราก็ส่วนของเรา เรามาดับที่เราเรามาแก้ไขที่เรา
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ก็ล้วนแต่เป็นอาจารย์คอยเป็นสิ่งทดสอบเรา เรามีสติปัญญาคอยวิเคราะห์ใจของเราว่าใจของเราจะเกิดกิเลสหรือไม่ ใจของเราจะเกิดความหลงหรือไม่ เราก็จะได้ฟังธรรม ดีชั่วก็เป็นธรรม ธรรมฝ่ายดำธรรมฝ่ายขาว ละฝ่ายดำเสียเจริญฝ่ายขาว แต่ไม่หลงไม่ยึดให้อยู่เหนือทั้งสองอย่างคืออยู่เหนือบุญเหนือบาป เราก็จะอยู่เราก็จะได้อยู่ ใจของเราก็จะอยู่กับบุญแต่เราไม่ยึดติดในบุญ
บุญก็คือความสบายใจความบริสุทธิ์ของใจ ความบริสุทธิ์มากบริสุทธิ์น้อยเราก็ต้องพยายามหมั่นขัดเกลาให้ถึงสภาวะเดิมของใจ สภาวะเดิมของใจนั้นเขาไม่มีอะไรหรอก เขามีตั้งแต่ความสะอาดความบริสุทธิ์ เขาหลงเขาถึงได้เกิด เพียงแค่การเกิดนั่นแหละคือความหลงถึงไม่ได้ยึดถึงไม่ได้เป็นทาสของกิเลส เราถึงได้มาละกิเลสจากกิเลสหยาบกิเลสละเอียด มาคลายความหลงแล้วก็มาดับความเกิด
ใหม่ๆ เรารู้ไม่ทันตั้งแต่ต้นเหตุ มันก็ดับปลายเหตุกลางเหตุจนถึงต้นเหตุ ดับต้นเหตุไม่ได้ก็ไม่ให้ออกทางกายทางวาจา พยายามหมั่นขัดเกลาอยู่บ่อยๆ อยู่ตลอดเวลา แล้วก็ทำในสิ่งตรงกันข้าม ใจของเรามีความฝักใฝ่มีความเสียสละในการทำบุญในการให้ทาน ก็เปลี่ยนมาเป็นเอาสติปัญญาของเราไปทำหน้าที่แทน แล้วก็หมั่นอบรมใจให้ใจอยู่ในความสะอาด ให้ใจอยู่ในความสงบ อยู่ในกายของเรานี่แหละไม่มีอะไรมากมายหรอก อยู่ในขันธ์ห้าของเรา ขันธ์ห้าของเราซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครองแล้วก็มาหลงมายึด เรามาจำแนกแจกแจงขันธ์ห้าให้ละเอียด แล้วก็มาจำแนกแจกแจงพวกนิวรณธรรมมลทินต่างๆ ออกจากใจของเรา พยายามเอานะ
การได้ยินได้ฟังได้อ่านการได้ศึกษาค้นคว้าทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ทุกคนมีจิตใจที่ฝักใฝ่ในบุญในกุศล อยากจะได้ไม่ได้ดั่งใจก็เป็นทุกข์ ได้ดั่งใจก็เป็นทุกข์ ดีใจเสียใจเพราะว่าใจของเราไม่อยู่ในความเป็นกลางอยู่ในความว่าง ให้มองโลกในทางที่ดีแล้วก็คิดดี คนโน้นทำไมเป็นอย่างนี้ คนนี้ทำไมเป็นอย่างนั้น ก็ใจของเราคิดไปทั้งนั้น เราพยายามดับพยายามละ ให้มองเห็นเป็นธรรมดา ธรรมดาธรรมชาติของโลกธรรมก็เป็นอย่างนั้น ถ้าเขารู้เขาคงไม่ทำ ถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ทำเพราะว่าความหลงยังครอบงำอยู่ อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ
แต่ในหลักธรรมแล้วจริงๆ แล้วเราต้องคลายใจออกมาแล้วก็ดับความเกิดของใจอีก เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ฟังก็สักแต่ว่าฟัง แต่ถ้าเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ก็เป็นเรื่องของปัญญาล้วนๆ แม้แต่ตัวใจเราก็ต้องดับความเกิด แม้แต่สติปัญญาถ้าเป็นอกุศลเราก็ยังให้ดับอีกให้ละอีก เป็นสิ่งละเอียดอ่อน หลายสิ่งหลายอย่างเราต้องศึกษาให้ละเอียด เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่เป็นธรรม ธรรมฝ่ายดีธรรมฝ่ายไม่ดี ธรรมฝ่ายกุศลหรือว่าธรรมฝ่ายอกุศล บางคนบางท่านก็สร้างมาดี บางคนบางท่านก็สร้างมาน้อย บางคนบางท่านก็รู้เร็วบางคนบางท่านก็รู้ช้า เราจะไปบังคับกันไม่ได้เลย เพราะว่าวิบากกรรมของแต่ละบุคคลสร้างมาไม่เหมือนกัน เราพอช่วยกันได้เราก็ช่วยกันอนุเคราะห์กัน ช่วยไม่ได้เราก็อุเบกขาไม่ช้ำเติม ก็พยายามกันนะ
เพราะว่าทุกดวงจิตดวงวิญญาณแต่ละดวงนี่ต้องการปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น เพื่อที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ว่าวิญญาณน้อยๆ จนกระทั่งถึงวิญญาณใหญ่เราก็ต้องพยายาม ถ้านั่นไม่ได้ก็ยกให้เป็นวิบากของกรรม เพราะว่าคนเราเกิดมาด้วยกรรม เรามาทำความเข้าใจกับกรรมเสีย ขันธ์ห้านี่แหละเป็นก้อนกรรม ตัวใจไปหลงไปเกิดแล้วก็อาการของใจก็มาปรุงแต่งใจหมุนเป็นวงกลม ถ้าเราแยกได้ก็ตัดวงกลม ทำความเข้าใจไม่ให้สืบสานต่อไป
ถ้ายังตัดไม่ได้ก็เป็นวงกลมอยู่อย่างนั้นแหละ หมุนเกิดกันทั้งเกิดด้วยหลงด้วย เกิดด้วยหลงด้วยวนเวียนอยู่ แต่พอถ้าถึงยังละไม่ได้เด็ดขาดก็ขอให้อยู่ในกุศลกรรม ให้อยู่ในกรรมดีให้อยู่ในฝ่ายดีก็จะไปสู่ที่มีความสุข ไม่ต้องไปทนทุกข์ทรมาน ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
กายของเรานี้เป็นก้อนทุกข์ แต่ด้านจิตใจของเราก็จะได้ไม่ทุกข์มากมายเท่าไร เราก็พยายามหมั่นอบรมใจของเรา สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละพยายามสร้างขึ้นมา เรารู้แล้วจะเอาไปใช้เอาไปควบคุมใจไปอบรมใจ ไปหาเหตุหาผลจนกว่าใจจะยอมรับความเป็นจริงหรือว่าแยกรูปแยกนามได้ คลายออกจากขันธ์ห้าได้ ดับความเกิดได้ละกิเลสได้ แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง ถ้าเราไม่สอนเราไม่มีใครจะสอนเราให้ได้ให้ได้เลยนอกจากตัวของเรา
การทำบุญการให้ทานทุกคนมีเป็นพื้นฐาน ตั้งแต่ภพก่อนๆ มาจนถึงภพปัจจุบัน ถ้าไม่มีการทำบุญให้ทาน การสร้างอานิสงส์สร้างบารมีมาก็คงจะไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในเมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็พยายามมาสร้างสานต่อ ขณะที่ยังมีลมหายใจขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่ อย่าไปโทษคนอื่นอย่าไปเพ่งโทษคนอื่น จงโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา อย่าไปโทษคนโน้นเป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ อันนี้เกิดจากใจของเราทั้งนั้น อย่าไปคิดว่าคนโน้นจะคิดกับเราอย่างนั้น คนนั้นจะคิดกับเราอย่างนี้ อันนั้นเรื่องของคนอื่น เราจะไปห้ามคนอื่นเขาคิดไม่ได้ส่วนของเขาก็ส่วนของเขา ส่วนของเราก็ส่วนของเรา เรามาดับที่เราเรามาแก้ไขที่เรา
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ก็ล้วนแต่เป็นอาจารย์คอยเป็นสิ่งทดสอบเรา เรามีสติปัญญาคอยวิเคราะห์ใจของเราว่าใจของเราจะเกิดกิเลสหรือไม่ ใจของเราจะเกิดความหลงหรือไม่ เราก็จะได้ฟังธรรม ดีชั่วก็เป็นธรรม ธรรมฝ่ายดำธรรมฝ่ายขาว ละฝ่ายดำเสียเจริญฝ่ายขาว แต่ไม่หลงไม่ยึดให้อยู่เหนือทั้งสองอย่างคืออยู่เหนือบุญเหนือบาป เราก็จะอยู่เราก็จะได้อยู่ ใจของเราก็จะอยู่กับบุญแต่เราไม่ยึดติดในบุญ
บุญก็คือความสบายใจความบริสุทธิ์ของใจ ความบริสุทธิ์มากบริสุทธิ์น้อยเราก็ต้องพยายามหมั่นขัดเกลาให้ถึงสภาวะเดิมของใจ สภาวะเดิมของใจนั้นเขาไม่มีอะไรหรอก เขามีตั้งแต่ความสะอาดความบริสุทธิ์ เขาหลงเขาถึงได้เกิด เพียงแค่การเกิดนั่นแหละคือความหลงถึงไม่ได้ยึดถึงไม่ได้เป็นทาสของกิเลส เราถึงได้มาละกิเลสจากกิเลสหยาบกิเลสละเอียด มาคลายความหลงแล้วก็มาดับความเกิด
ใหม่ๆ เรารู้ไม่ทันตั้งแต่ต้นเหตุ มันก็ดับปลายเหตุกลางเหตุจนถึงต้นเหตุ ดับต้นเหตุไม่ได้ก็ไม่ให้ออกทางกายทางวาจา พยายามหมั่นขัดเกลาอยู่บ่อยๆ อยู่ตลอดเวลา แล้วก็ทำในสิ่งตรงกันข้าม ใจของเรามีความฝักใฝ่มีความเสียสละในการทำบุญในการให้ทาน ก็เปลี่ยนมาเป็นเอาสติปัญญาของเราไปทำหน้าที่แทน แล้วก็หมั่นอบรมใจให้ใจอยู่ในความสะอาด ให้ใจอยู่ในความสงบ อยู่ในกายของเรานี่แหละไม่มีอะไรมากมายหรอก อยู่ในขันธ์ห้าของเรา ขันธ์ห้าของเราซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครองแล้วก็มาหลงมายึด เรามาจำแนกแจกแจงขันธ์ห้าให้ละเอียด แล้วก็มาจำแนกแจกแจงพวกนิวรณธรรมมลทินต่างๆ ออกจากใจของเรา พยายามเอานะ
การได้ยินได้ฟังได้อ่านการได้ศึกษาค้นคว้าทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ทุกคนมีจิตใจที่ฝักใฝ่ในบุญในกุศล อยากจะได้ไม่ได้ดั่งใจก็เป็นทุกข์ ได้ดั่งใจก็เป็นทุกข์ ดีใจเสียใจเพราะว่าใจของเราไม่อยู่ในความเป็นกลางอยู่ในความว่าง ให้มองโลกในทางที่ดีแล้วก็คิดดี คนโน้นทำไมเป็นอย่างนี้ คนนี้ทำไมเป็นอย่างนั้น ก็ใจของเราคิดไปทั้งนั้น เราพยายามดับพยายามละ ให้มองเห็นเป็นธรรมดา ธรรมดาธรรมชาติของโลกธรรมก็เป็นอย่างนั้น ถ้าเขารู้เขาคงไม่ทำ ถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ทำเพราะว่าความหลงยังครอบงำอยู่ อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ
แต่ในหลักธรรมแล้วจริงๆ แล้วเราต้องคลายใจออกมาแล้วก็ดับความเกิดของใจอีก เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ฟังก็สักแต่ว่าฟัง แต่ถ้าเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ก็เป็นเรื่องของปัญญาล้วนๆ แม้แต่ตัวใจเราก็ต้องดับความเกิด แม้แต่สติปัญญาถ้าเป็นอกุศลเราก็ยังให้ดับอีกให้ละอีก เป็นสิ่งละเอียดอ่อน หลายสิ่งหลายอย่างเราต้องศึกษาให้ละเอียด เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่เป็นธรรม ธรรมฝ่ายดีธรรมฝ่ายไม่ดี ธรรมฝ่ายกุศลหรือว่าธรรมฝ่ายอกุศล บางคนบางท่านก็สร้างมาดี บางคนบางท่านก็สร้างมาน้อย บางคนบางท่านก็รู้เร็วบางคนบางท่านก็รู้ช้า เราจะไปบังคับกันไม่ได้เลย เพราะว่าวิบากกรรมของแต่ละบุคคลสร้างมาไม่เหมือนกัน เราพอช่วยกันได้เราก็ช่วยกันอนุเคราะห์กัน ช่วยไม่ได้เราก็อุเบกขาไม่ช้ำเติม ก็พยายามกันนะ
เพราะว่าทุกดวงจิตดวงวิญญาณแต่ละดวงนี่ต้องการปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น เพื่อที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ว่าวิญญาณน้อยๆ จนกระทั่งถึงวิญญาณใหญ่เราก็ต้องพยายาม ถ้านั่นไม่ได้ก็ยกให้เป็นวิบากของกรรม เพราะว่าคนเราเกิดมาด้วยกรรม เรามาทำความเข้าใจกับกรรมเสีย ขันธ์ห้านี่แหละเป็นก้อนกรรม ตัวใจไปหลงไปเกิดแล้วก็อาการของใจก็มาปรุงแต่งใจหมุนเป็นวงกลม ถ้าเราแยกได้ก็ตัดวงกลม ทำความเข้าใจไม่ให้สืบสานต่อไป
ถ้ายังตัดไม่ได้ก็เป็นวงกลมอยู่อย่างนั้นแหละ หมุนเกิดกันทั้งเกิดด้วยหลงด้วย เกิดด้วยหลงด้วยวนเวียนอยู่ แต่พอถ้าถึงยังละไม่ได้เด็ดขาดก็ขอให้อยู่ในกุศลกรรม ให้อยู่ในกรรมดีให้อยู่ในฝ่ายดีก็จะไปสู่ที่มีความสุข ไม่ต้องไปทนทุกข์ทรมาน ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา