หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 112
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 112
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงทำความสงบ สร้างความรู้สึกตัวให้เด่นชัดด้วยการสร้างความรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกของเรา หยุดคิด ดับความคิด ดับความกังวล ดับความฟุ้งซ่านต่างๆ ออกไปให้หมด แล้วก็สูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ถ้าเรามีความรู้ตัวทั่วพร้อม รู้เท่าทันจิตรู้เท่าทันความคิด เราก็หัดวิเคราะห์ตัวเราได้ ว่าการเกิดของจิต เขาส่งออกไปข้างนอกเรื่องอะไร เขาเกิดความกังวลเกิดความฟุ้งซ่านเรื่องอะไร เราควบคุมได้หรือไม่ ควบคุมได้ระดับต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ ขันธ์ห้าหรือว่าความคิดที่เราไม่ตั้งใจเข้ามาคิด เขาก่อตัวได้อย่างไร เราต้องหัดวิเคราะห์หัดสังเกต
ความรู้ตัวของเราพลั้งเผลอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่จิตของเราก็เป็นบุญอยู่ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราน้อมเข้าไปสำรวจจิตของเราแล้วหรือยัง จิตของเราส่งออกไปข้างนอกสักกี่เรื่อง เป็นเรื่องอะไร เรื่องอดีตเรื่องอนาคต หรือว่าเป็นกลางๆ สาเหตุที่ทำให้เขาเกิดเป็นอย่างไร เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิด หรือเกิดขึ้นจากตัวจิตโดยตรง
ต้องเป็นคนขยันหมั่นเพียร รู้จักรับผิดชอบ รู้จักขวนขวาย ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียร ตื่นตัว ขยันหมั่นเพียรทั้งงานภายนอกงานภายใน เพราะต่างฝ่ายต่างก็อาศัยกันอยู่ กายของเราก็อาศัยสมมติอยู่ จิตของเราก็อาศัยกายอยู่ แต่มาหลงมาลุ่มมายึดจนยากที่จะคลายออก นอกจากบุคคลที่มีอานิสงส์เพียงพอ มีบุญเพียงพอ แล้วก็มีการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง ที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ ถึงจะคลายความหลงอันลุ่มลึกออกไปได้ ถึงว่าเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’
แต่จิตทุกดวงก็มุ่งมั่นอยู่ในกองบุญอยู่ มีโอกาสก็พากันทำบุญ อย่าพากันทิ้ง พระเราก็ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบช่วยกัน งานหนักก็เป็นงานเบา วันนี้ก็พากันไปช่วยเอารากไผ่ออก อีกสักหน่อยหนึ่งก็คงจะหมด จะได้เอาต้นไม้มาลงเย็นนี้ให้เสร็จฝั่งทางนี้ไป โอกาสเราเสียสละทั้งกำลังกายกำลังใจ ช่วยกันทำให้เป็นแหล่งบุญแหล่งอานิสงส์ใหญ่ เป็นสิริมงคลใหญ่ให้กับทุกคน ให้กับเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดาทั้งหลายที่ได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ใกล้จะถึงวันเข้ามาแล้ว ก็เหลืออีกประมาณสัก 2 อาทิตย์กว่าๆ ก็จะได้เห็นองค์พระพุทธรูปใหญ่ หยกแม่กวนอิมใหญ่ ทุกคนก็มาร่วมแรงร่วมกายร่วมใจกันเท่าที่โอกาสอำนวยให้ ญาติโยมก็มาปราวณาตั้งโรงทานกันเยอะอยู่ 40-50 ท่าน ที่พากันมาตั้งโรงทาน กว่าจะถึงวันงานก็คงจะมาเพิ่มอีกเยอะ นี่แหละอนุภาพแห่งบุญ ไม่ให้อดไม่ให้อยากไม่ให้หิว มีตั้งแต่ความอิ่ม ความอิ่มความปีติความสุข
วันงานญาติโยมท่านใดมีโอกาส อยากจะเอาผลหมากรากไม้มาร่วมบูชา ตั้งโต๊ะบูชา บูชาระลึกนึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ระลึกนึกถึงคุณของเหล่าเทวดา ระลึกนึกถึงสถานที่ ตอบแทนบุญคุณสถานที่ เอามาบวงสรวงเอามาบูชาก็เอามาได้นะ เอามาได้ พวกกล้วยพวกอ้อยพวกผลหมากรากไม้ต่างๆ ก็คงจะเอามาตั้งโต๊ะขึ้นแท่นบูชา ก็ประมาณวันที่ 20 ก็คงจะเป็นวันที่ 20 ก็ใกล้แล้ว นี่แหละวันที่รอคอย ปีหนึ่งเต็มๆ วันที่ 21 เดือนธันวาคม ปีกลายนี่ก็ลงมือตัดตอไผ่ตัดต้นไผ่ ก็มาประจวบเหมาะกับวันที่ 21 ก็เป็นวันครบรอบที่องค์หลวงปู่ใหญ่จะเข้ามา 1 ปีเต็มๆ ช่วยกันทำ หนักทั้งกาย เพราะว่าความเสียสละ ผ่านกาลผ่านเวลา ผ่านร้อนผ่านหนาว จากหนักก็เป็นเบา จนเกือบจะสำเร็จ 100% ได้แกะสลักแม่กวนอิมเสร็จหมดเมื่อไหร่นั่นแหละ บริบูรณ์หมด เต็มอิ่ม ญาติโยมก็จะได้มากราบมาไหว้ มาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต มีพร้อมมูลหมดให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่พระบรมสารีริกธาตุก็ได้อัญเชิญส่วนที่ท่านเสด็จมา
วันที่ 12 หลวงพ่อก็คงจะได้ไปอัญเชิญส่วนที่จะได้มาประดิษฐาน ที่เก็บที่ได้ทำตลับเงินตลับทองตลับนาคซ้อนกันอยู่ เอาไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อที่จะมาบรรจุที่เกศขององค์พระพุทธรูป ซึ่งสร้างขึ้นมาแทนองค์พระองค์พุทธเจ้า มีโอกาสก็ได้มาร่วมกัน งานวันนั้นญาติโยมก็คงจะมาเยอะ ใครได้ยินข่าวได้ทราบข่าวก็มา พระเราก็ช่วยกันดูแลทำความสะอาด ปลูกต้นไม้ พวกชีเราก็เหมือนกัน
เดี๋ยววันที่ 11 หลวงพ่อก็จะได้ให้เอาต้นไม้มาอีก 50 กว่าต้น ให้พากันแบ่งกันไปปลูกตามที่ต่างๆ ตามกุฎิตามวิหาร ได้ต้นจันผามา ทางศาลาพักศพก็ให้หลวงตาสง่าท่านดูแล ช่วยกันนั่นแหละ พระทุกองค์ทุกรูปช่วยกันดูแลช่วยกันปลูกขึ้นมา
ภายใน 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ก็จะเป็นสถานที่น่าอยู่น่าอาศัยน่ารื่นรมย์ เดินไปที่ไหนก็หอมกรุ่นไปด้วยดอกจันผา หอมกรุ่นไปด้วยต้นวาสนา ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้นไม้ก็ให้ร่มเงาร่มรื่น พากันช่วยกันดูแลทำความสะอาดให้เป็นระเบียบ
ทุกคนก็มีระเบียบอยู่ในตัว ทุกคนก็มีข้อวัตรอยู่ในตัว ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นได้บังคับ เพราะว่าทุกคนก็ปรารถนาในทางดับทุกข์ในทางหลุดพ้น โตกันทุกคน ไม่จำเป็นต้องไปพูดมาก ไม่ต้องจำเป็นต้องไปบอกยากสอนยาก ถ้าบอกยากสอนยากก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ อย่าให้หมู่คณะได้ลำบาก มองดูรู้อะไรควรทำ อะไรควรละ นี่แหละถึงอยู่ด้วยกันเยอะๆ ก็มีความสุข ไม่ขัดแย้งกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ตำหนิไม่อคติไม่เพ่งโทษ
มีอะไรเราก็ช่วยกันได้ บอกกันได้ใช้กันได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ดูแลตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้ถูก อย่าให้ต้องได้บังคับเคี่ยวเข็ญเหมือนกับบางที่บางที่ อยู่ด้วยกันองค์สององค์ รูปสองรูปก็ไม่ถูกกัน ถ้ายิ่งอยู่ด้วยกันเยอะๆ ถ้าไม่มีความรักความสมัครสมานสามัคคี ผู้น้อยก็เชื่อฟังผู้ใหญ่ มีเหตุมีผล ผู้ใหญ่ก็เชื่อฟังผู้น้อย ต่างคนก็ต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน
เราอยู่ด้วยกันเหมือนพ่อเหมือนแม่ เหมือนพี่เหมือนน้อง เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องไปจ้ำจี้จ้ำไชอะไรมากมาย มีอะไรก็ช่วยกัน หลวงพ่อก็พยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสมมติภายนอกก็ให้ไม่ลำบากทุกสิ่งทุกอย่าง สภาพสภาวะร่างกายของหลวงพ่ออาจจะอ่อนแอลงไปเยอะ หลวงพ่อรู้ตัวของหลวงพ่อดี พยายามพากันช่วยกัน ตื่นเช้าพากันมาทำวัตรสวดมนต์ ไปบิณฑบาต ดูแลทำความสะอาด ให้เป็นหน้าที่กิจวัตรประจำวันของทุกคน อย่าพากันเกียจคร้าน ถ้าเกียจคร้านแล้วก็ อย่าให้ได้ตักเตือนหลายครั้ง หลวงพ่อก็เล่าให้ฟังอยู่ทุกวัน เราก็จะอยู่ดีมีความสุขกัน ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อเอา
ความรู้ตัวของเราพลั้งเผลอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่จิตของเราก็เป็นบุญอยู่ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราน้อมเข้าไปสำรวจจิตของเราแล้วหรือยัง จิตของเราส่งออกไปข้างนอกสักกี่เรื่อง เป็นเรื่องอะไร เรื่องอดีตเรื่องอนาคต หรือว่าเป็นกลางๆ สาเหตุที่ทำให้เขาเกิดเป็นอย่างไร เหตุจากภายนอกมาทำให้เกิด หรือเกิดขึ้นจากตัวจิตโดยตรง
ต้องเป็นคนขยันหมั่นเพียร รู้จักรับผิดชอบ รู้จักขวนขวาย ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียร ตื่นตัว ขยันหมั่นเพียรทั้งงานภายนอกงานภายใน เพราะต่างฝ่ายต่างก็อาศัยกันอยู่ กายของเราก็อาศัยสมมติอยู่ จิตของเราก็อาศัยกายอยู่ แต่มาหลงมาลุ่มมายึดจนยากที่จะคลายออก นอกจากบุคคลที่มีอานิสงส์เพียงพอ มีบุญเพียงพอ แล้วก็มีการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง ที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ ถึงจะคลายความหลงอันลุ่มลึกออกไปได้ ถึงว่าเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’
แต่จิตทุกดวงก็มุ่งมั่นอยู่ในกองบุญอยู่ มีโอกาสก็พากันทำบุญ อย่าพากันทิ้ง พระเราก็ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบช่วยกัน งานหนักก็เป็นงานเบา วันนี้ก็พากันไปช่วยเอารากไผ่ออก อีกสักหน่อยหนึ่งก็คงจะหมด จะได้เอาต้นไม้มาลงเย็นนี้ให้เสร็จฝั่งทางนี้ไป โอกาสเราเสียสละทั้งกำลังกายกำลังใจ ช่วยกันทำให้เป็นแหล่งบุญแหล่งอานิสงส์ใหญ่ เป็นสิริมงคลใหญ่ให้กับทุกคน ให้กับเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดาทั้งหลายที่ได้มากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ใกล้จะถึงวันเข้ามาแล้ว ก็เหลืออีกประมาณสัก 2 อาทิตย์กว่าๆ ก็จะได้เห็นองค์พระพุทธรูปใหญ่ หยกแม่กวนอิมใหญ่ ทุกคนก็มาร่วมแรงร่วมกายร่วมใจกันเท่าที่โอกาสอำนวยให้ ญาติโยมก็มาปราวณาตั้งโรงทานกันเยอะอยู่ 40-50 ท่าน ที่พากันมาตั้งโรงทาน กว่าจะถึงวันงานก็คงจะมาเพิ่มอีกเยอะ นี่แหละอนุภาพแห่งบุญ ไม่ให้อดไม่ให้อยากไม่ให้หิว มีตั้งแต่ความอิ่ม ความอิ่มความปีติความสุข
วันงานญาติโยมท่านใดมีโอกาส อยากจะเอาผลหมากรากไม้มาร่วมบูชา ตั้งโต๊ะบูชา บูชาระลึกนึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ระลึกนึกถึงคุณของเหล่าเทวดา ระลึกนึกถึงสถานที่ ตอบแทนบุญคุณสถานที่ เอามาบวงสรวงเอามาบูชาก็เอามาได้นะ เอามาได้ พวกกล้วยพวกอ้อยพวกผลหมากรากไม้ต่างๆ ก็คงจะเอามาตั้งโต๊ะขึ้นแท่นบูชา ก็ประมาณวันที่ 20 ก็คงจะเป็นวันที่ 20 ก็ใกล้แล้ว นี่แหละวันที่รอคอย ปีหนึ่งเต็มๆ วันที่ 21 เดือนธันวาคม ปีกลายนี่ก็ลงมือตัดตอไผ่ตัดต้นไผ่ ก็มาประจวบเหมาะกับวันที่ 21 ก็เป็นวันครบรอบที่องค์หลวงปู่ใหญ่จะเข้ามา 1 ปีเต็มๆ ช่วยกันทำ หนักทั้งกาย เพราะว่าความเสียสละ ผ่านกาลผ่านเวลา ผ่านร้อนผ่านหนาว จากหนักก็เป็นเบา จนเกือบจะสำเร็จ 100% ได้แกะสลักแม่กวนอิมเสร็จหมดเมื่อไหร่นั่นแหละ บริบูรณ์หมด เต็มอิ่ม ญาติโยมก็จะได้มากราบมาไหว้ มาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต มีพร้อมมูลหมดให้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่พระบรมสารีริกธาตุก็ได้อัญเชิญส่วนที่ท่านเสด็จมา
วันที่ 12 หลวงพ่อก็คงจะได้ไปอัญเชิญส่วนที่จะได้มาประดิษฐาน ที่เก็บที่ได้ทำตลับเงินตลับทองตลับนาคซ้อนกันอยู่ เอาไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเพื่อที่จะมาบรรจุที่เกศขององค์พระพุทธรูป ซึ่งสร้างขึ้นมาแทนองค์พระองค์พุทธเจ้า มีโอกาสก็ได้มาร่วมกัน งานวันนั้นญาติโยมก็คงจะมาเยอะ ใครได้ยินข่าวได้ทราบข่าวก็มา พระเราก็ช่วยกันดูแลทำความสะอาด ปลูกต้นไม้ พวกชีเราก็เหมือนกัน
เดี๋ยววันที่ 11 หลวงพ่อก็จะได้ให้เอาต้นไม้มาอีก 50 กว่าต้น ให้พากันแบ่งกันไปปลูกตามที่ต่างๆ ตามกุฎิตามวิหาร ได้ต้นจันผามา ทางศาลาพักศพก็ให้หลวงตาสง่าท่านดูแล ช่วยกันนั่นแหละ พระทุกองค์ทุกรูปช่วยกันดูแลช่วยกันปลูกขึ้นมา
ภายใน 5 ปี 10 ปีข้างหน้า ก็จะเป็นสถานที่น่าอยู่น่าอาศัยน่ารื่นรมย์ เดินไปที่ไหนก็หอมกรุ่นไปด้วยดอกจันผา หอมกรุ่นไปด้วยต้นวาสนา ทุกสิ่งทุกอย่าง ต้นไม้ก็ให้ร่มเงาร่มรื่น พากันช่วยกันดูแลทำความสะอาดให้เป็นระเบียบ
ทุกคนก็มีระเบียบอยู่ในตัว ทุกคนก็มีข้อวัตรอยู่ในตัว ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นได้บังคับ เพราะว่าทุกคนก็ปรารถนาในทางดับทุกข์ในทางหลุดพ้น โตกันทุกคน ไม่จำเป็นต้องไปพูดมาก ไม่ต้องจำเป็นต้องไปบอกยากสอนยาก ถ้าบอกยากสอนยากก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ อย่าให้หมู่คณะได้ลำบาก มองดูรู้อะไรควรทำ อะไรควรละ นี่แหละถึงอยู่ด้วยกันเยอะๆ ก็มีความสุข ไม่ขัดแย้งกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ตำหนิไม่อคติไม่เพ่งโทษ
มีอะไรเราก็ช่วยกันได้ บอกกันได้ใช้กันได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ดูแลตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้ถูก อย่าให้ต้องได้บังคับเคี่ยวเข็ญเหมือนกับบางที่บางที่ อยู่ด้วยกันองค์สององค์ รูปสองรูปก็ไม่ถูกกัน ถ้ายิ่งอยู่ด้วยกันเยอะๆ ถ้าไม่มีความรักความสมัครสมานสามัคคี ผู้น้อยก็เชื่อฟังผู้ใหญ่ มีเหตุมีผล ผู้ใหญ่ก็เชื่อฟังผู้น้อย ต่างคนก็ต่างให้ความเคารพซึ่งกันและกัน
เราอยู่ด้วยกันเหมือนพ่อเหมือนแม่ เหมือนพี่เหมือนน้อง เป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องไปจ้ำจี้จ้ำไชอะไรมากมาย มีอะไรก็ช่วยกัน หลวงพ่อก็พยายามทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสมมติภายนอกก็ให้ไม่ลำบากทุกสิ่งทุกอย่าง สภาพสภาวะร่างกายของหลวงพ่ออาจจะอ่อนแอลงไปเยอะ หลวงพ่อรู้ตัวของหลวงพ่อดี พยายามพากันช่วยกัน ตื่นเช้าพากันมาทำวัตรสวดมนต์ ไปบิณฑบาต ดูแลทำความสะอาด ให้เป็นหน้าที่กิจวัตรประจำวันของทุกคน อย่าพากันเกียจคร้าน ถ้าเกียจคร้านแล้วก็ อย่าให้ได้ตักเตือนหลายครั้ง หลวงพ่อก็เล่าให้ฟังอยู่ทุกวัน เราก็จะอยู่ดีมีความสุขกัน ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อเอา