หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 039
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 039
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง หรือว่าอยากเอาตั้งแต่บุญ อยากได้ตั้งแต่บุญอยากทำตั้งแต่บุญอย่างเดียว ความอยากนั่นแหละเป็นต้นเหตุของความทุกข์ เรามาเจริญสติเข้าไปจัดการกับความอยากเสีย เข้าไปหยุดระงับยับยั้ง ควบคุมความอยาก แล้วก็สังเกตวิเคราะห์ใจกับกาย ใจกับอาการของใจ
ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเถอะนะ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้งเสียดายเวลา ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ต้องพยายามพิจารณากายพิจารณาใจของตัวเราเองอยู่ตลอดเวลาให้เป็นความเคยชิน อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลา เวลาโน้นจะทำเวลานี้จะทำ ทุกลมหายใจเข้าออกมีค่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียว เรารีบแก้ไขรีบปรับปรุง มองหาหนทางเดิน
วิธีแนวทางนั้นหลวงพ่อก็เล่าให้ฟังทุกวัน เล่าให้ฟังทุกวัน ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของพวกท่านว่าจะพากันไปทำไปสร้างให้มีให้เกิดขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะไปโทษคนโน้นไปโทษคนนี้ อันนั้นเป็นวิสัยของคนพาลที่จะไปโทษตั้งแต่ภายนอก เราต้องโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา แล้วก็เพิ่มความขยันหมั่นเพียรละความเกียจคร้าน เพิ่มความรับผิดชอบให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา ไปอยู่ที่ไหนเราก็จะมีตั้งแต่ความสุข ไม่ว่าอยู่คนเดียวอยู่หลายคน อยู่น้อยคนเราก็มีความสุข อยู่หลายคนเราก็มีความสุข
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันมากๆ เยอะๆ ไม่ว่าคนละทิศละที่ละทาง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ อยู่ใกล้อยู่ไกล มีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกัน ปรารถนาทุกชีวิตก็ปรารถนาหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ก็น้อมกายของเราเข้ามา เข้ามา ณ สถานที่แห่งนี้ก็เพื่อที่จะมาศึกษาชีวิตของเรา มีโอกาส โอกาสได้เปิดให้กับทุกคน แต่ก่อนที่จะเข้าถึงภายในได้เราก็ต้องศึกษาเราให้ละเอียดว่าจริตนิสัยของเราเป็นอย่างไร มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความแข็งกระด้าง มีความเสียสละ รู้จักควบคุมกายควบคุมวาจาควบคุมใจของตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลย
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันหลายๆ คน หลายๆ ท่าน ก็รู้จักพยายามให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้จักสำรวมกายอินทรีย์ของเรา ก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิด ในคำพูดของเรานั้นทำให้คนอื่นลำบากหรือไม่ ทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือไม่ ตัวเราเดือดร้อนหรือไม่ เราก็ต้องหัดวิเคราะห์ ทุกคนทุกชีวิตก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น แสวงหา ในเมื่อน้อมกายเข้ามา เราพอช่วยเหลือกันได้เราก็ช่วยเหลือกัน
ยิ่งคนอยู่ในวัดนี่เป็นบุคคลที่สำคัญ เราก็มาค่อยประคับประคองช่วยเหลือกัน ไม่ใช่ว่าจะไปพูดจาก้าวร้าวพูดจาไม่ดี เราต้องพยายาม เพียงแค่คำพูดคำจาของเราก็ทำให้จิตของคนเป็นทุกข์ เราก็พยายามแก้ไขไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ก็ค่อยพิจารณา พอช่วยเหลือคนอื่นได้ก็ช่วยเหลือ พอประคับประคองได้เราก็ประคับประคอง ทั้งเราด้วยทั้งชำระสะสางกิเลสภายในของเราด้วยช่วยเหลือคนอื่นด้วย
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน หลายพ่อหลายแม่ หลายพี่หลายน้อง เราก็เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันนั่นแหละ มีอะไรผิดพลาดเราก็รีบแก้ไขเสีย อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง อย่าพากันไปสร้างสะสมในสิ่งที่ไม่ดี เราพยายามสร้างคุณงามความดีใส่กายใส่ใจของเรา แล้วก็ล้นออกไปสู่พี่สู่น้อง สู่คนอื่น ก็ต้องพยายามทุกอย่าง
ภายในสถานที่แห่งนี้ ใครก้าวเข้ามาก็พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเรา ทั้งทางโรงครัวด้วย ยิ่งทางโรงครัวนี่เป็นงานที่หนักเลยทีเดียว งานที่หนักตั้งแต่เช้ายันค่ำ ช่วยกันดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีอะไรก็ให้ช่วยกันจากหนักก็จะเป็นเบา บางทีก็คร่ำเคร่ง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บางทีก็คนมามากบ้างมาน้อยบ้าง บางคนก็หิวโหยมา เราก็อนุเคราะห์ให้ซึ่งกันและกัน อย่าไปปิดกั้นให้เป็นโรงทานใหญ่ ให้เป็นโรงทานใหญ่
บางทีญาติโยมไปๆ มาๆ บางทีก็ไม่ได้ทานข้าว บางทีหิวมาก็มี เราก็พออนุเคราะห์กันได้ เราก็พออนุเคราะห์ คนที่มาอยู่มาทานก็รู้จักช่วยเหลือตัวเอง แล้วก็รู้จักทำความสะอาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ใช่ว่ามีอยู่มีกินแล้วจะกินทิ้งกินขว้างทิ้งไปทั่ว ไม่รู้จักช่วยเหลือไม่รู้จักรักษาดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้ครัวเป็นสิ่งที่หนักของคนที่อยู่ เราก็ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเราแล้วก็ช่วยเหลือคนอื่น แล้วก็รู้จักมีความรับผิดชอบ
คนที่อยู่ครัวต้องเป็นบุคคลที่ใจกว้าง ต้องเป็นบุคคลที่ใจกว้าง ก่อนที่จะเป็นโรงครัวใหญ่ ก่อนที่จะเป็นโรงทานใหญ่ได้ก็ลำบากมาไม่รู้กี่ปี ไม่รู้กี่ปี ตั้ง 20-30 ปี ลำบากมา ทุกที่นั่นแหละในสถานที่ตรงนี้ ความลำบากของหลวงพ่อนี่มีมากเลยทีเดียว ที่พยายามทำให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข แม้ตั้งแต่ศาลาวิหารที่พวกท่านนั่งอยู่นี้แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้หรอก
หลวงพ่อก็ต้องพยายามมาขุดดินถมดินทั้งกลางวันทั้งกลางคืน อากาศก็หนาว กลางคืนก็ทำอยู่คนเดียวนั่นแหละ ก็เพื่อที่จะให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข พวกเรามานั่งอยู่ดีมีความสุขก็ยังจะมาพากันปล่อยปละละเลย ทุกที่แม้แต่ต้นไม้แทบทุกต้น หลวงพ่อก็ขวนขวายพยายามหามาปลูกมาสร้าง น้ำอยู่ไกลก็หามารด จนเป็นป่าน่าอาศัยน่ารื่นรมย์ ด้วยอาศัยแรงความเสียสละของรุ่นต่อรุ่น พวกเรามาก็พากันมาสร้างมาสานต่อ อย่าพากันมาทำลาย มาทำให้เป็นอานิสงส์ใหญ่เป็นแหล่งบุญใหญ่ ไม่ใช่ว่ามาแล้วก็มาขวางอันโน้นขวางอันนี้ มาสร้างความเกียจคร้านให้ตัวเอง มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อย่างนั้นใช้การไม่ได้ ก็ต้องพยายามมาแก้ไขปรับปรุงตัวเรา
สมมติบริบูรณ์การประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสก็จะไปได้เร็วได้ไว อันโน้นก็ไม่เรียบร้อยอันนี้ก็ไม่เรียบร้อย การประพฤติปฏิบัติมันก็ลำบาก ที่พักที่อาศัยก็พอประทังไม่เหมือนกับสมัยก่อน สมัยก่อนนี่ลำบากลำบากมากทีเดียว แม้แต่น้ำจะดื่มจะใช้ก็ยังลำบาก แม้แต่ข้าวปลาอาหาร น้ำปูน้ำปลาจะทำกับข้าวกับปลานี่ก็แทบจะไม่มี ต้องอาศัยแม้แต่ถ้วยชามแม้แต่ถ้วยชามแท้ๆ นี่ยังขุดเอาจากหลุมศพไปไว้ใช้เพราะว่าความยากลำบาก
ทุกวันนี้ก็มีบริบูรณ์ เราก็รู้จักพากันดูแลรักษา ยังประโยชน์ให้เกิดให้มีให้มากที่สุด แล้วก็ประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสของเราให้เร็วให้ไว อย่าพากันประมาท ก่อนที่จะมาอยู่ดีมีความสุขได้ มีที่พักที่อยู่ที่อาศัย ที่หลับที่นอน ให้มีความสุขกันทุกคนก็ด้วยอาศัยอานิสงส์แรงบุญของทุกคนมา สะสมกาลเวลามาหลายปี ทำโน้นบ้างทำนี้บ้างก็เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาแล้วก็มีความสุข
พวกเราเข้ามาแล้วก็มาทำมาสร้างมาสานต่อ อย่าพากันงอมืองอเท้า อย่าพากันเห็นแก่ตัว อย่าพากันเกียจคร้าน อย่าพากันเห็นแก่อำนาจของความสะดวกสบาย เราสะดวกสบายแล้วเราพยายามเพิ่มความเพียร ละกิเลสภายในของเราให้หมดจด การละกิเลสขัดเกลาตัวเรามันจะไปได้เร็วไวขึ้น ทางโรงครัวนี่ก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน มีอะไรเราก็ช่วยกัน ทางโรงครัวของเราก็เป็นบุคคลที่จิตใจกว้าง ไม่ใช่ว่าอันโน้นก็ทำไม่ได้ อันนี้ใครไปแตะต้องก็ไม่ได้
เราก็ต้องพยายาม มีโอกาสเราก็ช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษา ช่วยกันสร้างประโยชน์ ปากท้องอิ่มหนำสำราญ การประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสก็จะตัดความกังวลไปได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านเราก็เหมือนกัน เข้ามาในวัดก็เหมือนกัน เข้ามาอยู่วัดแล้วก็มาห่วงโน่นห่วงนี่ก็ใช้การไม่ได้เหมือนกันนะ เราก็ต้องพยายาม พยายามช่วยกันทุกคนนั่นแหละ
หลวงพ่อไม่ใช่ว่าหลวงพ่อไม่มอง หลวงพ่อก็มองดูอยู่ทุกอย่างนั่นแหละ เว้นเสียแต่ว่าหลวงพ่อจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง ต้องเป็นบุคคลที่จิตใจกว้าง แล้วก็รู้จักอนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คนไปคนมาก็รู้จักช่วยกัน ไม่ใช่ว่ามาแล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนมาทำความลำบากให้กับคนอยู่ เรามาอาศัยสถานที่ตรงนี้อยู่ เราก็ต้องพยายามยังประโยชน์ให้เกิดให้มีขึ้น ไม่ใช่สมบัติของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดินเป็นสมบัติของทุกคน
หลวงพ่อก็มีโอกาสได้พาทำพายังสถานที่ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด การชำระสะสางกิเลสภายในเราก็ทำ ข้างนอกเราก็ยังประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเรามาแล้วก็มากอบโกย มีตั้งแต่ความเห็นแก่ตัว มาสร้างความหนักภาระให้ตัวเราให้คนอื่น อย่างนั้นใช้การไม่ได้ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเสียสละอย่างยิ่งยวด เสียสละภายในของเราให้เต็มเปี่ยม แล้วก็ล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่สังคม พยายามกันนะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี
วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ
ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเถอะนะ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้งเสียดายเวลา ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ต้องพยายามพิจารณากายพิจารณาใจของตัวเราเองอยู่ตลอดเวลาให้เป็นความเคยชิน อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลา เวลาโน้นจะทำเวลานี้จะทำ ทุกลมหายใจเข้าออกมีค่ามากมายมหาศาลเลยทีเดียว เรารีบแก้ไขรีบปรับปรุง มองหาหนทางเดิน
วิธีแนวทางนั้นหลวงพ่อก็เล่าให้ฟังทุกวัน เล่าให้ฟังทุกวัน ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของพวกท่านว่าจะพากันไปทำไปสร้างให้มีให้เกิดขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่ว่าจะไปโทษคนโน้นไปโทษคนนี้ อันนั้นเป็นวิสัยของคนพาลที่จะไปโทษตั้งแต่ภายนอก เราต้องโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา แล้วก็เพิ่มความขยันหมั่นเพียรละความเกียจคร้าน เพิ่มความรับผิดชอบให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา ไปอยู่ที่ไหนเราก็จะมีตั้งแต่ความสุข ไม่ว่าอยู่คนเดียวอยู่หลายคน อยู่น้อยคนเราก็มีความสุข อยู่หลายคนเราก็มีความสุข
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันมากๆ เยอะๆ ไม่ว่าคนละทิศละที่ละทาง ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ อยู่ใกล้อยู่ไกล มีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกัน ปรารถนาทุกชีวิตก็ปรารถนาหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ก็น้อมกายของเราเข้ามา เข้ามา ณ สถานที่แห่งนี้ก็เพื่อที่จะมาศึกษาชีวิตของเรา มีโอกาส โอกาสได้เปิดให้กับทุกคน แต่ก่อนที่จะเข้าถึงภายในได้เราก็ต้องศึกษาเราให้ละเอียดว่าจริตนิสัยของเราเป็นอย่างไร มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความแข็งกระด้าง มีความเสียสละ รู้จักควบคุมกายควบคุมวาจาควบคุมใจของตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าปล่อยปละละเลย
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันหลายๆ คน หลายๆ ท่าน ก็รู้จักพยายามให้อภัยซึ่งกันและกัน รู้จักสำรวมกายอินทรีย์ของเรา ก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิด ในคำพูดของเรานั้นทำให้คนอื่นลำบากหรือไม่ ทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือไม่ ตัวเราเดือดร้อนหรือไม่ เราก็ต้องหัดวิเคราะห์ ทุกคนทุกชีวิตก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น แสวงหา ในเมื่อน้อมกายเข้ามา เราพอช่วยเหลือกันได้เราก็ช่วยเหลือกัน
ยิ่งคนอยู่ในวัดนี่เป็นบุคคลที่สำคัญ เราก็มาค่อยประคับประคองช่วยเหลือกัน ไม่ใช่ว่าจะไปพูดจาก้าวร้าวพูดจาไม่ดี เราต้องพยายาม เพียงแค่คำพูดคำจาของเราก็ทำให้จิตของคนเป็นทุกข์ เราก็พยายามแก้ไขไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ก็ค่อยพิจารณา พอช่วยเหลือคนอื่นได้ก็ช่วยเหลือ พอประคับประคองได้เราก็ประคับประคอง ทั้งเราด้วยทั้งชำระสะสางกิเลสภายในของเราด้วยช่วยเหลือคนอื่นด้วย
ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน หลายพ่อหลายแม่ หลายพี่หลายน้อง เราก็เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันนั่นแหละ มีอะไรผิดพลาดเราก็รีบแก้ไขเสีย อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง อย่าพากันไปสร้างสะสมในสิ่งที่ไม่ดี เราพยายามสร้างคุณงามความดีใส่กายใส่ใจของเรา แล้วก็ล้นออกไปสู่พี่สู่น้อง สู่คนอื่น ก็ต้องพยายามทุกอย่าง
ภายในสถานที่แห่งนี้ ใครก้าวเข้ามาก็พยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเรา ทั้งทางโรงครัวด้วย ยิ่งทางโรงครัวนี่เป็นงานที่หนักเลยทีเดียว งานที่หนักตั้งแต่เช้ายันค่ำ ช่วยกันดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีอะไรก็ให้ช่วยกันจากหนักก็จะเป็นเบา บางทีก็คร่ำเคร่ง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน บางทีก็คนมามากบ้างมาน้อยบ้าง บางคนก็หิวโหยมา เราก็อนุเคราะห์ให้ซึ่งกันและกัน อย่าไปปิดกั้นให้เป็นโรงทานใหญ่ ให้เป็นโรงทานใหญ่
บางทีญาติโยมไปๆ มาๆ บางทีก็ไม่ได้ทานข้าว บางทีหิวมาก็มี เราก็พออนุเคราะห์กันได้ เราก็พออนุเคราะห์ คนที่มาอยู่มาทานก็รู้จักช่วยเหลือตัวเอง แล้วก็รู้จักทำความสะอาดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ใช่ว่ามีอยู่มีกินแล้วจะกินทิ้งกินขว้างทิ้งไปทั่ว ไม่รู้จักช่วยเหลือไม่รู้จักรักษาดูแลทำความสะอาด ก็ทำให้ครัวเป็นสิ่งที่หนักของคนที่อยู่ เราก็ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเราแล้วก็ช่วยเหลือคนอื่น แล้วก็รู้จักมีความรับผิดชอบ
คนที่อยู่ครัวต้องเป็นบุคคลที่ใจกว้าง ต้องเป็นบุคคลที่ใจกว้าง ก่อนที่จะเป็นโรงครัวใหญ่ ก่อนที่จะเป็นโรงทานใหญ่ได้ก็ลำบากมาไม่รู้กี่ปี ไม่รู้กี่ปี ตั้ง 20-30 ปี ลำบากมา ทุกที่นั่นแหละในสถานที่ตรงนี้ ความลำบากของหลวงพ่อนี่มีมากเลยทีเดียว ที่พยายามทำให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข แม้ตั้งแต่ศาลาวิหารที่พวกท่านนั่งอยู่นี้แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้หรอก
หลวงพ่อก็ต้องพยายามมาขุดดินถมดินทั้งกลางวันทั้งกลางคืน อากาศก็หนาว กลางคืนก็ทำอยู่คนเดียวนั่นแหละ ก็เพื่อที่จะให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข พวกเรามานั่งอยู่ดีมีความสุขก็ยังจะมาพากันปล่อยปละละเลย ทุกที่แม้แต่ต้นไม้แทบทุกต้น หลวงพ่อก็ขวนขวายพยายามหามาปลูกมาสร้าง น้ำอยู่ไกลก็หามารด จนเป็นป่าน่าอาศัยน่ารื่นรมย์ ด้วยอาศัยแรงความเสียสละของรุ่นต่อรุ่น พวกเรามาก็พากันมาสร้างมาสานต่อ อย่าพากันมาทำลาย มาทำให้เป็นอานิสงส์ใหญ่เป็นแหล่งบุญใหญ่ ไม่ใช่ว่ามาแล้วก็มาขวางอันโน้นขวางอันนี้ มาสร้างความเกียจคร้านให้ตัวเอง มาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น อย่างนั้นใช้การไม่ได้ ก็ต้องพยายามมาแก้ไขปรับปรุงตัวเรา
สมมติบริบูรณ์การประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสก็จะไปได้เร็วได้ไว อันโน้นก็ไม่เรียบร้อยอันนี้ก็ไม่เรียบร้อย การประพฤติปฏิบัติมันก็ลำบาก ที่พักที่อาศัยก็พอประทังไม่เหมือนกับสมัยก่อน สมัยก่อนนี่ลำบากลำบากมากทีเดียว แม้แต่น้ำจะดื่มจะใช้ก็ยังลำบาก แม้แต่ข้าวปลาอาหาร น้ำปูน้ำปลาจะทำกับข้าวกับปลานี่ก็แทบจะไม่มี ต้องอาศัยแม้แต่ถ้วยชามแม้แต่ถ้วยชามแท้ๆ นี่ยังขุดเอาจากหลุมศพไปไว้ใช้เพราะว่าความยากลำบาก
ทุกวันนี้ก็มีบริบูรณ์ เราก็รู้จักพากันดูแลรักษา ยังประโยชน์ให้เกิดให้มีให้มากที่สุด แล้วก็ประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสของเราให้เร็วให้ไว อย่าพากันประมาท ก่อนที่จะมาอยู่ดีมีความสุขได้ มีที่พักที่อยู่ที่อาศัย ที่หลับที่นอน ให้มีความสุขกันทุกคนก็ด้วยอาศัยอานิสงส์แรงบุญของทุกคนมา สะสมกาลเวลามาหลายปี ทำโน้นบ้างทำนี้บ้างก็เพื่อให้ทุกคนได้เข้ามาแล้วก็มีความสุข
พวกเราเข้ามาแล้วก็มาทำมาสร้างมาสานต่อ อย่าพากันงอมืองอเท้า อย่าพากันเห็นแก่ตัว อย่าพากันเกียจคร้าน อย่าพากันเห็นแก่อำนาจของความสะดวกสบาย เราสะดวกสบายแล้วเราพยายามเพิ่มความเพียร ละกิเลสภายในของเราให้หมดจด การละกิเลสขัดเกลาตัวเรามันจะไปได้เร็วไวขึ้น ทางโรงครัวนี่ก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน มีอะไรเราก็ช่วยกัน ทางโรงครัวของเราก็เป็นบุคคลที่จิตใจกว้าง ไม่ใช่ว่าอันโน้นก็ทำไม่ได้ อันนี้ใครไปแตะต้องก็ไม่ได้
เราก็ต้องพยายาม มีโอกาสเราก็ช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษา ช่วยกันสร้างประโยชน์ ปากท้องอิ่มหนำสำราญ การประพฤติปฏิบัติขัดเกลากิเลสก็จะตัดความกังวลไปได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ที่บ้านเราก็เหมือนกัน เข้ามาในวัดก็เหมือนกัน เข้ามาอยู่วัดแล้วก็มาห่วงโน่นห่วงนี่ก็ใช้การไม่ได้เหมือนกันนะ เราก็ต้องพยายาม พยายามช่วยกันทุกคนนั่นแหละ
หลวงพ่อไม่ใช่ว่าหลวงพ่อไม่มอง หลวงพ่อก็มองดูอยู่ทุกอย่างนั่นแหละ เว้นเสียแต่ว่าหลวงพ่อจะพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง ต้องเป็นบุคคลที่จิตใจกว้าง แล้วก็รู้จักอนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คนไปคนมาก็รู้จักช่วยกัน ไม่ใช่ว่ามาแล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนมาทำความลำบากให้กับคนอยู่ เรามาอาศัยสถานที่ตรงนี้อยู่ เราก็ต้องพยายามยังประโยชน์ให้เกิดให้มีขึ้น ไม่ใช่สมบัติของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดินเป็นสมบัติของทุกคน
หลวงพ่อก็มีโอกาสได้พาทำพายังสถานที่ตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด การชำระสะสางกิเลสภายในเราก็ทำ ข้างนอกเราก็ยังประโยชน์ให้มีให้เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเรามาแล้วก็มากอบโกย มีตั้งแต่ความเห็นแก่ตัว มาสร้างความหนักภาระให้ตัวเราให้คนอื่น อย่างนั้นใช้การไม่ได้ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเสียสละอย่างยิ่งยวด เสียสละภายในของเราให้เต็มเปี่ยม แล้วก็ล้นออกไปสู่หมู่สู่คณะสู่สังคม พยายามกันนะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี
วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ