หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 040
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 040
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน แล้วก็มีความรู้สึกให้ต่อเนื่อง อันนี้เป็นการสร้างความรู้ตัว ถ้าเราเข้าใจรู้จักวิธีรู้จักแนวทาง เราพยายามรู้กายรู้ใจเราตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่
ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง มองเห็นหนทางเดินของตัวเรา อย่าไปปล่อยปละละเลย ทุกลมหายใจเข้าออกมีค่ามากมายมหาศาล กายของเราเป็นขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ถ้าเราไม่ศึกษากายศึกษาใจของเรา เราก็ไม่เข้าใจในชีวิตของเรา การทำบุญการให้ทานทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ศรัทธาทุกคนก็มีกันพร้อม แต่ต้องเป็นศรัทธาประกอบด้วยปัญญา ปัญญาต้องเป็นปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ไม่ใช่ว่าปัญญาของโลกิยะ ปัญญาของโลกุตระ ปัญญาของพระพุทธเจ้าที่ท่านได้ค้นพบเอามาเปิดเผย แล้วพวกเราต้องเดินตามให้รู้ ให้มีให้เกิดให้เห็นขึ้นในกายในใจของเรา
ไม่ใช่ว่าศรัทธาแบบไม่มีปัญญาอันนี้ก็ดับทุกข์ไม่ได้ ถ้าปัญญาถ้าไม่ใช่ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนาอันนี้ก็ดับทุกข์ไม่ได้อีก มันก็ต้องประกอบกันให้ถูกต้องหมดทุกอย่างตามความเป็นจริง ท่านว่ากายของเราเป็นของหนัก ขันธ์ห้าของเราเป็นของหนัก เรารู้ตั้งแต่ชื่อของเขาแต่เราขาดการจำแนกแจกแจง ขาดการแยกแยะ
ความรู้ตัว ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ต่อเนื่องอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร ส่วนสมอง ส่วนสติปัญญา ส่วนใจ ลักษณะของใจ การเกิดการดับของใจของความคิดของอารมณ์ อยากจะปล่อย อยากจะวางแต่เราไม่รู้จุดปล่อยจุดวางเราก็วางไม่ได้ เราต้องพยายามศึกษาค้นคว้า เจริญสติเข้าไปหาเหตุหาผล เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล การชำระสะสางกิเลสของเรา การควบคุมจิต ควบคุมอารมณ์ การปล่อยการวาง ปากร้องอยากจะปล่อยอยากจะวาง มันก็วางไม่ได้หรอกถ้าเราไม่ได้เจริญสติเข้าไปรู้ลักษณะการเกิดการดับ รู้การแยกการคลาย การทำความเข้าใจ แล้วก็ละ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียร
กาย ขันธ์ห้าของเราประกอบขึ้นมาด้วยอะไร ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง บางคนบางท่านก็เรียกวิญญาณ บางคนบางท่านก็เรียกว่าใจ แนวทางมีอยู่เราก็ต้องพยายามฝึกฝนตนเอง ขัดเกลาตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าสมมติวิมุตติ ไม่ใช่วิ่งไปให้คนโน้นเขาสอนคนนี้เขาสอน เราสอนเรา ขณะนี้ใจของเราเป็นอย่างไร มีความสงบมีความปกติ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ใจของเราไม่มีกิเลส ใจของเราปราศจากความยึดมั่นถือมั่น เขาหลงเขาถึงได้เกิด เพียงแค่การคิดนั่นก็เกิดแล้ว หลงแล้วหลงเกิด ยังไม่ได้รวมเข้าไปกับอาการของขันธ์ห้าอีก ยังไม่ไปรวมกับพวกกิเลสหยาบกิเลสละเอียดอีก
เพียงแค่การปรุงการแต่ง การเกิด มันก็ไม่เที่ยงแล้ว เราต้องเจริญสติเข้าไปหมั่นอบรมหมั่นพร่ำสอน หาเหตุหาผล ตามดูรู้ให้เขารู้เห็นตามความเป็นจริงทุกอย่าง แล้วก็รู้จักละกิเลสดับความเกิดให้มันหมดจด ได้ทีละเล็กทีละน้อยก็ยังดี สร้างอานิสงส์สร้างตบะบารมีให้มีให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความจริงใจกับตัวเรา การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อมมันถึงจะเกิดประโยชน์ ไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวโทษคนโน้นเที่ยวโทษคนนี้ สิ่งโน้นนสิ่งนี้ เราต้องแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา เป็นที่พึ่งของตัวเราให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น จนล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่สังคม อยู่ที่ไหนเราก็จะมีความสุข มันต้องประกอบกันด้วยความเสมอภาค
ความรู้ตัวไม่มีเราต้องสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักประคับประคอง รู้จักควบคุมจิตควบคุมอารมณ์ ต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ หาเหตุหาผล หมดความสงสัยหมดความลังเล มีตั้งแต่ความเพียรทั้งกลางวันทั้งกลางคืน จนเป็นธรรมชาติในการดูในการรู้ในการทำความเข้าใจ มีอะไรเราก็ช่วยกัน ไม่ว่าจะหนักจะเบา หนักก็ไม่เอาเบาก็ไม่สู้ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก ลำบากตัวเราเป็นภาระให้ตัวเอง เป็นภาระให้คนอื่น ถ้าเรามีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรเราก็ช่วยกันจากหนักก็เป็นเบา จากเบาก็แทบจะไม่มี ประโยชน์สมมติก็เต็มเปี่ยม การกระทำของเราถึงพร้อมเราไม่อยากจะได้รับประโยชน์ เราก็ได้รับประโยชน์จนล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะ สู่พี่สู่น้อง สู่สังคม
ในหลักธรรมนั้นแม้แต่ความอยากแม้แต่นิดเดียวท่านก็ให้ละ อยากมีอยากเป็น อยากไป ไม่อยากอีก เพราะว่าการเกิดของเขาก็มีอยู่ การเกิดวิญญาณทั้งอยาก ทั้งอยากทั้งไม่อยากมันก็หลงอยู่ จนกระทั่งเราอยู่ในความเป็นกลาง คลายหรือว่าเดินปัญญาแยกรูปแยกนาม ตามดู กำลังสติของเรามีมากเท่าไร เห็นเหตุเห็นผล ตามดูรู้เห็นตามความเป็นจริงแล้วค่อยละออก ยิ่งฝึกไปเท่าไรยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไรก็ยิ่งทำความเข้าใจ
ยิ่งพระเราชีเรามีโอกาสได้เข้ามาศึกษาเข้ามาค้นคว้า เราก็ต้องพยายามเพิ่มความเพียรเป็นทวีคูณ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหนต้องให้ใจของเราสะอาดบริสุทธิ์สงบ ปราศจากกิเลสด้วยสติด้วยปัญญา ยืนเดินนั่งนอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ ก็ต้องพยายามกันนะ เพียงแค่ความรู้ตัวความรู้สึกตัวพวกเราก็ยังสร้างไม่ต่อเนื่องทั้งที่ใจก็เป็นบุญนั่นแหละ ก็ต้องพยายาม
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง พักสักระยะหนึ่ง พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ
ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง มองเห็นหนทางเดินของตัวเรา อย่าไปปล่อยปละละเลย ทุกลมหายใจเข้าออกมีค่ามากมายมหาศาล กายของเราเป็นขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ถ้าเราไม่ศึกษากายศึกษาใจของเรา เราก็ไม่เข้าใจในชีวิตของเรา การทำบุญการให้ทานทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ศรัทธาทุกคนก็มีกันพร้อม แต่ต้องเป็นศรัทธาประกอบด้วยปัญญา ปัญญาต้องเป็นปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ไม่ใช่ว่าปัญญาของโลกิยะ ปัญญาของโลกุตระ ปัญญาของพระพุทธเจ้าที่ท่านได้ค้นพบเอามาเปิดเผย แล้วพวกเราต้องเดินตามให้รู้ ให้มีให้เกิดให้เห็นขึ้นในกายในใจของเรา
ไม่ใช่ว่าศรัทธาแบบไม่มีปัญญาอันนี้ก็ดับทุกข์ไม่ได้ ถ้าปัญญาถ้าไม่ใช่ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนาอันนี้ก็ดับทุกข์ไม่ได้อีก มันก็ต้องประกอบกันให้ถูกต้องหมดทุกอย่างตามความเป็นจริง ท่านว่ากายของเราเป็นของหนัก ขันธ์ห้าของเราเป็นของหนัก เรารู้ตั้งแต่ชื่อของเขาแต่เราขาดการจำแนกแจกแจง ขาดการแยกแยะ
ความรู้ตัว ความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ต่อเนื่องอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร ส่วนสมอง ส่วนสติปัญญา ส่วนใจ ลักษณะของใจ การเกิดการดับของใจของความคิดของอารมณ์ อยากจะปล่อย อยากจะวางแต่เราไม่รู้จุดปล่อยจุดวางเราก็วางไม่ได้ เราต้องพยายามศึกษาค้นคว้า เจริญสติเข้าไปหาเหตุหาผล เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล การชำระสะสางกิเลสของเรา การควบคุมจิต ควบคุมอารมณ์ การปล่อยการวาง ปากร้องอยากจะปล่อยอยากจะวาง มันก็วางไม่ได้หรอกถ้าเราไม่ได้เจริญสติเข้าไปรู้ลักษณะการเกิดการดับ รู้การแยกการคลาย การทำความเข้าใจ แล้วก็ละ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียร
กาย ขันธ์ห้าของเราประกอบขึ้นมาด้วยอะไร ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง บางคนบางท่านก็เรียกวิญญาณ บางคนบางท่านก็เรียกว่าใจ แนวทางมีอยู่เราก็ต้องพยายามฝึกฝนตนเอง ขัดเกลาตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าสมมติวิมุตติ ไม่ใช่วิ่งไปให้คนโน้นเขาสอนคนนี้เขาสอน เราสอนเรา ขณะนี้ใจของเราเป็นอย่างไร มีความสงบมีความปกติ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน ใจของเราไม่มีกิเลส ใจของเราปราศจากความยึดมั่นถือมั่น เขาหลงเขาถึงได้เกิด เพียงแค่การคิดนั่นก็เกิดแล้ว หลงแล้วหลงเกิด ยังไม่ได้รวมเข้าไปกับอาการของขันธ์ห้าอีก ยังไม่ไปรวมกับพวกกิเลสหยาบกิเลสละเอียดอีก
เพียงแค่การปรุงการแต่ง การเกิด มันก็ไม่เที่ยงแล้ว เราต้องเจริญสติเข้าไปหมั่นอบรมหมั่นพร่ำสอน หาเหตุหาผล ตามดูรู้ให้เขารู้เห็นตามความเป็นจริงทุกอย่าง แล้วก็รู้จักละกิเลสดับความเกิดให้มันหมดจด ได้ทีละเล็กทีละน้อยก็ยังดี สร้างอานิสงส์สร้างตบะบารมีให้มีให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความจริงใจกับตัวเรา การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อมมันถึงจะเกิดประโยชน์ ไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวโทษคนโน้นเที่ยวโทษคนนี้ สิ่งโน้นนสิ่งนี้ เราต้องแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา เป็นที่พึ่งของตัวเราให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น จนล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่สังคม อยู่ที่ไหนเราก็จะมีความสุข มันต้องประกอบกันด้วยความเสมอภาค
ความรู้ตัวไม่มีเราต้องสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักประคับประคอง รู้จักควบคุมจิตควบคุมอารมณ์ ต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ หาเหตุหาผล หมดความสงสัยหมดความลังเล มีตั้งแต่ความเพียรทั้งกลางวันทั้งกลางคืน จนเป็นธรรมชาติในการดูในการรู้ในการทำความเข้าใจ มีอะไรเราก็ช่วยกัน ไม่ว่าจะหนักจะเบา หนักก็ไม่เอาเบาก็ไม่สู้ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก ลำบากตัวเราเป็นภาระให้ตัวเอง เป็นภาระให้คนอื่น ถ้าเรามีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรเราก็ช่วยกันจากหนักก็เป็นเบา จากเบาก็แทบจะไม่มี ประโยชน์สมมติก็เต็มเปี่ยม การกระทำของเราถึงพร้อมเราไม่อยากจะได้รับประโยชน์ เราก็ได้รับประโยชน์จนล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะ สู่พี่สู่น้อง สู่สังคม
ในหลักธรรมนั้นแม้แต่ความอยากแม้แต่นิดเดียวท่านก็ให้ละ อยากมีอยากเป็น อยากไป ไม่อยากอีก เพราะว่าการเกิดของเขาก็มีอยู่ การเกิดวิญญาณทั้งอยาก ทั้งอยากทั้งไม่อยากมันก็หลงอยู่ จนกระทั่งเราอยู่ในความเป็นกลาง คลายหรือว่าเดินปัญญาแยกรูปแยกนาม ตามดู กำลังสติของเรามีมากเท่าไร เห็นเหตุเห็นผล ตามดูรู้เห็นตามความเป็นจริงแล้วค่อยละออก ยิ่งฝึกไปเท่าไรยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไรก็ยิ่งทำความเข้าใจ
ยิ่งพระเราชีเรามีโอกาสได้เข้ามาศึกษาเข้ามาค้นคว้า เราก็ต้องพยายามเพิ่มความเพียรเป็นทวีคูณ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหนต้องให้ใจของเราสะอาดบริสุทธิ์สงบ ปราศจากกิเลสด้วยสติด้วยปัญญา ยืนเดินนั่งนอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ ก็ต้องพยายามกันนะ เพียงแค่ความรู้ตัวความรู้สึกตัวพวกเราก็ยังสร้างไม่ต่อเนื่องทั้งที่ใจก็เป็นบุญนั่นแหละ ก็ต้องพยายาม
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง พักสักระยะหนึ่ง พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ