หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 104

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 104
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 104
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้ให้มีให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา ด้วยการเจริญอานาปานสติ ระลึกรู้การหายใจเข้าออกของตัวเราเอง นั่งตามอิริยาบถให้สบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ลองหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ให้ทั่วท้องสัก 2-3 เที่ยว ความคิดต่างๆ ก็จะหยุดไป กายของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราได้น้อมสำรวจตัวเราแล้วหรือยัง หมั่นวิเคราะห์กายหมั่นวิเคราะห์จิต สำรวจบ่อยๆ การสำรวจนั่นแหละคือตัวสติ สำรวจภายใน น้อมสำเนียกวิเคราะห์พิจารณา อะไรกุศลอะไรอกุศล อะไรควรเจริญอะไรควรละ

ทุกคนก็มีบุญ บุญเก่าก็มีบุญใหม่ก็มี พากันสร้างพากันทำอยู่ตลอด แต่การสังเกตการวิเคราะห์ การดับการละการคลาย ยังทำไม่ค่อยจะต่อเนื่องกัน เพราะความไม่เคยชิน แม้ตั้งแต่การเจริญสติ ระลึกรู้การหายใจเข้าออก พวกเราก็ปล่อยปละละเลย เพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่อยู่กับกายของเรานี่แหละ พากันปล่อยปละละเลย จะระลึกรู้ก็รู้เท่าทันอยู่ แต่ทำไม่ต่อเนื่อง เพราะความเคยชินเก่าๆ ความคิดเก่าๆ ปัญญาเก่าๆ ส่งออกไปข้างนอกก่อน เราต้องมาสำรวจ คลาย สำรอกของเก่าออก ละทิฏฐิ ละมานะ ละความคิดเห็นเก่าๆ ออก

ทำอย่างไรเราถึงจะละออกได้ เราก็ต้องหมั่นสังเกตบ่อยๆ จนกว่าจะเห็นต้นเหตุ ทุกสิ่งทุกอย่างมีเหตุมีผลหมด ไม่ว่าทางด้านรูปธรรมทางด้านนามธรรม เหตุผลทางด้านการเกิดการดับของจิต การเกิดการดับของขันธ์ห้า ถ้าพูดตามภาษาหลักธรรม เขาเรียกว่า ‘สภาวธรรม’ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป หรือว่า ปฏิจจสมุปบาท ที่ภาษาธรรมะชอบพูดกัน

การเกิดๆ ดับๆ ความคิดก็เลยมาปิดบังดวงจิตเอาไว้ แม้แต่กายของเรา ทุกขเวทนาทางด้านร่างกายของเรา เราเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ อิริยาบถก็เลยมาปิดบังทุกข์ทางร่างกายของเราเอาไว้ ถ้าเราหมั่นสังเกตดูรู้ให้ชัดเจน เราก็รู้ว่าอันนี้คือส่วนรูปธรรม อันนี้คือส่วนนามธรรม เขาอาศัยกันอยู่ แต่เวลานี้เขารวมกันเป็นสิ่งเดียวกัน ก็เลยขาดการจำแนกแจกแจง ก็เลยไปเหมารวมไปหมดว่าเป็นของเรา เป็นตัวเรา เป็นตัวของเราที่แท้จริง

ในทางสมมติเป็นของเราอยู่ แต่ในทางหลักธรรม จริงๆ แล้วเป็นแค่เพียงสภาวธรรมมาประชุมรวมกันเข้า ซึ่งเรียกว่า ‘ธาตุ’ ธาตุดินน้ำลมไฟ มีหนังหุ้มห่อ มีวิญญาณเข้ามาครอบครอง อันนี้ถ้าไม่จำแนกแจกแจงให้ละเอียดก็ยากที่จะเข้าใจตรงนี้ แต่จิตทุกดวงก็มุ่งที่จะเข้าสู่จุดหมายปลายทางคือความหลุดพ้น ความสะอาด ความหลุดพ้น

เราก็ต้องพยายามสร้างบารมีกัน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เรามีความเกียจคร้าน เราก็ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียรให้กับตัวเรา เรามีความเสียสละอย่างเต็มเปี่ยมหรือไม่ เรามีสัจจะกับตัวเราเอง เป็นคนช่างสังเกต เป็นคนมีพรหมวิหาร มีความเมตตา มองโลกในทางที่ดี คิดดี การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อมถึงจะเกิดประโยชน์ สักวันหนึ่งเราคงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน

ถ้าคนใดมาหมั่นวิเคราะห์หมั่นพิจารณาดูอยู่บ่อยๆ ก็จะถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วได้ไว ไม่ต้องรอเอาภพหน้าหรอก เอาภพปัจจุบันนี้แหละ ทำให้ถึงเดินให้ถึง ถ้าตราบใดที่เรายังสนใจฝักใฝ่อยู่ ไม่ถึงวันนี้ก็ต้องถึงวันพรุ่งนี้ ไม่ถึงพรุ่งนี้ก็ถึงเดือนหน้าปีหน้า ถ้าไม่ถึงจริงๆ ก็ไปต่อภพหน้า เพราะว่าจะเป็นอุปนิสัยติดตามตัวเราไป

ทุกขณะทุกเวลา กายของเราแตกดับ กำลังยังเหลืออยู่ที่ดวงจิตของตัวเราเองที่จะต้องเกิด ตราบใดที่จิตยังเกิดอยู่ ถ้าจิตยังเกิดอยู่ก็ขอให้เกิดอยู่ในฝ่ายบุญฝ่ายกุศล อย่าไปเกิดในกองอกุศลซึ่งเป็นความทุกข์ทรมาน ให้เกิดอยู่ในกองกุศล ซึ่งเป็นฝ่ายความสะดวกสบาย ความสุขทางด้านจิตใจ

มีโอกาสก็อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง ตามความเป็นจริงนั้นทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีเวลาเท่าเทียมกันหมด ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งหมดลมหายใจ โอกาส เวลา ไม่ได้ซื้อ การหายใจเข้าออกเราก็ไม่ได้ซื้อได้ขาย เราก็ต้องพยายามหัดสังเกต แต่ละวันตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราน้อมสำรวจกายสำรวจจิตของเราแล้วหรือยัง ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ จะลุกจะก้าวจะเดินมีความรู้สึกรับรู้ จะไปไหนมาไหนก็ให้จิตรับรู้ ไม่ใช่ว่าจิตส่งออกไป คิดไปก่อน

ตามปกติทั่วไปนั้น จิตของทุกคนชอบคิดชอบเที่ยว พอมาฝึกหัดปฏิบัติก็เลยอึดอัด อาจจะอึดอัดตั้งแต่ช่วงใหม่ๆ เท่านั้นแหละ การได้ยินได้ฟังได้อ่าน ได้ศึกษาค้นคว้าทุกคนมีกันเต็มเปี่ยมกันดูแล้ว การลงมือสังเกตการลงมือวิเคราะห์ รู้ไม่เท่าทันก็รู้จักดับ ทุกคนก็มีบุญนะ มีโอกาสได้ร่วมบุญกัน

วันที่ 21 เดือนหน้า หลวงพ่อจะได้อัญเชิญพระพุทธรูปหยกใหญ่องค์ขาว หยกใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศของเรา แล้วก็พระแม่กวนอิมโพธิสัตว์สูง 7 เมตร มาประดิษฐานที่วิหารที่พวกเราได้ช่วยกันทำได้ช่วยกันสร้างคนละไม้ละมือ จากจุดน้อยๆ ในวันข้างหน้าก็จะเป็นแหล่งบุญใหญ่มหึมา เพราะว่าความเป็นสิริมงคล หลวงพ่อได้อัญเชิญมาไว้ที่วิหารตรงนี้ ทั้งพระบรมสารีริกธาตุซึ่งเป็นส่วนที่ท่านเสด็จมา ได้ไปอัญเชิญมาจากบ้านของคุณลุงทองดี ที่ท่านเสด็จมามากมายมาอยู่ที่นั่น

พวกเรามีโอกาสมีบุญมีอานิสงส์ถึงได้อัญเชิญมาที่นี่ได้ ท่านก็ได้มีความเมตตาอนุเคราะห์ให้ แบ่งมาให้ เพื่อที่จะมาประดิษฐานอยู่ ณ สถานที่ตรงนี้ แล้วก็มีพระพุทธรูปหยก หยกใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในประเทศไทยของเรา แล้วก็เป็นหยกขาว หยกเขียว หลายปางด้วย ปางมารวิชัย ปางสมาธิ ปางประทานพร ปางสีหไสยาสน์ แล้วก็รอยพระบาทหยก ซึ่งทุกคนก็ได้ร่วมแรงร่วมกายร่วมใจกัน จัดทำจัดสร้างเพื่อที่จะเป็นเครื่องบูชา ระลึกนึกถึงคุณพระพุทธ ระลึกนึกถึงคุณพระธรรม พระสงฆ์ ระลึกนึกถึงองค์ศาสดา เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

อยากจะดับทุกข์อยากจะหลุดพ้น เราก็ต้องประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านให้ถึงจุดหมายปลายทาง มีโอกาสก็ขอเชิญญาติโยมทุกคนได้มาร่วมกัน วันที่ 21 มาสร้างโรงทานให้เป็นมหาโรงทาน โอกาสเปิดให้สถานที่เปิดให้ เรามีโอกาสก็อย่าไปพลาดโอกาส อย่าคิดว่าไม่ทำ ต้องทำ มีโอกาสก็ให้ทำ ถึงกายของเราเข้ามาร่วมไม่ได้ ก็ให้น้อมใจเข้ามาอนุโมทนาสาธุร่วมกัน ก็จะได้อานิสงส์มากมายมหาศาลกัน มีโอกาสแล้ว เราอย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง หลวงพ่อก็เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาร่วมกันได้มาช่วยกัน

ไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง ไม่ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ อยากเจริญสติ อยากเจริญภาวนา อยากจะหากายวิเวก ต้องการที่จะมาทำความเข้าใจก็มาได้ตลอดเวลา สถานที่ตรงนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน เป็นสมบัติของทุกคน เป็นสมบัติของแผ่นดิน มีโอกาสเข้ามาช่วยกัน หลวงพ่อก็เป็นแค่เพียงสะพาน เป็นทางผ่านให้ทุกคนได้มาสร้างบุญสร้างอานิสงส์กันให้เต็มเปี่ยม หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมทุกๆ คน ก็ให้อยู่ดีมีความสุขกัน

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง